กินตามกาลเดือนนี้ ถ้าไม่หยิบเอามะยงชิดขึ้นมาก็คงจะตกเทรนด์เป็นแน่ ด้วยความเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ รสเปรี้ยวอมหวานหน่อยๆ แถมมีกลิ่นหอม จะเอามาทำเมนูทั้งคาวและหวานก็อร่อยไม่แพ้กัน ส่วนมากนิยมเอามาทำเป็นมะยงชิดลอยแก้ว กินคลายร้อนในช่วงกำลังจะเข้าฤดูร้อนอย่างเต็มตัว
ก่อนจะไปซื้อหามะยงชิด มาทำความรู้จักน้องแบบชัดๆ ก่อน เพราะหลายคนยังสับสนระหว่างมะยงชิดกับมะปราง ซึ่งไม่ว่ากัน เพราะยุคนี้ผลไม้ทั้งสองชนิดมีความคล้ายคลึงกันจนแทบจะแยกไม่ออกแล้ว ถึงแม้คนเฒ่าคนแก่จะบอกว่ามะยงชิดลูกใหญ่เหมือนไข่ไก่ ส่วนมะปรางลูกเล็กกว่าและมีสีเหลืองนวล แต่ปัจจุบันเราแทบจะใช้ข้อสังเกตนี้มาแยกไม่ได้แล้ว สิ่งเดียวที่แยกมะยงชิดกับมะปรางได้คือ ‘การชิม’ เพราะเจ้าผลไม้คู่ซี้คู่นี้หน้าตาคล้ายก็จริง แต่รสชาติแตกต่าง โดยมะยงชิด-วัตถุดิบตามกาลที่เราเลือกมาใช้ในเดือนนี้ ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ามีรสหวานอมเปรี้ยว เนื้อแน่น กินได้เรื่อยๆ ส่วนมะปรางคู่ซี้นั้นจะมีรสชาติหวานแหลมหรือไม่ก็หวานจืด แถมกินมากๆ อาจคันคอได้ เพราะมะปรางมียางมากกว่ามะยงชิด
แต่เอาจริงๆ จะมะยงชิดหรือมะปรางก็อร่อยไม่แพ้กัน เข้าหน้าร้อนทีไรเราจึงมักจะเห็นร้านขนมร้านอาหารหยิบยกเมนูที่ทำจากเจ้าคู่ซี้คู่นี้มาทำเป็นเมนูอาหาร เมนูขนม หรือแม้แต่เมนูเครื่องดื่มต่างๆ นานา ให้ได้ลิ้มลอง ว่าแล้วก็หยิบมะยงชิดมาทำเมนูขนมหวานแสนอร่อยอย่าง มูสครีมชีสมะยงชิด กันดีกว่า ด้วยการนำเอาครีมชีสมาผสมรวมกันกับเนื้อมะยงชิดที่เอาไปปั่นแล้วกรองเอาแต่น้ำมาผสมทำให้เกิดเป็นเนื้อมูส ราดด้านบนเนื้อมูสด้วยเจลมะยงชิดรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ตบท้ายด้วยการโรยครัมเบิลกรุบกรอบรอบๆ เนื้อมูส ให้ได้รสสัมผัสที่อร่อยมากยิ่งขึ้น ตกแต่งจานด้วยเนื้อมะยงชิดสักเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟในหน้าร้อนนี้ได้แล้ว
กราฟิก: ณัฐฐินันท์ นนทสิงห์
