เราเป็นคนหนึ่งที่ตอนเด็กๆ ไม่ชอบเต้าหู้ขาวเลย ถ้าแม่ทำแกงจืดผักกาดขาวแล้วใส่เต้าหู้ขาวมาคือเหลือแน่นอน เพราะพี่สาวเราก็อาการหนักกว่าตรงที่แม้กระทั่งเต้าหู้ไข่ก็ไม่กิน แต่พอโตมาได้สักหน่อย เรียกว่าวุฒิภาวะถึงก็เริ่มกินได้ (ไม่นับน้ำเต้าหู้นะ) ยิ่งในซุปมิโสะนี่เลิฟเลย อาจเพราะไม่มีกลิ่นรุนแรง รสชาติก็เกือบจะจืดและเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ไม่ทรมานใจ วันหนึ่งไปเจอบทความที่เขียนถึงชาวญี่ปุ่นที่มาตั้งรกรากในจังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็เปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่มีเต้าหู้ญี่ปุ่นแท้ๆ ทำเอง ก็รู้สึกว่าจะต้องดีแน่ๆ เลยตัดสินใจทันทีว่าถ้ามีทริปเชียงใหม่ต้องไปชิมให้ได้ แล้วเราก็ไปจริงๆ ค่ะ
นั่งรถเมล์แดงมาลงที่สะพานนวรัฐ ค่อยๆ เดินเลาะริมแม่น้ำปิงมาที่โรงแรมศรีประกาศ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ก็จะเจอป้ายเขียนว่า TOFU เป็นแนวตั้งอยู่ด้านหน้า ซึ่งเรามาวันธรรมดาบรรยากาศก็จะเงียบๆ หน่อย ลุ้นในใจว่าเปิดหรือเปล่าน้า เดินเข้าไปภายในชั้น 1 ด้านซ้ายจะเป็นส่วนของร้านอาหาร 3 Studio ด้านขวาเป็นส่วนของร้านที่ขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มีพนักงานยิ้มหวานเดินมาต้อนรับและเชิญเราเข้าไปนั่งด้านใน พร้อมอธิบายเมนูให้ฟัง ซึ่งเราโชคดีมากที่มาวันนี้เพราะมีเมนูพิเศษคือ เต้าหู้ซารุ ที่ไม่ได้ทำทุกวัน ทำเฉพาะบางวันเท่านั้นและบอกไม่ได้ว่าวันไหน
เต้าหู้ซารุก็คือเต้าหู้เนื้ออ่อนในกระจาดไม้ไผ่ ที่คุณเคโกะเจ้าของร้านทำด้วยวิธีการแบบดั้งเดิม คือใส่เฟรมไม้ให้เต้าหู้ขึ้นรูป และจะทำครั้งละไม่มาก เพราะต้องการให้คนกินรู้สึกถึงความสดใหม่อยู่เสมอ นอกจากนั้นคุณเคโกะยังใช้ถั่วเหลืองไม่ดัดแปลงพันธุกรรม และใช้น้ำแร่จากเชียงดาวมาเป็นส่วนผสมในการทำเต้าหู้ มีเนื้อสัมผัสนุ่มนิ่ม ไม่แข็งหรือเด้งดึ๋งเหมือนเต้าหู้ที่เป็นหลอด พนักงานก็แนะนำว่าอยากให้ลองชิมรสชาติจริงๆ ของเต้าหู้ดูก่อน ถ้าใครรู้สึกว่าจืดเกินไป สามารถราดโชยุให้มีรสสักนิดก็ได้เหมือนกัน ความรู้สึกแรกที่เรากินมันไม่ใช่ความจืด แต่มันคือความสดชื่นและรู้สึกดี เอาจริงๆ นะ รู้สึกว่าชีวิตมีค่า และรักตัวเองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ต่อไปเป็นการชิมเซต Tofu Gozen เป็นกับข้าว 5 อย่าง ที่ในแต่ละวันก็ไม่เหมือนกันอีก ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นจะมีวัตถุดิบอะไร และคุณเคโกะจะรังสรรค์เมนูอะไรให้เรา เซตนี้เสิร์ฟพร้อมข้าวไม่ขัดสีและซุปมิโสะรสอ่อน การจัดวางของแต่ละเมนูก็มีศิลปะ และเป็นอาหารที่ทำจากผักทั้งหมด ไม่มีเนื้อสัตว์เลย อาจจะเป็นผักใบหรือรากไม้ก็แล้วแต่ แต่ย้ำว่าปลอดสารเคมี และโฮมเมดแบบสุดๆ เป็นการกินเพื่อสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย มีการใช้ Kouji มาทำซอสและนำไปปรุงอาหารต่อ โดย Kouji ก็คือหัวเชื้อราที่นำไปหมักกับวัตถุดิบอย่างข้าวหรือถั่ว มีหน้าที่ย่อยสลายให้ข้าวหรือถั่วกลายเป็นซีอิ๊วหรือมิโสะ เป็นสิ่งที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง พอเรากินเข้าไปแล้วก็จะดีต่อระบบย่อยอาหารนั่นเอง
โดยรวมของรสชาติไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ที่นำมาทอด ผักที่นำมาลวก ต่างก็มีรสชาติของธรรมชาติในตัวเอง บางอย่างมีรสเค็มอ่อนๆ จากมิโสะเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้เราค้นพบว่าที่ผ่านมาเรากินเค็มมาก จริงๆ แล้วเราควรหันกลับมารับเพียงรสอ่อนๆ จากธรรมชาติ และรสชาติที่แท้จริงของผักต่างๆ บ้าง เพื่อรีเซตระบบในร่างกาย อะไรที่เคยไม่ชอบกลับกลายเป็นชอบ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นความสุขที่ได้จากการกินเต้าหู้แสนอร่อยในครั้งนี้ เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจากการกินเต้าหู้ คุณเคโกะจะนำไปบริจาคเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ด้อยโอกาสที่ซัมบาลาด้วย เรียกว่าเป็นความสุขแบบทวีคูณจริงๆ ค่ะ
ถ้าอยากมากินเต้าหู้ที่ดีต่อใจเหมือนเราให้ไปที่ร้าน 3 Studio ชั้น 1 โรงแรมศรีประกาศ ถนนเชีบงใหม่-ลำพูน อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เปิดทุกวันพฤหัสบดี – อาทิตย์ เวลา 11:00 – 17:00 น. และอย่าลืม #กินขนาดนี้เอาอะไรไปผอม ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเหมือนเดิมนะคะ
เรื่องโดย: ธัญพัชร วงศ์ถวัลย์
ภาพโดย: วรุฒม์ จุลพัทธโชติ
