วาเลนไทน์มันจะมุมิคุคิก็เฉพาะกับคนมีคู่เท่านั้นหรอก ส่วนคนนกๆ ที่หันมองรอบตัวไม่เห็นใครสักคน แถมพื่อนก็ดันมีคนรู้ใจกันไปซะหมด วาเลนไทน์คือวันอันแสนโหดร้ายที่เราทำได้ก็แค่นั่งๆ นอนๆ อยู่ในบ้าน (ไม่อยากออกไปเห็นภาพบาดตานี่นา) แต่ดูสิดู เลื่อนฟีดเฟสบุ๊คก็ยังไม่วายเห็นแต่รูปคนมีคู่ หันไปทางไหนช่างมีแต่เรื่องชวนให้หงอยเหงาเหี่ยวเฉา ก่อนจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ สายอาหารอย่างเราก็ต้องบำบัดด้วยอาหาร วางมือถือแล้วลุกขึ้นมาทำอาหารจานนี้ ขอบอกว่าเราเลือกมาอย่างพิถีพิถันให้เป็นเมนูคลายเหงา ที่จะพาคุณผ่านพ้นวันวาเลนไทน์ไปได้อย่างไม่ต้องฟุ้งซ่าน เพราะต้องใช้ความใส่ใจและเวลาทำไม่น้อย แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะยาก รับรองว่าทำได้ยาวๆ นานๆ อย่างเพลินๆ แล้วคุณจะผ่านพ้นวันแห่งความรักที่ไม่เห็นจะอินเลย (มองบน) ด้วยตัวคนเดียวกับของอร่อยอีกจานไปได้ง่ายๆ พร้อมแล้วก็ไปทำ ‘ขนมจีบนก’ กันเลย ไงล่ะ แค่ชื่อก็จี๊ดแล้ว!
ส่วนผสมสำหรับทำขนมจีบนก
จำนวน 20 ชิ้น
กระเทียมไทยโขลกหยาบสับสำหรับเจียว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1/3 ถ้วย
ผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนูสด และกระเทียมเจียว สำหรับกินแนม
งาดำและแครอทหั่นชิ้นเล็กตัดปลายแหลมสำหรับทำตาและปาก
แหนบสำหรับจีบ
ใบตองสำหรับรองนึ่ง
ไส้
น้ำมันเจียวกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยขาวเม็ด ½ ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี 3 ราก
เนื้อไก่สับละเอียด ½ ถ้วย
หอมใหญ่หั่นลูกเต๋า ¼ ถ้วย
น้ำปลา 1¼ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1½ ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ ¾ ช้อนชา
แป้ง
แป้งข้าวเจ้า ¾ ถ้วย
แป้งมันสำปะหลัง 1½ ช้อนโต๊ะ
แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ ¾ ถ้วย
น้ำมันพืช 1½ ช้อนโต๊ะ
แป้งมันสำหรับทำแป้งนวล 3 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเจ้าสำหรับทำแป้งนวล 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมจีบนก
1. สำหรับคนที่อยากใช้เวลานานๆ ให้นานสุดๆ ไปเลย เพราะเห็นคนมีคู่แล้วมันปวดใจ เราแนะนำให้เชิ่ดใส่ไก่บด แล้วเริ่มจากการสับไก่เองเลย นำสันในไก่มาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ รวมกัน สับๆๆๆ ให้ละเอียดจนเหมือนไก่บด
2. โขลกพริกไทย กระเทียม และรากผักชี ตามลำดับ ให้ละเอียดเตรียมไว้ ใครสงสัยว่าต้องสับกระเทียมและรากผักชีให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนตำหรือเปล่า (จะได้โขลกง่าย) บอกเลยว่าสูตรนี้ไม่ต้องสับ เดี๋ยวจะเสร็จเร็วไป ผิดวัตถุประสงค์ของเรา โขลกไปค่ะ
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง เจียวกระเทียมให้หอม ตักขึ้น จากนั้นตั้งกระทะใบเดิมบนไฟกลาง เติมน้ำมันเจียวกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ ผัดเครื่องที่โขลกไว้ให้สุกหอม ใส่เนื้อไก่สับ และหัวหอมใหญ่ผัดจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำตาลปี๊บ ผัดจนส่วนผสมแห้ง ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักให้เย็น
4. ผสมแป้งทั้งสามชนิดเข้าด้วยกันในกระทะทอง ถ้าไม่มีกระทะทอง ใช้กระทะเทฟลอนแทนได้ ค่อยๆ เติมน้ำ ใช้ไม้พายคน ระวังอย่าให้แป้งเป็นก้อน นำขึ้นตั้งเตาบนไฟกลางค่อนอ่อน พอแป้งเริ่มข้นขึ้นลดเป็นไฟอ่อน ใส่น้ำมันลงไปแล้วกวนต่อจนแป้งสุก ปิดไฟ เทแป้งใส่ถาดที่โรยแป้งนวลบางๆ (แป้งมันผสมแป้งข้าวเจ้าสำหรับกันแป้งติดมือเวลานวด) นวดจนแป้งนุ่ม เนียน ไม่ติดมือ ใช้ผ้าขาวบางคลุมพักไว้
5. เตรียมซึ้งนึ่ง โดยใส่น้ำในหม้อลังถึง ¾ ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางให้เดือด
6. ไส้พร้อมแล้ว แป้งพร้อมแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาปั้นขนมจีบนกกันแล้ว โดยปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 ซม. แล้วกดให้แบนเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 นิ้ว ตักไส้ใส่ตรงกลางแป้งประมาณ 1 ช้อนชา ห่อให้มิด ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือปั้นแป้งให้สูงขึ้นสำหรับทำเป็นส่วนคอและหัวนก สำหรับคนที่ยังไม่เคยจีบใครและยังไม่มีใครมาจีบ เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ก็จะได้ลองจีบดูแล้วนะ ใช้แหนบจีบตัวนกให้รอบ แต่ละจีบห่างกันประมาณ 1-2 มม. (เวลาจีบพยายามอย่าให้นิ้วโดนแป้งส่วนที่จีบไปแล้ว) นำงาดำมาติดเป็นตาและใส่ปากนกด้วยแครอทที่หั่นเป็นปากแหลม นำไปวางในชั้นลังถึงที่ปูใบตองและทาน้ำมันเตรียมไว้ นึ่งนานประมาณ 7 นาที หรือจนแป้งสุก สังเกตได้จากแป้งจะใส ยกลง พรมด้วยน้ำมันกระเทียมเจียวที่เหลือ
7. จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนูและกระเทียมเจียว
หมายเหตุ
หากต้องการนกที่ผสมสองสีให้กวนแป้งอีกส่วนโดยให้เปลี่ยนจากน้ำธรรมดาเป็นน้ำอัญชัน ส่วนเวลาปั้นแป้งเป็นก้อนกลมให้ นำแป้งสีฟ้ามาผสมกับสีขาว ปั้นให้เป็นก้อนกลม แล้วนำไปปั้นเป็นตัวนกทำวนไปค่ะ
สูตรอาหารโดย สุวิมล ศรีพระจันทร์
