“หลังจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ครั้งล่าสุด ร้านเงียบมาก รายได้เหลือเพียงวันละประมาณ 2,000 บาทจากที่เคยได้วันละ 12,000 บาท เราเองก็รู้สึกท้อนะ เพราะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ประจำเดือนที่ต้องจ่าย ทั้ง ค่าเช่าร้าน ค่าวัตถุดิบ ค่างวดรถ ค่าบ้าน ค่าสาธารณูปโภค ฯ หาทางออกไม่ได้เลยว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้ ขนาดสมัครแอพพลิเคชั่นดิลิเวอรี่ เพิ่มช่องทางขายอาหาร แต่ก็ช่วยได้ไม่เยอะ” “เวียงแก้ว นิลแก้ว” เจ้าของร้านป้าแก้วตามสั่ง ย่านเตาปูน บอกเล่าความยากลำบากที่เกิดขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ
ไม่ต่างกับ ร้านหมูตกมันส์ ข้าวหมูทอด สะพานซังฮี้ ของ “ยิ่งชีพ เกิดทองเล็ก” ที่บอกว่า “สถานการณ์โควิดรอบนี้ มีคนติดเชื้อจำนวนมากรวมถึงละแวกที่ตั้งร้าน ก็ต้องตัดสินใจปิดร้าน เพื่อป้องกัน แล้วก็มาเปิดขายแบบดิลิเวอรี่ที่บ้าน ย่านจังหวัดนนทบุรี เพื่อหารายได้ทดแทนกลับคืนมาบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยดีนัก”
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก-กลาง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ต้องพบเจอหลากหลายปัญหา ประสบความยากลำบากในการประคองธุรกิจให้อยู่รอด
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในสถานการณ์โควิดปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย รายกลาง ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ยอดขายตกลงกว่า 40-80% แม็คโคร ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในทุกวิถีทาง โดยที่ผ่านมา แม็คโครมีมาตรการช่วยเหลือในด้านต่างๆ อาทิ การเปิดอบรมคอร์สออนไลน์ สอนทำอาหารกล่องดิลิเวอรี่ และเทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยให้ร้านอาหารปรับตัวรับกระแสการบริโภคในรูปแบบใหม่ โดยอบรมผ่านเว็บไซต์ www.makrohorecaacademy.com หรือ MHA โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังได้เปิดพื้นที่ฟรีบริเวณหน้าสาขา 83 แห่ง ให้กับร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบมาตั้งโต๊ะขายอาหารกล่องและรับออเดอร์ดีลิเวอรี่ ช่วยให้ร้านอาหารกว่า 1,300 ราย มีช่องทางในการจำหน่าย และมีรายได้เพิ่มขึ้น ล่าสุดในโครงการครัวปันอิ่ม ของกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี แม็คโครเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่เข้าร่วมขับเคลื่อน ซึ่งนอกจากจะมอบอาหาร 2 ล้านกล่องให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 40 ชุมชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้ว โครงการนี้ยังช่วยสนับสนุนร้านอาหารรายย่อย-รายกลาง อีกจำนวนมากให้มีรายได้ ประคับประคองธุรกิจได้ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว”
ซึ่งรวมถึง ร้านป้าแก้วตามสั่ง และ ร้านหมูตกมันส์ ข้าวหมูทอด สะพานซังฮี้ ก็ได้มีโอกาสรับออเดอร์และเข้าร่วมโครงการครัวปันอิ่มนี้ด้วยเช่นกัน
“เวียงแก้ว” บอกว่า “พอทราบข่าวว่ามีโครงการครัวปันอิ่ม ก็ตัดสินใจเข้าร่วม ดีใจมาก ทำให้เรามีรายได้ที่แน่นอนขึ้น ทำให้มีรายได้ไปต่อยอดในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ถือว่าช่วยร้านอย่างเราได้เยอะมาก ขณะเดียวกัน ร้านก็คิดว่า ได้ทำบุญไปด้วยในตัว เพราะอาหารที่ครัวปันอิ่น ส่งต่อไปยังผู้ได้รับผลกระทบ ทั้ง ผู้กักตัวที่ไม่สามารถออกนอกบ้านได้ ผู้ป่วยตามโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์พักคอย ช่วยให้พวกเขาได้อิ่ม ไม่ต้องเดินทางไปข้างนอก”
ส่วน “ยิ่งชีพ” เขามองว่า โอกาสที่ได้รับครั้งนี้ ทำให้มีรายได้ต่อวันที่แน่นอน ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีคนสั่งอาหารจากร้านไหม ยอดขายจะพอหรือเปล่า ยอดจากครัวปันอิ่ม ช่วยเป็นทุนต่อยอดให้กับเรา โดยส่วนตัวผมยังมองว่า นี่ยังเป็นการช่วยเหลือสังคม เป็นประโยชน์ต่อชุมชนโดยตรง ช่วยเหลือคนไม่มีรายได้ คนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ให้มีข้าวกินสำคัญ เงินสามารถช่วยให้เขาไปซื้อของที่ต้องการได้ แต่ อาหาร สำหรับบางคนอาจจะออกไปหาซื้อไม่ได้เลย อาหารใน 1 วัน ทำให้คนมีชีวิตอยู่รอด”
สำหรับ “แม็คโคร” นโยบายเคียงข้างผู้ประกอบการ ถือเป็นพันธกิจสำคัญของการดำเนินธุรกิจตลอด 32 ปีในเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แม็คโครได้ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือและประคับประคองให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้อยู่รอดพ้นโควิดไปด้วยกัน