ต้องเล่าย้อนกลับไปก่อนว่าตัวฉันนั้นรู้จัก ‘เชฟน่าน’ ได้อย่างไร ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงใกล้จบมัธยมต้น เป็นช่วงที่เราต้องเลือกทางเดินที่ไปสู่การเรียนที่อยากจะเรียน และยังต้องคิดถึงอาชีพในอนาคตที่อยากจะเป็น ซึ่งเพื่อนรอบๆ ตัวฉันจำนวนไม่น้อยเลย เลือกที่จะเรียนต่อสายสามัญเหมือนปกติที่ควรจะเป็น แต่ตัวฉันเองนั้น ‘มองไม่เห็นภาพ’ ตัวเองในอนาคตเลย ถ้าเลือกเรียนสายนั้น ในขณะที่ทุกคนวุ่นวายกับการการหนังสือสอบต่อมัธยมปลาย ตัวฉันเองได้แต่นั่งดูยูทูปไปเรื่อยๆ จนมาเจอคลิปหนึ่ง เป็นคลิปที่สอนทำอาหารง่ายๆ ตัวพิธีกรเองพูดจาเป็นกันเอง มีความสนุกสนาน อธิบายได้กระชับ เข้าใจง่าย นั่นแหละที่ทำให้ฉันรู้จัก ‘เชฟน่าน’ เป็นครั้งแรก ในรายการ CIY Cook it yourself
พอเริ่มดูคลิปแรก เราก็เริ่มสนใจดูคลิปต่อๆ ไป จนวันหนึ่งนึกอยากจะทำอาหารตามที่เชฟน่านเขาสอนบ้างแหละ เลยตัดสินใจขับรถออกไปซื้อของมาทำตาม โดยเมนูแรกที่ทำตามนั่นก็คือ ‘บานอฟฟี่พาย’ เนื่องจากที่บ้านไม่มีเตาอบ การเริ่มทำขนมที่ไม่อบอย่างบานอฟฟี่พายเป็นการเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว ซึ่งพอทำเสร็จแล้วดัน ‘โคตรอร่อย’ ตอนนั้นมีความคิดเข้ามาในหัวเลยว่า “เห้ย เราเองก็ทำได้นะ”
ขณะนั้นเอง เลยทำให้เข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น ใช้เวลากับการศึกษาสูตรอาหารมากพอสมควรจนคิดว่า เราอาจจะต้องเรียนต่อทางด้านอาหารอย่างจริงจังแล้วละ การทำอาหารนี่แหละมันทำให้เราเห็นภาพตัวเองในอนาคต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเชฟน่านเป็นคนที่ทำให้ฉันหาตัวเองเจอในวัย 15 ขวบ และฉันก็ได้เรียนต่อทางด้านอาหารจนจบ ในวัย 18 ปี ตอนนี้ฉันมีอายุครบ 23 ปีแล้ว และหวังว่าวันหนึ่งจะได้ร่วมกันกับเชฟน่านซักวัน
เวลาผ่านไปแต่ฉันก็ยังติดตามดูรายการของเชฟน่านมาโดยตลอด ทั้งในยูทูปหรือแม้แต่หนังสือสูตรอาหารของสำนักพิมพ์แสงแดดจนมาปัจจุบัน กลายมาเป็นเพจ KRUA.CO ก็ยังติดตามอยู่ และได้มาเจอสูตรที่น่าสนใจอย่าง ‘ไข่เจียวบ้านเชฟน่าน’ และ ‘หมกหน่อไม้บ้านเชฟน่าน’ ซึ่งโคตรจะน่ากิน เลยกลายมาเป็นเมนูที่ทุกวันนี้ ฉันก็เอามาทำกินอยู่ที่บ้านบ่อยๆ แต่ก็ได้ผสมความชอบของตัวเองลงไปเล็กน้อยแหละนะ
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/12/ArticlePic_1670x1095-02-scaled.jpg)
เริ่มจากเมนู ไข่เจียวบ้านเชฟน่าน ที่ความไม่เหมือนใครตรงที่ว่า จะใส่หมูสับเยอะกว่าไข่ และมีการเอากระเทียมและหอมแดงลงไปผัดกับหมูให้หอมก่อนที่จะใส่ไข่ หน้าตาของไข่เจียวจะยู่ยี่นิดหน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยจนลืมไข่เจียวธรรมดาไปเลย แต่พอฉันเอาสูตรไข่เจียวมาทำเลยใส่ผักชีเพิ่มเข้าไปหน่อยเพิ่มความหอม และส่วนตัวก็ชอบกินผักชีมาก
ส่วนผสมก็คือ ใช้หมูสับที่ติดมัน (เอาหมูสามชั้นมาสับเองอร่อยสุดเพราะมันเยอะ) ประมาณ 200 กรัม (2ขีด) กับไข่ประมาณ 4 ฟอง กระเทียมจีนประมาณ 6 กลีบ (สับละเอียด) จริงๆ สูตรบ้านเชฟน่านใช้กระเทียมไทย แต่เราขี้เกียจไง กว่าจะปอกเสร็จกว่าจะได้กิน หอมแดงก็ปอกเปลือกซอยบางๆ ผักชีก็ซอยเอาไว้เลย
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/12/ArticlePic_1670x1095-03-scaled.jpg)
เริ่มจาก ใส่น้ำมันผัดกระเทียมและหอมแดงในกระทะก่อน พอหอมใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก จากนั้นตีไข่ใส่ชาม ปรุงด้วยน้ำมันหอยและน้ำปลา ถ้าเป็นบ้านเชฟน่านจะปรุงแค่น้ำปลาอย่างเดียว แต่ที่บ้านชอบกลิ่นน้ำมันหอยเลยใส่เพิ่มไปด้วย ทีนี้ใส่ไข่ที่ตีไว้ลงไป ค่อยๆ ตะล่อมจนไข่สุก กลับบ้าน รูปทรงของไข่จะไม่เป็นแผ่นหรอก จะเป็นชิ้นแตกๆ ก็ค่อยๆ กลับทีละชิ้นเอา จากนั้นใส่ผักชีลงไป ปิดไฟละเอาใส่จานพร้อมตั้งโต๊ะ
“ตั้งแต่รู้จักไข่เจียวบ้านเชฟน่าน ก็ไม่ทำไข่เจียวธรรมดากินอีกเลย”
ต่อมาเป็นเมนูที่ 2 หมกหน่อไม้ แต่ต้องบอกก่อนว่าที่บ้านก็มีพ่อแม่เป็นชาวอีสานที่ทำอาหารกินเองประจำ การทำหมกหน่อไม้แบบบ้านฉันเป็นการหมกหน่อไม้ที่ห่อใบตอง แต่บ้านเชฟน่านทำให้เมนูนี้ง่ายขึ้นโดยการทำทุกอย่างในหม้อ และได้รสชาติแบบอีสานแท้ๆ เอาละ พูดละเปรี้ยวปากมาทำกันเลยดีกว่า
ในสูตรเชฟน่านจะใช้เนื้อสัตว์เป็นหมูสามชั้น หั่นชิ้นไม่เล็กไม่ใหญ่ (ประมาณ 300-400กรัม) หน่อไม้ขูดเส้น (700-800กรัม) ที่บ้านฉันเรียกติดปากว่า ‘หน่อไม้ปี๊ป’ เป็นหน่อไม้ดองที่ไม่ได้ดองเปรี้ยว ใช้ส้อมขูดเป็นเส้นๆ นำไปต้มเตรียมไว้ จากนั้นหันไปทำเครื่องแกง ในสูตรเชฟน่านจะใช้ พริกขี้หนูแห้ง หอมแดง กระชายและตะไคร้ ส่วนของวันนี้ที่บ้านฉันมักทำคือ กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้และพริกแห้ง แตกต่างกันนิดหน่อย แต่คิดว่าน่าจะอร่อยเหมือนกันนะ ตำรวมกันในอัตราส่วนที่กะๆ เอา คือ กระเทียม 3 กลีบ หอมแดง 4 หัว ข่าแง่งนึง ตะไคร้ประมาณ 3 ต้น พริกแห้งก็สามารถใส่ตามความชอบเลยว่าชอบเผ็ดน้อยเผ็ดมาก ไม่ต้องตำละเอียดมากนะ พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้วเตรียมลงหม้อได้เลย ส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญคือ น้ำย่านาง ใบแมงลัก ต้นหอม ใบมะกรูด พริกอีสานโดด
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/12/ArticlePic_1670x1095-04-scaled.jpg)
ต่อไปนี้ขอเล่าวิธีแบบที่บ้านฉันทำก็แล้วกันนะ ตอนแรกใส่หมูกับพริกแกงลงไปผัดในกระทะเล็กน้อย (ใช้กระทะเพราะทำในปริมาณที่เยอะ) ทยอยเติมน้ำย่านางลงไป (ประมาณ 1 ลิตร) ใส่หน่อไม้ลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงนัว และที่ขาดไม่ได้ ‘ปลาร้า’ ปริมาณคือใส่ไปเถอะ เอารสชาติที่ตัวเองชอบ ปรุงไปชิมไป กะๆ เอา สุดท้ายใส่ข้าวเบือ (ข้าวเบือคือ ข้าวเหนียวแช่น้ำเอาไปตำ) แต่ที่บ้านจะไม่ค่อยชอบใส่ข้าวเบือเยอะมากนัก ไม่ชอบให้มันเหนียวมากนั่นแหละ เลยใส่ไปประมาณกำมือเล็กๆ จากนั้นใส่ใบแมงลัก ต้นหอม ใบมะกรูด พร้อมกิน “เอ้า! มาเด้อกินเข่ากินเข่า” เสียงเรียกมากินข้าว
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/12/ArticlePic_1670x1095-05-scaled.jpg)
ต้องกินกับข้าวเหนียวเท่านั้นนะคะ บอกเลยข้าวเหนียวคือที่สุดของความเข้ากัน เอาข้าวเหนียวจั้มไข่เจียวอร่อยๆ ตามด้วยหมกหน่อไม้เผ็ดๆ ถ้ามีพริกอีสานกินแกล้มก็โรยไปด้วยนะ สำหรับคนชอบกินเผ็ด เป็นมื้ออาหารที่กลับบ้านไปกินทีไรก็หายเหนื่อยขึ้นมาทันที แม้ว่าทั้งวันที่ทำงานจะล้าเสียเหลือเกิน การได้กินกับข้าวที่แม่ทำ กับข้าวที่แสนจะอร่อยแบบนี้ ทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีขึ้นมาเลยแหละ
สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณสูตรดีๆ จาก KRUA.CO ที่ไม่ได้แค่แจกสูตรดีๆ มาให้ลองทำจนเป็นอาหารจานโปรดในบ้าน แต่ยังทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ ในตอนนั้นได้รู้จักตัวตนของตัวเองในวันนี้ และยังมีกิจกรรมครัวชวนเขียนที่ทำให้ตัวฉันในวัย 23 ได้เขียนเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครหลายๆ คนได้อ่าน ขอบคุณ.. ครัวดอทโค
ผู้เขียน: น้องขนุน
ผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่ชอบทำอาหารและชอบหากินของอร่อย ความสุขเล็กๆ คือการได้เห็นรอยยิ้มของคนที่กินอาหารฝีมือฉันแล้วบอกว่า ‘อร่อย’