อาซาอิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ที่ต้องกิน!
STORY BY นภาพร สิมณี | 16.02.2022

22,940 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
ผลไม้มากประโยชน์ อีกหนึ่ง superfood ที่ไม่ควรมองข้าม

‘อาซาอิ’ หรือ ‘อาไซอิ’ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี พบได้มากในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ พบบ่อยในป่าดิบชื้นแถบอเมซอนโดยเฉพาะในประเทศบราซิล ลักษณะของผลอาซาอิจะเป็นทรงกลมคล้ายลูกบลูเบอร์รีแต่สีเข้มกว่า รสชาติคล้ายแบล็กเบอร์รีผสมรสขม ชาวพื้นเมืองใช้ผลอาซาอิมาทำขนม เครื่องดื่ม และไวน์ เนื่องด้วยอาซาอิอยู่ในป่าลึก การนำผลอาซาอิสดมารับประทานจึงค่อนข้างยาก เพราะการขนส่งใช้เวลานานจนอาจทำให้คุณค่าทางอาหารของอาซาอิลดน้อยลง ปัจจุบันจึงนำมาทำให้แห้ง บดเป็นผง หรือนำเนื้ออาซาอิมาแช่แข็ง เพื่อง่ายต่อส่งออกมาทำเป็นอาหารแปรรูปต่างๆ

อาซาอิเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาพืชผลไม้ทั่วโลก จนถูกเรียกว่าเป็น superfood ในส่วนของสารอาหารอัดแน่นไปด้วยวิตามิน แคลเซียม แร่ธาตุสำคัญอย่างโครเมียม สังกะสี เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แมกนีเซียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส กรดไขมันและกรดอะมิโน และสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากตามที่บอกไป เพียงแค่กินอาซาอิเบอรรี่ 10 กรัม ก็จะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับการกินมะเขือเทศสูงถึง 188 ลูกเลยทีเดียว

ทำไมเราถึงต้องหาอาซาอิมากิน? 

ก็เพราะว่าอาซาอิเบอร์รีนั้น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก สารต้านอนุมูลอิสระก็คือสารที่สามารถยับยั้งหรือชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ และอนุมูลอิสระก็คือสารที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายหรือมลพิษจากสภาพแวดล้อม ทั้งฝุ่น ควันบุหรี่ ควันรถ อนุมูลอิสระเหล่านี้จะมาทำลายโครงสร้าง และหน้าที่ของผนังเซลล์ เมื่อเซลล์ถูกทำลายและเสื่อมได้เร็ว ก็จะเกิดโรคชราหรือแก่ก่อนวัยอันควร เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ที่พัฒนาไปสู่เซลล์มะเร็งได้ ที่สำคัญคือร่างกายผลิตอนุมูลอิสระตลาดเวลา ทำให้ร่างกายเสื่อมลงแบบไม่มีวันหยุด เพราะเหตุนี้ถึงได้มีกลไกในการควบคุมสารนี้ เพื่อให้ทำร้ายร่างกายช้าลง นั่นก็คือ ‘สารต้านอนุมูลอิสระ’ ที่หาได้จากอาหารที่เรากินเข้าไป เราเลยควรต้องกินของที่เป็นประโยชน์อย่างอาซาอิเบอร์รีนั่นเอง

ทำไมอาซาอิถึงนิยมในหมู่ของคนรักสุขภาพ

เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่ ทำให้ผิวพรรณดี แถมอาซาอิเบอร์รีที่ถูกนำมาทำอาหารนั้นส่วนใหญ่ก็มักอยู่ในเมนูเพื่อสุขภาพ ทำให้ไม่อ้วน แม้กินเยอะก็สุขภาพดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการเพื่อให้ได้มาของอาหารนั้นๆ ด้วยนะคะ โดยเฉพาะพวกผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะสารเหล่านี้จะสูญเสียได้ง่ายจากการกระบวนการเก็บตลอดจนการผลิตต่างๆ เราจึงควรเลือกรับประทานอาซาอิเบอร์รีผ่านเทคโนโลยีการสกัดแบบการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (freeze dried) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถคงประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระได้สูง

วันนี้เราเลยจะมาแจกสูตรเมนูที่ทำจากอาซาอิเบอร์รีที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังเป็นเมนูที่ฮิตในหมู่คนรักสุขภาพ ทั้งแคลลอรีน้อย ไม่มีน้ำตาล และยังกินเป็นของหวานได้อีกด้วย สำหรับคนที่กลัวอ้วนจากการกินของหวาน เมนูนี้ก็แทนกันได้นะจ๊ะ

นั่นก็คือ อาซาอิโบลว์ เมนูนี้ไม่ได้เกิดที่บราซิลแหล่งของอาซาอิหรอกนะ แต่เกิดที่ฮาวายต่างหาก จากนั้นก็แพร่หลายไปทางชายฝั่งตะวันตกตั้งแต่ลอสแองเจลิสสู่ซานฟรานซิสโกและทั่วอเมริกา อาซาอิโบลว์ที่กำลังฮิตนี่ทำจากอาซาอิเบอร์รีบดเสิร์ฟพร้อมผลไม้สดและซีเรียล  

มีมาฝากกัน 2 สูตร สูตรแรกเป็นอาซาอิโบลว์ที่ดัดแปลงให้กินง่ายขึ้น และสามารถเลือกใช้ผลไม้ที่เรามีอยู่มากินคู่กันได้ สูตรที่สอง เป็นเมนูเครื่องดื่มคลายร้อนที่เหมาะกับหน้าร้อนเป็นอย่างมาก ก็คือ สมูตตี้อาซาอิเบอร์รี เป็นการนำผลไม้ตระกูลเบอร์รีมาปั่นรวมกับน้ำมะพร้าวเพื่อเพิ่มความหวานจากธรรมชาติ

สูตรอาซาอิโบลว์

กล้วยหอมสุกแช่แข็ง หั่นชิ้นพอคำ 80  กรัม

สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 70 กรัม

บลูเบอร์รีแช่แข็ง 40 กรัม

อาซาอิแช่แข็ง (ซองละ 100 กรัม)   1 ซอง

พีนัทบัตเตอร์  30 กรัม

นมถั่วเหลืองชนิดจืด 100 กรัม

 สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี กีวี่ กราโนลาและพีนัทบัตเตอร์ สำหรับจัดเสิร์ฟ

วิธีทำก็คือนำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกัน แต่งหน้าด้วยผลไม้สดและกราโนลา สามารถกินเป็นอาหารเช้าได้ อยู่ท้องและไม่อ้วน ได้ความหวานธรรมชาติจากกล้วย ความเปรี้ยวจากผลไม้แช่แข็ง และยังมีพีนัทบัตเตอร์เพิ่มความอร่อย

สูตรสมูทตี้อาซาอิเบอร์รี

สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง   100 กรัม

บลูเบอร์รีแช่แข็ง 40 กรัม

อาซาอิแช่แข็ง (ซองละ 100 กรัม) 1 ซอง

น้ำมะพร้าว 120 กรัม

น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี และใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

วิธีทำก็เหมือนกับการทำอาซาอิโบลว์ แต่ต่างกันตรงที่มีส่วนผสมที่เป็นของเหลวเยอะกว่า สามารถดื่มได้และไม่มีกล้วยเป็นส่วนผสม ทำให้ไม่รู้สึกหนักจนเกินไป สูตรนี้เราเพิ่มความหวานให้กับสมูตตี้ด้วยน้ำผึ้งเพียงแค่ 1 ช้อนชาเท่านั้น เพื่อตัดรสความเปรี้ยวของผลไม้แช่แข็ง 

ใครอยากลองกินอาซาอิเบอร์รีแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มด้วยเมนูอะไร แนะนำ 2 เมนูนี้เลยค่ะ เพราะทั้งทำง่ายและมีประโยชน์แถมส่วนผสมที่เราเลือกใส่ลงไปยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย คนที่กำลังลดน้ำหนักก็กินได้นะ ทั้งหวาน อร่อย เย็นชื่นใจ เหมาะกับประเทศไทยที่ตอนนี้ร้อนสุดๆ ไปเลย (ก็ร้อนตลอดปี) 

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS