จะไปชมวิวหลักล้านทั้งที นอกจากข้อมูลเรื่องสถานที่ตั้งแคมป์และกฎ ระเบียบต่างๆ เรื่องปากท้องก็สำคัญ กี่ปีๆก็บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้ม เลิกค่ะ…เลิกต้ม เอาไปทำอย่างอื่นบ้าง! ที่ตั้งแคมป์ส่วนใหญ่อนุญาตให้นำเตาปิกนิกไปใช้ได้ เราจึงครีเอทเมนูแคมป์ปิ้งหลากหลายทำง่าย ช่วยกันทำ สร้างประสบการณ์สนุกๆ ปรุงมื้ออร่อยอุ่นๆ พร้อมเคล็ดไม่ลับการเตรียมวัตถุดิบสำหรับเดินทางไกลมาให้ชาวแคมป์อย่างครบถ้วน
สัมภาระ
สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญคือการจัดกระเป๋าสัมภาระ ถ้าไม่วางแผนให้ดี ไอ้นั่นก็จะเอา ไอ้นี่ก็น่าจะได้ใช้ จับยัดลงกระเป๋าไปซะหมด สัมภาระจะกลายเป็นภาระสมชื่อ หมดสนุกตั้งแต่ยังไม่ถึงที่หมาย จึงควรแพ็กของให้กินพื้นที่น้อยที่สุด เลือกเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ วางแผนกระจายสัมภาระส่วนกลางให้ผู้ร่วมเดินทางช่วยกันนำไป จะผ่อนน้ำหนัก ผ่อนแรงทุกคนได้มาก
วิธีการเลือกวัตถุดิบและการแพ็กอาหารขึ้นอยู่กับระยะทาง ถ้าจุดกางเต็นท์เดินไม่ไกล รถเข้าถึงได้ ข้อจำกัดก็น้อยลงหน่อย เพราะของสดอย่างเนื้อสัตว์สามารถใส่กล่องโฟมอัดน้ำแข็งไปได้เลย แต่ถ้ารถเข้าไม่ถึง ต้องเดินทางไกลเพื่อไปยังจุดกางเต็นท์ละก็ เรามีเทคนิคที่นักแคมป์ปิ้งตัวจริงเขาใช้กันมาแนะนำ
- ข้าวสาร ไหนๆ ก็ต้องหิ้วหม้อสนามไปด้วยอยู่แล้ว กรอกข้าวสารใส่หม้อไปเลย หรือจะกรอกใส่ขวดน้ำพลาสติกก็ได้ ช่วยประหยัดพื้นที่
- ไข่สด บอบบาง แตกง่าย ควรตอกไข่ใส่ขวดน้ำพลาสติก แต่ต้องเช็กให้แน่ใจว่าขวดสะอาดและแห้งสนิท หรือจะซื้อไข่ไก่แพ็กเล็กๆ ตามร้านสะดวกซื้อแล้วใส่ไว้บนสุดของกระเป๋าสัมภาระก็ได้ แถมอีกวิธีคือกรอกข้าวสารใส่หม้อสนามแล้ววางไข่ลงไป 1 ฟอง จากนั้นก็กรอกข้าวสาร ตามด้วยไข่ เป็นชั้นๆสลับกันไป
- ผักสด เลือกผักที่แข็งแรงทนการกระแทก บอบช้ำยาก อย่างพวกผักหัว อาทิ หัวไช้เท้า แครอท กะหล่ำ มันฝรั่ง ฯลฯ ผักหัวชอบอากาศถ่ายเท ควรแพ็กใส่ถุงตาข่าย หรือถุงที่มีรูระบายอากาศ
- เนื้อสัตว์ เลือกเป็นแบบอบแห้งอย่างเบคอนอบกรอบ กุ้งแห้ง แฮม แหนม กุนเชียง ถ้าเป็นพวกลูกชิ้น ไส้กรอก หมูยอควรทอดให้สุกก่อน
- น้ำ เตรียมน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอกับมื้ออาหารและปริมาณคน (ประมาณ 2 ลิตร/คน/วัน)
- เตาแก๊สปิ๊กนิก เป็นเตาแก๊สขนาดพกพาสำหรับเดินทางไกล ซึ่งมีแก๊สบรรจุกระป๋อง พกพาง่าย สะดวก
เสบียงพร้อม อุปกรณ์ครบ มาเริ่มปรุงกันเลย
มาร์ชเมลโล่ช็อกโกแลตเเซนด์วิช
พกมาร์ชเมลโล่ไปเสียบไม้ปิ้งเป็นเมนูกินเล่น ให้อารมณ์แคมป์ปิ้งเหมือนในซีรีส์ฝรั่งก็ดูสนุกดี แต่เราไม่ได้มาเล่นๆ เลยจัดมาร์ชเมลโล่ให้เป็นมื้อหนักขึ้นมาหน่อยอย่าง ‘มาร์ชเมลโล่ช็อกโกแลตแซนด์วิช’ ซึ่งเหมาะเป็นมื้อเช้าหลังจากพิชิตเส้นทางจนมาถึงยอดเขาอันหนาวเหน็บ (จริงๆ แล้วอยากทำกินมื้อไหนก็ได้) เพราะทำง่าย ใช้พลังงานร่างกายน้อย แต่กินแล้วสูบพลังงานเข้าร่างกายได้เยอะ
จะเริ่มทำก็รวมพลเรียกเพื่อนมาช่วยกัน หยิบขนมปังคนละ 2 แผ่น ทาเนยบนขนมปังแผ่นหนาบางแล้วแต่ชอบ กลับด้าน ปาดนูเทลล่าให้ชุ่มฉ่ำหนำใจ แล้วใส่มาร์ชเมลโล่ให้เต็มแผ่น วางขนมปังอีกแผ่นประกบ นำไปปิ้งบนตะแกรง หรือดาดในหม้อ กระทะ แล้วแต่ภาชนะที่หิ้วไป เสร็จสรรพภายในเวลาไม่นาน กินคู่กับชากาแฟร้อนๆ แสนเข้ากัน จะเบิ้ลอีกสักกี่ชิ้นก็ทำง่าย รวดเร็ว ไม่ทิ้งช่วงให้ขาดตอน
ข้าวต้มฟรีสไตล์
อีกหนึ่งความสนุกของการมาแคมป์ปิ้งคือกิจกรรมรอบกองไฟ นั่งพูดคุย ล้อมวงกินอาหารร่วมกันเป็นเอกลักษณ์และภาพจำที่เรานึกถึงทุกครั้งเมื่อพูดถึง ‘แคมป์ปิ้ง’ ซึ่งบางสถานที่เราอาจก่อกองไฟด้วยฟืนไม่ได้ แต่การล้อมวงกินข้าวต้มฟรีสไตล์ด้วยกันช่วยสร้างบรรยากาศสนุกๆ ร่วมกันแบบนั้นได้
ที่เรียกว่าข้าวต้มฟรีสไตล์ก็เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีเซนส์เรื่องการกิน รู้ว่าสิ่งที่มีอยู่หรือเหลืออยู่เนี่ย ถ้าเอาไปใส่ข้าวต้มจะรอดหรือไม่ กินได้หรือเปล่า ถ้าเซนส์เราบอกว่ากินได้แน่ก็ใส่ไปเลยค่ะ อย่าปล่อยให้ของเหลือเป็นภาระให้แบกกลับมาอีก (ยกเว้นขยะ ต้องแบกกลับมานะจ๊ะ)
อย่างสูตรนี้ใช้ข้าวสวยหุงสุกเหลือจากมื้อก่อน เริ่มจากใช้น้ำดื่มสะอาดใส่หม้อ ตั้งไฟ เนรมิตน้ำซุปหอมกลมกล่อมเร็วดั่งใจด้วยการใส่ซุปมิโสะสำเร็จรูป (หรือใส่ซุปหมู ซุปไก่ก็ได้เอาที่สะดวกซื้อเลย) เติมแครอทหั่นลูกเต๋า หรือมีผักอะไรใส่ได้ก็ใส่ลงไปเพื่อช่วยให้น้ำซุปหวาน แต่ต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นะ จะได้สุกไว จากนั้นเติมข้าวหุงสุก พอข้าวเริ่มนิ่มก็ใส่กุนเชียง ไส้กรอก ลูกชิ้น น้ำเดือดอีกครั้งใส่ไข่ไก่ รอแป๊บหนึ่งจนเริ่มเดือดก็คนนิดหน่อย ยกลง ล้อมวงกินได้ ความสนุกของเมนูนี้คือการใส่โน่นใส่นี่ ฉะนั้นใครมีอะไรอยากลองหยิบลงหม้อก็จัดเลย จะได้ฟรีสไตล์สมชื่อ
พิซซ่ารามยอนแหนม
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้ม เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ชาวแคมป์ปิ้งนึกถึง เพราะทำได้เร็ว ง่าย พกพาสะดวก แต่มาเปลี่ยนบรรยากาศไกลขนาดนี้ ก็อยากจะให้สุนทรีย์กันหน่อย ด้วยการแปลงโฉมบะหมี่ธรรมดาๆ เป็นพิซซ่ารามยอนแหนม
ต้มเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี หรือใครชอบบะหมี่รสไหน ยี่ห้ออะไรก็ใช้ได้ตามสบาย ในหม้อน้ำเดือดประมาณ 4 นาทีจนเส้นนิ่ม ตักเส้นขึ้นมาใส่ชามเคล้ากับน้ำมันเครื่องปรุงที่ให้มาในซองบะหมี่ (ใส่แค่ซองเดียวก็พอ ที่เหลือเก็บไว้แต่งหน้าพิซซ่า) เคล้าให้เครื่องปรุงกระจายทั่วถึง ยีแหนมตีผสมกับไข่ไก่ (บะหมี่ 1 ซอง / ไข่ไก่ 2 ฟอง) แล้วราดใส่บะหมี่
ระหว่างนี้ส่งสัญญาณให้เพื่อนตั้งกระทะใส่น้ำมันรอได้เลย เปิดไฟกลาง ดูว่าน้ำมันร้อนแล้วก็เทเส้นที่ผสมไว้ลงไป กดให้แบนเสมอกันทั่วกระทะ กลับด้านทอดต่อจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน เบาไฟอ่อน ถึงขั้นนี้หน้าตายังดูไม่เป็นพิซซ่า เลยต้องแต่งหน้ากันหน่อย ใส่เครื่องปรุงบะหมี่ที่เหลือลงไป วางมอสซาเรลลาชีส ใส่ซอสมะเขือเทศ โรยใบโหระพา ชีสเริ่มละลายก็ปิดไฟ จะได้พิซซ่ารามยอนแหนม อร่อยแบบอินเตอร์เนชั่นแนลกันไป
มันฝรั่งอบแฮมชีส
กินมันเผาอุ่นๆ ท่ามกลางบรรยากาศหนาวๆ นั้น เข้ากันสุดๆ หัวมันเองก็เหมาะเป็นเสบียงยามเดินทางไกล เพราะเก็บได้นานและให้พลังงานมาก กินเป็นมื้อหลักเลยก็ได้ แต่เพื่อความปลอดภัย เราคงไม่ก่อฟืนเผามันกันกลางป่ากลางเขานะคะ เตาปิกนิกที่มีก็สร้างสรรค์เมนูอร่อยๆ จากมันได้ (ยกเว้นอุทยานที่จัดสถานที่ให้ก่อกองไฟได้)
ล้างมันฝรั่งให้สะอาด ใช้ส้อมจิ้มมันฝรั่งให้ทั่วลูก แล้วห่อฟอยล์วางลงปิ้งบนตะแกรง เวลาประมาณ 20-30 นาที ระหว่างนี้ก็นั่งเม้าท์ นั่งชมวิวไปเพลินๆ รอมันสุก (มันสุกดูง่ายๆ ด้วยการเอาส้อมจิ้ม ถ้าเนื้อมันไม่ติดส้อมแสดงว่าสุกแล้ว หรือจะจิ้มมาสักชิ้นแบ่งกันชิมก็ได้) จากนั้นเปิดฟอยล์ บั้งมันฝรั่งแนวขวางห่างกันประมาณ 1 เซนติเมตร ใส่แฮมกับเชสด้าชีสหั่นชิ้นตามรอยที่บั้งไว้ ปิ้งต่ออีกแป๊บหนึ่งพอชีสละลาย โรยต้นหอม ช้อนส้อมในมือพร้อมก็ลุยกันเลย (ต้นหอมช้ำง่าย ฉะนั้นควรพันด้วยพลาสติกแร็ป ก่อนแล้วค่อยแพ็กลงกระเป๋า)
หนาวนี้ใครขึ้นดอยไปแคมป์ปิ้งขอให้สนุกกับการท่องเที่ยว ส่วนใครได้ลองล้อมวงทำอาหารด้วยสูตรของเราแล้ว แวะมาเล่าให้ฟังบ้างว่ารสชาติและบรรยากาศฟินแค่ไหนนะคะ
