‘น้ำผึ้ง’ ยาอายุวัฒนะที่ไม่มีวันเน่าเสีย

5,841 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
แทบทุกชนชาติมีความเชื่อร่วมกันว่าน้ำผึ้งมีสรรพคุณบำรุงสุขภาพและเป็นยาอายุวัฒนะ ถือเป็นของพิเศษที่บางวัฒนธรรมถึงกับใช้ในการบูชาเทพเจ้า

น้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะของทุกชนชาติ ไม่ว่าจะยุโรป เอเชีย แอฟริกา ต่างมีความเชื่อร่วมกันว่าน้ำผึ้งมีสรรพคุณบำรุงสุขภาพและเป็นยาอายุวัฒนะ ถือเป็นของพิเศษที่บางวัฒนธรรมถึงกับใช้ในการบูชาเทพเจ้า ทั้งนี้เนื่องจากน้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตาลฟรักโทสกับกลูโคส มีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ทองแดง สังกะสี และสารประกอบอื่นๆ ที่ทำหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ 

น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางยาคือ สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ เพราะมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ความเข้มข้นนี้เองช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึงมีความเป็นกรดสูง และมีปริมาณโปรตีนต่ำ ทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็น น้ำผึ้งยังมีสารไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย นี่เองคือสาเหตุที่ทำให้น้ำผึ้งไม่มีวันหมดอายุ ไม่เน่า ไม่เสีย และเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า น้ำผึ้งคือยาอายุวัฒนะ

ไม่เน่าไม่เสียนานแค่ไหน จากหลักฐานที่พอหาได้ในตอนนี้ คือระหว่างสำรวจสุสานฟาโรห์ตุตันคามุนแห่งอียิปต์ นักโบราณคดีได้พบไหน้ำผึ้งที่ถูกปิดผนึกเอาไว้อย่างดี และเมื่อนำมาเคี่ยวด้วยความร้อน น้ำผึ้งในไหที่ถูกเก็บรักษามากว่า 3,300 ปี ก็พร้อมที่จะนำมากินอีกครั้ง แถมด้วยตำนานเล่าขานว่าหลังการตายเมื่อ 323 ปีก่อนคริสต์ศักราช พระศพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ถูกแช่ไว้ในโลงทองคำที่บรรจุน้ำผึ้งไว้เต็ม เพื่อรักษาไม่ให้ศพเน่าเปื่อยระหว่างการเดินทางขนย้ายพระศพจากเมืองบาบิโลนกลับสู่เมืองมาซีโดเนีย ซึ่งกินเวลายาวนานถึง3 ปี

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง 

เพิ่มความสดชื่นและเติมพลังงานให้ร่างกาย

ลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย

บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส

บำรุงสมอง ช่วยในเรื่องของความจำ

เสริมสร้างเซลล์ผิวหนัง

แก้ไอ แก้เจ็บคอ

ดีท็อกซ์ร่างกาย ดีต่อลำไส้และระบบขับถ่าย

รักษาโรคกระเพาะ

บรรเทาอาการภูมิแพ้

ช่วยให้นอนหลับง่าย

น้ําผึ้งแท้ดูยังไง

ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจสอบว่าน้ำผึ้งที่เราซื้อมานั้นเป็นน้ำผึ้งแท้ 100% หรือเปล่า นอกจากจะนำไปตรวจสอบในห้องแล็บ ซึ่งผู้บริโภคธรรมดาๆ อย่างเราก็คงไม่ทำกันถึงขั้นนั้น ทางที่ดีคือควรซื้อจากแหล่งที่เราไว้ใจได้ หรือใช้วิธีประเมินด้วยตัวเองก็พอช่วยได้ โดยน้ำผึ้งแท้จะต้อง

– มีความเข้มข้นและความหนืด ถ้าใสก็อาจจะแปลว่ามีน้ำผสมอยู่

– มีสีธรรมชาติ คือสีเหลืองอ่อนถึงน้ำตาลใส ไม่ขุ่นทึบ

– มีกลิ่นหอมตามชนิดของดอกไม้นั้นๆ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่ น้ำผึ้งจากดอกลำไย

– ไม่แยกชั้นและต้องเป็นเนื้อเดียวกัน

– ไม่มีการใส่สารปรุงแต่งรส กลิ่น หรือสี

– ไม่มีกลิ่นเปรี้ยว กลิ่นบูด และต้องไม่มีฟอง

– เมื่อนำมาหยดใส่กระดาษไข ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะไม่ซึมลงในกระดาษ

วิธีเก็บรักษาน้ำผึ้ง

แม้จะไม่มีวันหมดอายุ ไม่เน่า ไม่เสีย แต่การจะเก็บน้ำผึ้งให้อยู่ได้นานๆ เราต้องเก็บน้ำผึ้งไว้ในภาชนะที่ปิดฝาสนิท เพื่อกันไม่ให้น้ำผึ้งดูดความชื้นจากอากาศ ซึ่งจะทำให้ความเข้มข้นของน้ำตาลและความเป็นกรดลดลง เปิดโอกาสให้แบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตได้ และก็ไม่ควรใช้มือหรือช้อนสกปรกจิ้มลงไปในน้ำผึ้งด้วย เพราะจะเป็นการเปิดช่องให้เชื้อราที่ติดมากับสิ่งสกปรกลงไปอยู่ในน้ำผึ้งได้

อ้างอิง:

https://www.th.wikipedia.org
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), USDA National Nutrient Database

Medthai.com

https://www.flagfrog.com/honey-egypt-ancient/

นอกจากจะกินสด ผสมในเครื่องดื่ม ผสมในของหวาน น้ำผึ้งก็ยังสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารได้ ถึงแม้ประโยชน์ที่มีต่อร่างกายอาจจะไม่มากเท่าวิธีอื่นๆ แต่ความอร่อยรับรองว่าเต็มร้อย

คลิกดูสูตรอาหารและเครื่องดื่มจากน้ำผึ้ง

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS