เข้าเดือนสิงหาคม จะไม่ให้หยิบเอาผลไม้ชนิดนี้มาเป็นวัตถุดิบตามกาลก็กระไรอยู่ เพราะเป็นฤดูของเขา ที่จะออกผลมากที่สุดก็ในช่วงเดือนนี้ เรากำลังพูดถึงผลไม้ลูกสีเขียวมีตารอบตัว ‘น้อยหน่า’ นั่นเอง
ก่อนจะเข้าสู่เมนูอร่อย มาทำความรู้จักน้อยหน่ากันสักนิด เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าจะแยกชนิดของน้อยหน่ายังไง ที่เห็นเขาเขียนป้ายไว้ว่าน้อยหน่าเนื้อบ้าง น้อยหน่าหนังบ้าง มันต่างกันตรงไหน นอกจากป้ายที่แปะไว้ เดินไปยืนหน้าแผงแล้วบ่อยครั้งยังสับสน หรือแม้แต่ถามแม่ค้าบางคนก็ยังบอกตรงๆ ว่าแยกไม่ออกเหมือนกัน บางทีซื้อกองที่แปะว่าน้อยหน่าหนัง กลับบ้านมาเจอแจ็คพ็อตเป็นน้อยหน่าเนื้อก็มี เรียกว่าต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย
แต่จริงๆ แล้วมันก็มีวิธีแยกอยู่นะคะ มาเรียนรู้น้อยหน่าไปด้วยกันเลยว่าหน้าตาแบบไหนเรียกเนื้อ หน้าตาแบบไหนเรียกหนัง โดยน้อยหน่ามีชื่อภาษาอังกฤษแสนไพเราะว่า Apple Sugar หรือ Custard Apple มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบทวีปอเมริกากลาง เข้ามาในทวีปเอเชียโดยชาวสเปนและชาวโปรตุเกส (ตามที่เขากล่าวมา) เป็นผลไม้ที่ออกผลมากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม จะมีวางขายตามท้องตลาดมากมาย หลักๆ เลยนั้นน้อยหน่ามีอยู่ 2 พันธุ์ คือ น้อยหน่าเนื้อ (น้อยหน่าฝ้าย) และน้อยหน่าหนัง (น้อยหน่าญวน) ทั้ง 2 ชนิดมีความแตกต่างกันทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและเนื้อสัมผัส โดย น้อยหน่าเนื้อ (น้อยหน่าฝ้าย) เป็นพันธุ์พื้นเมืองของบ้านเรา เปลือกมีตารอบทั่วทั้งผล ร่องลึกชัดเจน เนื้อเป็นเนื้อทราย ไม่จับกันเป็นก้อน ค่อนข้างเละ รสชาติหวานจัด กลิ่นหอมเด่น เมล็ดค่อนข้างใหญ่ ส่วน น้อยหน่าหนัง (น้อยหน่าญวน) เป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม เปลือกมีตาแต่ไม่เป็นร่องชัด ตาจะแหลมนูน รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่หอมเท่าน้อยหน่าเนื้อ แต่หลายคนว่าน้อยหน่าหนังกินอร่อยเพราะเนื้อเหนียว เมื่อผลสุกลอกเปลือกออกง่ายๆ ได้เลย นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ลูกผสม พันธุ์เพชรปากช่อง และ พันธุ์เนื้อทอง ที่มีลักษณะภายนอกคล้ายน้อยหน่าหนัง แต่ลูกใหญ่กว่า เนื้อในก็เช่นกัน
วิธีการเลือกก็ให้เลือกจากเปลือกก่อน ดูผลที่มีตาห่าง ก้านเป็นสีดำ เมื่อลองกดเบาๆ บริเวณตาควรมีลักษณะนิ่มเล็กน้อย ถ้ากดแล้วแข็งไปแสดงว่ายังไม่สุก ส่วนถ้านิ่มไปก็อาจจะเละเกินไปก็ได้ ถ้าเป็นน้อยหน่าเนื้อให้เลือกที่เปลือกเขียวอมน้ำตาลเล็กน้อย จะได้น้อยหน่าเนื้อรสหวานอร่อย คนส่วนใหญ่นิยมนำน้อยหน่ามาทำน้อยหน่ากะทิ น้อยหน่าบวชชี ไอศกรีมน้อยหน่า ข้าวเหนียวน้ำกะทิน้อยหน่า ด้วยความที่เนื้อของน้อยหน่าลักษณะเป็นครีมๆ คล้ายคัสตาร์ดตามชื่อเรียกแบบฝรั่ง จึงเหมาะนำมาทำเป็นขนมหวานและเครื่องดื่มมากกว่าของคาว
แต่ KRUA.CO ขอแหวกแนวด้วยการนำน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องมาทำเป็นของคาวในเมนู เปาะเปี๊ยะน้อยหน่า โดยเลือกน้อยหน่าเพชรปากช่องที่สุกกำลังพอดี หรือเวลาเลือกซื้อให้บอกแม่ค้าว่า “เอาลูกที่กินพรุ่งนี้ได้” นั่นแหละค่ะ เพราะเนื้อจะยังไม่หวานจนเกินไป หลังจากได้มาแล้วก็แกะเปลือก แกะเม็ด เอาแต่เนื้อมาผสมทำเป็นไส้ โดยส่วนผสมในไส้ใส่เนื้อกุ้งสับ แห้วสับ ต้นหอม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำมันงาเล็กน้อย จากนั้นผสมรวมกัน แช่ในตู้เย็นสักพักให้ส่วนผสมเซตตัว แล้วห่อเป็นแท่งเหมือนเปาะเปี๊ยะ นำลงทอดในน้ำมันร้อนอ่อนๆ ทอดให้สีเหลืองสวย กินคู่กับน้ำจิ้มไก่ และผักสลัด เป็นเมนูของว่างที่แปลกไปอีกแบบ รสชาติที่ได้จะหวานๆ หอมๆ จากเนื้อกุ้งและน้อยหน่า และก็จะได้ลูกเล่นแปลกใหม่ของเนื้อแห้วที่ให้สัมผัสกรุบกรอบเล็กน้อย จะจิ้มน้ำจิ้มหรือไม่จิ้มก็ได้แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรเปาะเปี๊ยะน้อยหน่า