ฤดูร้อนมาถึง สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่พลาดในการลิ้มลองสักครั้งคือเจ้า ไข่มดแดง วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมเลยก็ว่าได้ กินตามกาลเดือนนี้เลยไม่รอช้า ขอหยิบเอาวัตถุดิบชั้นเยี่ยมนี้มาปรุงอาหารในแบบฉบับเด็กใต้อย่างฉันดูบ้าง แต่ก่อนจะไปดูว่าผู้เขียนจะเอาไข่มดแดงเม็ดอวบเต่งนี้ไปทำอะไร มาทำความรู้จักกับไข่มดแดงกันสักหน่อย
อย่างที่ทุกคนรู้ๆ กันว่าพอเริ่มเข้าหน้าร้อนช่วงระหว่างเดือนมีนาคม – เดือนเมษายน จะเห็นชาวบ้านพากันชวนไปแหย่ไข่มดแดงตามต้นไม้หรือในป่า เพื่อนำมาปรุงอาหารจานโปรดของแต่ละบ้าน
แม้จะอยู่ตามป่าตามต้นไม้ แต่ไข่มดแดงมีราคาค่อนข้างแพง และผู้เขียนต้องออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยกินไข่มดแดงมาก่อน ทั้งที่เวลาถึงหน้าฤดูกาลทีไร น้องๆ ที่ทำงานก็มักจะสรรหาคอนเทนต์เกี่ยวกับไข่มดแดงมาเขียนถึงเป็นประจำ ทั้งลองทำเมนูก็มากมาย แต่ตัวผู้เขียนก็ไม่เคยได้ลองกินดูสักครั้ง (ใครอยากรู้เรื่องราวของไข่มดแดงว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร คลิกอ่านได้ที่บทความ ไข่มดแดง โปรตีนชนชั้นสูงในครัวล้านนาและครัวอีสาน)
แต่ปีนี้ผู้เขียนอยากลองทำดูสักหน่อย เลยหาข้อมูลดูแล้วพบว่าทางภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสาน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆ หวานๆ หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรหน่อยอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดนิดๆ จากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ผู้เขียนเลยขอเรียกเมนูนี้ว่า ต้มกะทิไข่มดแดง
ความลงตัวของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลยทีเดียว อีกอย่างที่ผู้เขียนใส่ลงไปด้วยคือใบเหลียง ที่ช่วยเพิ่มสีสันของจานอาหารนี้ขึ้นมาหน่อย และตามธรรมเนียมแล้วนั้น ในเมื่อเราผู้ซึ่งไม่เคยกินไข่มดแดงมาก่อนลองทำเป็นครั้งแรก ก็ตองชักชวนเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่ KRUA.CO มาลองชิมว่าอร่อยถูกปากเหล่าคนที่กินไข่มดแดงกันหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามคาด ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย บางคนก็แนะนำว่าควรใส่กะปิด้วยน่าจะดีกว่านี้ ใครที่จะทำตามแล้วอยากใส่กะปิหรือกุ้งแห้งเพิ่มรสชาติเข้าไปอีกก็ได้นะคะ
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรต้มกะทิไข่มดแดง
ส่วนแหล่งซื้อไข่มดแดงช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน จะหาง่ายหน่อย ตามตลาดสดทั่วไปก็มีวางขาย แต่ราคาอาจจะสูงสักนิด อย่างที่ผู้เขียนได้มาก็กิโลกรัมละ 600 บาท ไม่ถูกนะ แต่คุ้มค่าที่จะลองดูสักครั้ง
อ่านบทความเพิ่มเติม
