ถัดจากนมแม่ กล้วยน้ำว้าบดนุ่มๆ เป็นอาหารมื้อแรกในวัยแบเบาะของใครหลายคน เพราะมีคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม โปรตีนและกรดอะมิโนจำนวนมากที่ดีต่อการเจริญเติบโตในเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป (แต่! ไม่เป็นมิตรและอันตรายถึงชีวิตหากป้อนกล้วยให้เด็กอายุต่ำกว่านี้ ที่ระบบย่อยยังไม่พัฒนาเต็มที่) ไม่เพียงแต่บ้านเราที่ป้อนกล้วยบดให้เด็กทารก หลายประเทศในเอเชียอาคเนย์ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของต้นกล้วยก็ใช้กล้วยงอมบดรสหวานเป็นอาหารสำหรับเด็ก อีกนัยยะ กล้วยจึงเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้น ความงอกงามและการเจริญเติบโต
กล้วยปรากฏอยู่ในหลายพิธีกรรม ความเชื่อ เป็นผลไม้มงคลที่ขาดไม่ได้ ไล่ตั้งแต่งานแต่ง เซ่นไหว้บรรพบุรุษ เทวดา และงานบวงสรวงต่างๆ กล้วยที่ผ่านพิธีจึงเป็นที่หมายตา เพราะเชื่อว่าถ้าใครได้กินก็จะนำเรื่องกล้วยๆ มาสู่ตน การงานผ่านฉลุย ชีวิตงอกงามเหมือนเครือกล้วยที่แตกหวีออกผลอุดม ศึกแย่งชิงกล้วยระหว่างผู้ร่วมพิธีจึงเกิดขึ้นในบางครั้ง นั่นเป็นเรื่องของความเชื่อและศรัทธาล้วนๆ ส่วนความจริงกล้วยแม้ไม่ผ่านพิธีกรรมใดๆ ก็เป็นผลไม้ที่กินแล้วดีต่อตัวเราแน่ๆ ผลกล้วยดิบมีสารแทนนิน (tannin) ช่วยระงับอาการท้องร่วง ท้องอืด ดีต่อลำไส้ ส่วนผลสุกกินง่ายนั้นมีสารแพกติน (pectin) และเส้นใยอาหารสูงจึงช่วยย่อย ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
ด้วยความหลากหลายของชนิดกล้วยจึงเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่ายตลอดทั้งปี แต่ละชนิดมีประโยชน์และรสสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ ให้เราได้เลือกผลัดเปลี่ยน แล้วแต่ความชอบ กินเอาอิ่มหรือเริ่มต้นลองปรับเปลี่ยนให้กล้วยเป็นมื้อระหว่างวันแทนขนมขบเคี้ยว อิ่มท้องแล้วยังได้ประโยชน์ เป็นมิตรกับร่างกายและเงินในกระเป๋าเราอย่างมาก เพราะราคาย่อมเยา อย่างกล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยเล็บมือนาง ตามท้องตลาดราคาหวีละตั้งแต่ 15 บาทขึ้นไป แพงขึ้นมาหน่อยก็กล้วยหอมหวีละ 70 บาทขึ้นไป
กล้วยน้ำว้า ผลสุกเนื้อแน่น หนึบ หวาน อุดมด้วยธาตุเหล็กบำรุงโลหิต มีโปรตีน วิตามินซี วิตามินเอและแคลเซียมสูงจึงช่วยต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ทั้งยังบำรุงกระดูกและฟัน โพแทสเซียมช่วยสร้างสมดุลโซเดียม ส่งผลต่อความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ ทั้งยังมีสารทิปโตซานที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ในผลดิบและห่ามมีสารให้รสฝาดอย่างแทนนินอยู่จำนวนมาก ซึ่งช่วยยับยั้งแบคทีเรีย และสารเซโรโทนิน ที่กระตุ้นกระเพาะอาหารให้สร้างเมือกออกมาเคลือบแผล จึงดีต่อกระเพาะและลำไส้ ผลดิบนิยมประกอบอาหารคาวอย่างแกงลูกกล้วย หรือกล้วยดิบฝานชิ้นที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีในอาหารเวียดนามอย่างเมนูแหนมเนือง ส่วนตำรับแพทย์แผนไทยนั้นใช้กล้วยน้ำว้าดิบฝานตากแห้งบดผง ชงกับน้ำดื่มเพื่อแก้อาการท้องร่วง แผลในกระเพาะ
กล้วยหอม ใครชอบดูการแข่งขันเทนนิสคงเคยเห็นนักเทนนิสกินกล้วยหอมระหว่างพักเบรก แม้แต่นักวิ่งมาราธอนก็พึ่งพากล้วยหอมระหว่างพิชิตเส้นทางอันยาวไกล เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมาก กล้วยหอมมีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย สามารถนำพลังงานไปใช้ได้ทันที และยังอุดมด้วยโพแทสเซียมกับแมกนีเซียมที่ช่วยควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ ขณะออกกำลังกายเราจะเสียแมกนีเซียมบางส่วนทางหยาดเหงื่อ เท่ากับว่ากินกล้วยหอมก็ช่วยเติมส่วนที่สูญเสียไป ทำให้อัตราเสี่ยงเกิดตะคริวระหว่างออกกำลังกายลดน้อยลง
กล้วยน้ำว้าหรือกล้วยเล็บมือนางก็มีสรรพคุณใกล้เคียงกันนะคะ เพียงแต่ต่างประเทศไม่ได้มีกล้วยมากชนิดให้เลือกเหมือนบ้านเรา อีกทั้งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์รวมถึงเนื้อสัมผัสที่ไม่แน่นจนเกินไปอาจทำให้กล้วยหอมกินง่าย และตอบโจทย์มากกว่า
กล้วยไข่ เนื้อเนียนนุ่ม เป็นของกินคู่กระยาสารทกวนรสหวานมัน ในเทศกาลสารทเดือนสิบมีประเพณีกวนกระยาสารทถวายพระสงฆ์เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ญาติผู้ล่วงลับ ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่กล้วยไข่แตกเครือออกผลมากจึงนิยมถวายคู่กันเพราะรสชาติกลมกล่อมเข้ากันได้ดี แหล่งกล้วยไข่คุณภาพดีอยู่ที่กำแพงเพชร และสีเหลืองส้มๆ ของกล้วยไข่นั้นเป็นแหล่งเบตาแคโรทีนจำนวนมาก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณและชะลอความเสื่อมของเซลล์
กล้วยเล็บมือนาง เป็นกล้วยที่กลายพันธุ์มาจากกล้วยป่า ด้วยรูปทรงผลกล้วยที่เหมือนเล็บมือผู้หญิง จึงถูกตั้งชื่อให้สอดคล้องกับรูปลักษณ์ว่าเล็บมือนาง ปลูกมากทางภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร ส่วนตัวคิดว่าเป็นกล้วยที่มีรสสัมผัสคล้ายคลึงกล้วยหอมย่อส่วน กลิ่นหอม รสไม่หวานมาก กินง่าย และด้วยความไซส์จิ๋วเป็นจุดเด่นทำให้กินเพลิน กินเล่นลูกสองลูกก็ไม่อิ่มจนเกินไป มีโปรแทสเซียม ฟอสฟอรัส ที่ดีต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบประสาทและความดันโลหิต
พบได้มากทางภาคใต้แถบจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช ผลดิบยังนิยมนำไปประกอบอาหารจำพวกแกง หรือแม้แต่เปลือกกล้วยดิบก็ลอกนำไปต้มจิ้มแนมกับน้ำพริกเป็นอาหารพื้นถิ่นที่คนในพื้นที่กินแล้วว่าหรอยแรง ส่วนคนต่างถิ่นสิ่งที่คุ้นลิ้นอีกอย่าง คือกล้วยเล็บมือนางอบแห้งหรืออบน้ำผึ้งทั้งผลนั่นเองค่ะ
นอกจาก 4 ชนิดกล้วยที่หลายคนคุ้นเคยดี ในไทยยังมีกล้วยอีกมาก เพราะได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่อุดมด้วยกล้วยนานาพันธุ์ อีกชนิดที่อยากแนะนำคือ กล้วยหักมุก ค่ะ นิยมนำมาปิ้ง เป็นอีกหนึ่งกล้วยปิ้งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส โดยจะปิ้งทั้งเปลือกให้เกรียมๆ ผ่าเปลือกกลางลูกให้เห็นเนื้อในสุกเหลืองเข้ม เนื้อนุ่มเนียน รสชาติหวานแซมมันนิดๆ ไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มเพิ่มรสเลย โดยในกล้วยหักมุกมีสารไซโตอินโดไซด์ที่ต้านการเกิดแผลในกระเพาะ จึงช่วยป้องกันโรคกระเพาะ และบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดี
อีกชนิดคือ กล้วยหิน ที่มีถิ่นฐานอยู่ชายแดนใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดยะลา ได้ชื่อนี้มาเพราะเติบโตได้ดีในพื้นที่หินกรวด ผลสุกนั้นไม่ค่อยมีรสชาติจึงนิยมนำมาประกอบอาหารจำพวกแกง และนำไปต้มทั้งเปลือกจึงจะได้รสชาติหวานอร่อย จุดเด่นคือมีเนื้อเหนียวเมื่อนำมาฉาบจึงได้กล้วยฉาบกรอบกว่ากล้วยอื่นๆ เป็นขนมกินเล่น เคี้ยวเพลินได้ประโยชน์ค่ะ