สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้มูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์” เพื่อให้ความรู้เรื่องคุณประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดชา การสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่สูงด้วยการปลูกต้นชาน้ำมัน การฟื้นฟูป่าไม้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์ และผลิตผลจากการพัฒนาโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนา ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักและมีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
การจัดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์”ครั้งนี้ ถือเป็นการสัญจรครั้งที่ 4 โดยในครั้งที่ 1 ได้จัดที่ห้างเดอะมอลล์ โคราช เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2561 ครั้งที่ 2 จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้า บลูพอร์ต หัวหิน วันที่ 4 ธันวาคม 2561 และ ครั้งที่ 3 จัดขึ้น ณ ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์บางแควันที่ 24 มกราคม 2562
การจัดงานทั้งสามครั้ง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประชาชนรู้จักน้ำมันเมล็ดชาและสินค้าของ
ภัทรพัฒน์ เพิ่มมากขึ้น จึงเกิดแนวคิดในการจัดงานสัญจรไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อเผยแพร่แนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เรื่องคนอยู่ร่วมกับป่า และพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา ให้นำเมล็ดพันธุ์ต้นชาน้ำมันจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาศึกษาทดลองปลูกในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และกระตุ้นให้คนไทยใส่ใจในสุขภาพ
“เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์” มูลนิธิชัยพัฒนา สัญจร ที่ ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิชัยพัฒนา และ บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 –28 สิงหาคม 2562 บริเวณชั้น G กูร์เมต์ มาร์เก็ต โดยในวันเปิดงาน ได้รับเกียรติจากนางภากมล รัตตเสรี กรรมการและรองเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ เพชรดากูล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมเปิดงาน
“เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์”มูลนิธิชัยพัฒนา สัญจร ณ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ บริเวณชั้น G โดยภายในงานจัดหลายหลายกิจกรรมทั้ง ชม ชิม ช้อป กับหลากหลายของผลิตภัณฑ์สินค้า ภัทรพัฒน์ อาทิ
ชม – นิทรรศการการเดินทางของ “น้ำมันเมล็ดชา” จากประเทศจีน สู่เทือกเขาสูงในประเทศไทยจนเกิดน้ำมันเมล็ดชาที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก” หนึ่งในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ “สร้างป่า
สร้างอาชีพ ก่อเกิดน้ำมันเพื่อสุขภาพ”พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทย
ช้อป – “น้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์” และสินค้าภัทรพัฒน์ (PATPAT) “ผลิตผลจากการพัฒนาโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนา” ในราคาพิเศษที่จัดมาเพื่องานนี้เท่านั้น
ชิม – อาหารปรุงจากเชฟชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ละวันจะมีเชฟผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสาธิตการปรุงอาหารจากน้ำมันเมล็ดชาให้ได้ชมและชิมกันในงาน และในวันเปิดงานวันแรกหม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามเชฟป้อม Master Chef Thailand มาปรุงอาหารเมนูพิเศษให้แขกที่มาในงานได้ชิมเมนูที่ใช้น้ำมันเมล็ดชาทำ คือ เมนูชีสทอดน้ำมันเมล็ดชา พร้อมกันนี้เชฟป้อมยังกล่าวถึงสาเหตุที่เลือกเมนูนี้ เนื่องจากจะทำให้เห็นว่า น้ำมันเมล็ดชา ใช้ได้หมดตั้งแต่รับประทานสด นำไปผัดและทอด ซึ่งน้ำมันบางชนิด ไม่สามารถอยู่เกินอุณหภูมิ 150 องศาได้ แต่น้ำมันเมล็ดชา เป็นน้ำมันที่ทนอุณหภูมิความร้อนได้สูงมาก และประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดชาก็มีสูงมากเช่นกัน เป็นน้ำมันที่ต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย พร้อมทั้งน้ำจิ้ม ที่ทำในวันนี้ก็มีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดชา นำไปตีกับมายองเนส ใส่หอมใหญ่สับ พริกขี้หนูซอย ใส่แตงกวาดองหวานสับ ใส่ดอกเกลือ และใส่มะนาวเพิ่มรสเปรี้ยว โดยเมนูนี้ทำรับประทานกันได้ง่ายๆ ในครอบครัว จึงอยากแนะนำคนที่รักสุขภาพหันมาใช้น้ำมันเมล็ดชา เนื่องจากน้ำมันเมล็ดชามีประโยชน์มาก นำมาใช้กับร่างกายเราได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
เกร็ดความรู้น้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริในปี พ.ศ.2547 ให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมัน
สายพันธุ์ Camellia oleifera จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้นมีพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน เพื่อเป็นโรงงานผลิตน้ำมันจากเมล็ดชาและพืชน้ำมัน ซึ่งโรงงานนี้จะผลิตน้ำมันคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคและทำผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง เป็นต้น
การศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมันได้เริ่มดำเนินการในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งถือเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมและเป็นการทดแทนป่าไม้
ที่ถูกทำลาย ขณะเดียวกันสามารถสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณประโยชน์ของการดูแลรักษาป่า อยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเข้าใจและพึ่งพิงกัน เป็นไปตามพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่า” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อันจะนำไปสู่วิถีแห่งความสุข ความสมดุล และความยั่งยืนในที่สุด
ส่วนน้ำมันเมล็ดชานั้นเป็นที่รู้จักในสาธารณรัฐประชาชนจีนมานานกว่า 1,000 ปี มีประโยชน์มากจนได้ชื่อว่า “น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก” เนื่องจากมีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อร่างกายไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก และไม่มีกรดไขมันทรานส์ ทั้งยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี เค ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ น้ำมันเมล็ดชายังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตันและโรคหัวใจ
น้ำมันเมล็ดชาประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยยืดอายุของน้ำมันให้นานขึ้น อีกทั้งน้ำมันเมล็ดชามีจุดเดือดสูง จึงทำให้นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทอด การผัด การหมักหรือใช้เป็นส่วนผสมของน้ำสลัด น้ำมันเมล็ดชาเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพของคน ทุกเพศ ทุกวัย ปัจจุบันน้ำมันเมล็ดชาได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากหลายสถาบัน อาทิ องค์การอาหารและยา กรมวิชาการเกษตร และสถาบันอาหาร นอกจากนี้มูลนิธิโรคหัวใจ ยังได้อนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” ในสินค้าน้ำมันเมล็ดชาภายใต้ตราสินค้าภัทรพัฒน์ด้วย