ในวันฝนตกพรำๆ อากาศเย็นสบายทำให้เรารู้สึกแสนจะขี้เกียจ และเป็นโอกาสอันดีเสมอของบ้านเชฟน่านที่จะทำเมนู ‘ไก่ต้มขิง’ เพราะเป็นเมนูหม้อเดียวกินกันได้ทั้งบ้าน ทำง่ายแต่แสนอร่อย แถมสรรพคุณก็แน่น ช่วยให้บรรเทาอากาศหนาว คนทำก็สบาย คนกินก็อร่อย
ไก่ต้มขิง บ้านอื่นๆ ก็อาจจะทำ แต่เชื่อว่าจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่เหมือนกันแน่ครับ บ้านผมจะใช้ไก่บ้านตัวกำลังเหมาะหรือประมาณไม่เกินตัวละ 1.2 ถึง 1.5 กิโลกรัม ขอเน้นว่าเป็นไก่บ้าน เลี้ยงอิสระ ให้กินอาหารตามธรรมชาติ ใช้ทั้งตัว ยกเว้นแค่หัวของน้องเท่านั้น นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำค่อนข้างไปทางคำใหญ่หน่อยนะครับ แยกส่วนเป็นปีก น่องสะโพก อก และส่วนกระดูกโครงหลัง สับติดกระดูก เตรียมไว้
ในหม้อใบโต ใส่น้ำมันพืชพอประมาณ ตั้งไฟ แล้วเอาสมุนไพรอันได้แก่ กระเทียม หอมแดง ที่บุบแล้ว รวมทั้งขิงกลางอ่อนกลางแก่สไลด์เป็นแผ่นลงผัดในน้ำมันร้อนๆ ผัดให้ส่งกลิ่นหอม
แล้วจึงใส่ไก่สับที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนที่สำคัญมาก คือเมื่อน้ำซุปของเราเดือดให้หมั่นช้อนฟองออกให้หมด รวมถึงช้อนน้ำมันที่ลอยหน้าออกไปด้วย ฟองเหล่านี้มาจากเลือดที่อยู่ในส่วนกระดูกของไก่ เป็นของไม่พึงประสงค์จะทำให้น้ำต้มขิงของเราขุ่นและเสียความอร่อยไป
จากนั้นจึงปรุงรสชาติด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ และน้ำตาลทราย เคล็ดลับอยู่ที่ใส่เต้าเจี้ยวลงไปผสมด้วย ถือเป็นเครื่องปรุงลับของไก่ต้มขิงบ้านเชฟน่านเลย
แล้วจึงใส่พริกไทยดำบุบลงไปเพิ่มความหอม เคี่ยวต่อโดยไม่ต้องปิดฝาหม้อ ด้วยไฟกลางค่อนอ่อนประมาณ 60 นาที จนเดือด สังเกตว่าน้ำต้มจะค่อยๆ งวดลง ข้อควรระวังคืออย่าปล่อยให้เดือดแรงจนเกินไป นั่นจะทำให้เนื้อไก่เละและน้ำต้มขุ่นไม่ใส
ไก่ต้มขิงบ้านเชฟน่านมีลักษณะหอมขิง หนักเครื่องเครา ไก่นุ่มกำลังพอดีแต่ไม่ถึงกับเปื่อยเละ น้ำซอสใส ไม่ขุ่น มีลักษณะขลุกขลิก
ยายวารีและน้านาฏมักใช้คำว่า “อย่าให้โจงเลง” โจงเลงเป็นภาษาอีสานแปลว่า ‘ใส มีแต่น้ำ’ เชฟน่านก็เลยติดคำนี้มาทั้งชีวิต
กินไก่ต้มขิงกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ คือสุดยอดนัก ตักน้ำซอสราดกินกับชิ้นไก่คืออร่อยฟิน ขอชวนเพื่อนๆ ไปลองทำตามดูนะครับ
