แกงตูมิ หรือ แกงตูมี้ แล้วแต่พื้นถิ่นจะเรียกกัน เป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมาลายู บางก็เรียกว่าอาหารของชาวเพอรานากัน และยังเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวภูเก็ตอีกด้วย ด้วยความเป็นอาหารลูกผสม นอกจากเชื้อชาติก็ยังมีความลูกผสมของรสชาติด้วย แกงตูมี้ที่ฉันคุ้นเคยจะคล้ายแกงแดงผสมแกงส้ม รสชาติออกเปรี้ยวหวานเค็ม ตามลำดับ น้ำแกงไม่เยอะและไม่น้อยกำลังพอดี ส่วนมากแล้วนั้นนิยมแกงกับปลาท้องถิ่นหรือปลาตามฤดูกาล ที่เห็นๆ ก็จะมีปลามง ปลาเก๋า หรือไม่ก็ปลาน้ำดอกไม้ และต้องเป็นปลาที่สดใหม่จะทำให้ได้รสชาติหวานอร่อยจากเนื้อปลา ส่วนรสชาติของแกงนั้นจะมีความเปรี้ยวและหวานตามกันมา และเค็มปลายๆ ถึงสีเครื่องแกงจะแดงแบบโหดแต่ไม่เผ็ดร้อนแรงอย่างที่คิด ส่วนผักที่ใส่ลงไปก็จะมีกระเจี๊ยบเขียว ซึ่งทำให้รสชาติของแกงกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการทำแกงตูมี้นั้นอย่างที่บอกว่าเป็นแกงลูกผสม แต่ละที่ที่ได้รับอิทธิพลมาจึงอาจมีความแตกต่างกันบ้างในบางถิ่น ซึ่งสูตรนี้ฉันได้มาจากคนรู้จักบอกต่อกันมาและนำมาผสมกับความคุ้นเคยที่ ‘อาม๊า’ เคยทำให้กินสมัยเด็กๆ เลยออกมาเป็นสูตรนี้ โดยเริ่มจากการตำเครื่องแกงให้ละเอียด เครื่องแกงสูตรนี้ประกอบไปด้วยหอมแดง กระเทียม ขี้มิ่น (ขมิ้น) พริกขี้หนูสวนสด พริกขี้หนูแห้ง ตะไคร้ กะปิและเกลือสมุทร เพื่อเพิ่มรสชาติ โขลกเครื่องแกงให้ละเอียดดี
หลังจากนั้นก็ผัดเครื่องแกงในกระทะกับน้ำมันให้เครื่องแกงสุกและมีกลิ่นหอม ปรุงรสโดยใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าว ลงไปผัดให้เข้ากัน จใส่น้ำตามลงไป พอเดือดอีกครั้งก็ใส่เนื้อปลา ปิดฝาไว้ รอให้เนื้อปลาสุกดี จึงค่อยใส่กระเจี๊ยบเขียวและใบมะกรูดเพื่อเพิ่มความหอม (เราจะไม่คนเป็นอันขาดเพราะจะทำให้เนื้อปลาเละได้) พอส่วนผสมทุกอย่างสุกก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ลักษณะของแกงจะมีน้ำมันลอยหน้าซึ่งเป็นเรื่องปกติของแกงชนิดนี้
แกงตูมี้นิยมทำกินกันที่บ้าน หรือหากบ้านไหนมีงานก็จะทำเลี้ยงในงานตามแต่ละบ้าน นิยมกินกับข้าวสวยร้อนๆ อย่างที่บอกว่าสีแกงอาจจะดูเผ็ดร้อน แต่รสชาตินั้นไม่เผ็ดร้อนอย่างที่คิด รสชาติลูกผสมอย่างแกงแดงกับแกงส้มอย่างที่ใช้เรียกมาแต่เด็ก เปรี้ยวหวานอร่อยบวกกับเนื้อปลาสดๆ ทำให้เมนูนี้เป็นเมนูที่อร่อยและเป็นเมนูประจำถิ่นที่น่าไปลองกินหรือทำกินดูสักครั้ง
บทความเพิ่มเติม
หมี่หลอ เมนูอร่อยที่จะได้กินเมื่อมีคนตาย