ตามประสาคนครัว เดือนสุดท้ายของปีเวียนมาทีไร ที่เคยวุ่นอยู่แล้ว ยิ่งวุ่นคูณสองคูณสามไปอีก เพราะทั้งมื้ออาหารของครอบครัว ทั้งมื้อฉลองกับเพื่อน ทั้งปาร์ตี้ เข้าคิวรอกันเลยทีเดียว ขณะกำลังนั่งคิดว่าจะทำอะไรดี และจะไปชอปสรรพสิ่งเพื่อทำอาหารในเดือนแห่งการเฉลิมฉลองนี้ที่ไหนดีนะ เอาแบบไปที่เดียวจบครบหมดทุกสิ่ง ก็ได้ยินข่าวว่า Villa Market เปิดสาขาใหม่ที่หลังสวน มาพร้อมคอนเซ็ปต์เก๋ไก๋ Next Generation of Villa Market ‘Like Never Before’ และคำเคลมว่าเป็นสาขาใหม่ที่ดีที่สุด เต็มไปด้วยไฮไลต์ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ได้ยินปุ๊บก็ตาลุกวาว เพราะปกติก็เป็นขาประจำวิลล่ามาร์เก็ตอยู่แล้ว เมื่อมาพร้อมสรรพคุณขนาดนี้ จะช้าอยู่ไย ไปจ้ะ พุ่งตัวไปชั้น B1 โครงการเวลาสินธรวิลเลจ หลังสวน กัน ณ บัดนาว ไปก่อนเก๋ก่อน เพราะเขาเพิ่งเปิดได้แค่เดือนกว่าๆ นี่เอง
วิลล่ามาร์เก็ต หลังสวน ต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนหรูหราอลังการ ซ้ายมือด้านหน้าเป็นโซน V Space ซึ่งก็คือมุมนั่งพักผ่อน จิบกาแฟ (ออร์แกนิกด้วยนะ) อ่านหนังสือ ระหว่างรอออร์เดอร์ที่สั่งทางออนไลน์แบบชิลล์ๆ พร้อมจอ Interactive Screen สำหรับสมัครสมาชิก เช็กคะแนน โปรโมชั่น และดูรายละเอียดต่างๆ หรือคุณแฟนคุณสามีจะใช้เป็นที่นั่งรอ ระหว่างคุณภรรยาหลงอยู่ในเขาวงกตวัตถุดิบอาหารด้านในก็ได้ แต่เรายังนั่งไม่ได้ มาค่ะ เดินเข้าสู่ด้านในกันดีกว่า แล้วก็โดนองุ่นเขียวลูกเบ้อเริ่มกับสตรอว์เบอร์รีลูกโตสีแดงแปร๊ดดึงดูดให้ต้องหยุด พบว่านี่คือส่วนที่เรียกว่า Festive ที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปในแต่ละช่วง หน้าหนาวปลายปีแบบนี้เป็นช่วง Korean Fruit นอกจากองุ่น สตรอว์เบอร์รี ก็ยังมีลูกพลับ ลูกแพร์ คัดมาแบบลูกใหญ่บึ้มน่ากินสุดๆ เดินต่อไปอีกนิด เจอคุณน้องหน้าตายิ้มแย้มที่โซน Activity โซนสาธิตการทำอาหารจากวัตถุดิบต่างๆ ที่จะมีเชฟจากแต่ละโซนแวะเวียนมาคุกกิ้งให้ดูสดๆ พร้อมให้ชิมกันแบบสดใหม่ โดยจะมีวันละ 2 รอบ เช้าและบ่าย ว่าแล้วก็แวะชิมมักกะโรนีอบชีสที่เป็นเมนูสาธิตของวันนั้นซะหน่อยเป็นการรองท้องก่อนเดินชอป
ถัดมาคือตู้ที่เต็มไปด้วยสารพันชีส เห็นแล้วก็ยิ้มมมมม เพราะนึกออกละว่าปาร์ตี้ปลายปีจะทำอะไรดี นี่เลย เปิดปาร์ตี้ด้วย cold cut และ cheese plate กับ condiment หลากหลาย นั่น chutney mixed nut ก็น่าสนใจ ตามประสาคนทำอาหารเนอะ บอกเลยว่าโซนนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่เรามาก Cold Cut อย่าง Jamon Iberico มีสไลซ์แบบสดใหม่เป็นขาๆ ซาลามี่ พาร์มาเเฮม ฯลฯ ก็ละลานตา ส่วนชีสยิ่งตาลายเข้าไปอีก มากมายหลายหลากนำเข้าจากหลายประเทศ ตั้งเเต่ soft creamy cheese อย่าง Brie, Camembert ไปจนถึง crumbly cheese อย่าง goat cheese เเละ hard cheese อย่าง Parmigiano Reggiano และแน่นอน จะขาดผักนำเข้าไปไม่ได้ อยากได้อะไรล่ะ จะ brussels sprout, celeriac, fennel, baby carrot, habanero chili หลากชนิดหลากสีสัน แค่มองก็เพลินตา คิดเมนูในหัวไปด้วยยิ่งเพลินใจ เรียกว่าเดินเข้ามาแบบ เอ๊ะ ฉันจะทำอะไรดีนะ เห็นสารพันวัตถุดิบเหล่านี้แล้ว เกิดเมนูสุดบรรเจิดในหัวทันที อันนี้ก็น่าซื้อ อันนั้นก็น่าทำ สายอาหารฝรั่งขอให้มาที่นี่ วัตถุดิบ เครื่องปรุง ของแห้งอะไรใดๆ มีหมดครบครัน
อีกโซนที่ทำให้ฮือฮาไม่แพ้กันคือ Butcher โซนเนื้อสัตว์พรีเมียม ราคาดี คุณภาพเยี่ยม และเนื้อสัตว์หายากไม่มีที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอื่นๆ จัดดิสเพลย์อย่างสวยงามให้คนตัด หั่น แล่ หันหน้าหาผู้ซื้อ เพิ่มปฏิสัมพันธ์และความใกล้ชิด สามารถพูดคุย ไต่ถาม ออร์เดอร์ได้อย่างสะดวก ระหว่างยังเลือกไม่ถูกว่าจะใช้เนื้อวัวหรือเนื้อแกะออสเตรเลียนำเข้า เอามาโรสต์ตามสไตล์ KRUA.CO ก็โดนควันเย็นของตู้ซีฟู้ดดึงไปอีกแล้ว นอกจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมทั้งน้องแซลมอนสีส้มปิ๊งน่ากิน และเหล่าน้องปลาตัวเล็กตัวโตที่นอนแผ่บนน้ำแข็ง เราก็ชอบวิธีการนำเสนอที่จัดเต็มไอเย็นลอยคลุ้ง มันตื่นตาตื่นใจดี แถมน้องที่ยืนยิ้มอยู่หลังตู้แช่บอกว่าควันพวกนี้ไม่ได้มีไว้ให้อู้หูอ้าหาอย่างเดียว แต่ช่วยรักษาความสดใหม่ให้น้องปลาน้องกุ้งน้องหมึกด้วย และเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล ไก่งวงตัวตู้มๆ ก็มา อยากได้ยี่ห้อไหนก็เลือกเลย พร้อมเครื่องเคียงทั้งมันบด ผักอบนานาชนิด หมุนตัวหนึ่งรอบ เจอสารพันเส้นอยู่ด้านหน้า งานนี้ต้องมีเมนูพาสต้าสำหรับเด็กๆ ด้วย เราตกลงใจทำพาสต้าล็อปสเตอร์หลังเห็นล็อปสเตอร์ตัวเท่าฝ่ามือเมื่อกี้ แถมเปลือกล็อปสเตอร์เก็บไว้ทำซุปอุ่นๆ ได้อีกหม้อโตด้วย อ้อ แต่ถ้าใครไม่อยากทำเองหมดทุกสิ่ง สามารถเดินไปสอย roast beef honey ham ได้ที่เคาน์เตอร์ด้านซ้ายมือสุด มีทั้งเนื้ออบ แฮมอบ ฟิชพาย มีกระทั่งแซลมอนเวลิงตันให้หยิบกลับบ้านได้ง่ายดาย และเมื่อจะปาร์ตี้กันทั้งที อย่าลืมแวะเลือกไวน์ที่โซน Wine Cellar ติดไม้ติดมือกลับไปสักขวดสองขวด มีให้เลือกมากมายทั้งตามแหล่งที่มาและสนนราคา รวมทั้งเครื่องดื่มอื่นๆ จะวอดก้า จิน แชมเปญ เบียร์ ก็มีหมด มาที่เดียวครบจบจริงๆ คอนเฟิร์ม
เดินชอปจนตาลายขาล้าท้องร้องก็ไม่ต้องออกไปหาร้านอาหารที่ไหน เพราะที่นี่มีโซน Ready to Eat พร้อมร้าน Osake ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ชิลล์ๆ ที่จะนั่งกินหน้าเคาน์เตอร์ก็ได้ หรือจะนำไปนั่งกินในห้อง Wine Cellar ที่จัดทั้งเคาน์เตอร์และดิมไฟไว้อย่างสวยงามชวนให้มานั่งดื่มด่ำบรรยากาศก็ได้ วิลล่ามาร์เก็ต หลังสวน มีไว้รองรับเหล่านักชอปและเหล่าผู้ติดตามนักชอปโดยเฉพาะ เพราะเชื่อว่าถ้าคนรักการทำอาหารได้ก้าวเข้ามาที่นี่ เห็นทีจะยาวววววกว่าจะยอมกลับ นอกจากเพลินตากับเหล่าสินค้าที่จัดเต็มอย่างจุใจ เพลินใจกับการรังสรรค์เมนูจากเหล่าวัตถุดิบที่เรียงราย แล้วยังเพลินกระเป๋าสตางค์ด้วย เพราะถึงจะเป็นสินค้านำเข้าแต่ก็เป็นมิตรกับเงินของเราอยู่ อะไรที่พรีเมียมก็ต้องยอมรับว่าราคาอาจจะสูงตามคุณภาพ แต่ที่ราคาย่อมเยาลงมาก็มีโดยที่ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพเพราะเขาคัดสรรมาให้แล้ว เลือกซื้อตามงบได้เลย
ก็เหมือนเรานี่แหละ แค่กะจะแวะมาดูสาขาใหม่เล่นๆ ปรากฏว่าเดินเพลินอยู่ตั้งสองชั่วโมงกว่าแน่ะถึงได้ออกมาพร้อมข้าวของพะรุงพะรัง… แต่ครบแล้วนะ กลับบ้านไปเปิดครัวเตรียมมื้อต่างๆ ของเดือนธันวาคมได้ ณ บัดนี้
Villa Market Langsuan
พิกัด: ชั้น B1 โครงการเวลาสินธรวิลเลจ
เปิด-ปิด: 07:00 น. – เที่ยงคืน (ทุกวัน)
