DARQ รวมคราฟต์ช็อกโกแลตทั่วไทยไว้ที่อารีย์

มาแค่อารีย์ก็ได้ชิมคราฟต์ช็อกโกแลตหอมกรุ่นทั่วไทย

คนชอบเครื่องดื่มช็อกโกแลตอาจจะยังเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ เมื่อเทียบกับคนชอบดื่มกาแฟ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่คอมมูนิตี้นี้กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากความสำเร็จของคราฟต์ช็อกโกแลตไทยหลายๆ แบรนด์ รวมถึงคาเฟ่ช็อกโกแลตที่ทยอยผุดโผล่มาให้เห็น และ DARQ คาเฟ่ใหม่หมาดย่านอารีย์ของคุณ แมว-พิสิฐ สุธีโร ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ฉันชอบชื่อ DARQ ที่เรียบง่ายแต่แฝงความเท่ เช่นเดียวกับสไตล์การตกแต่งร้าน แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ตกแต่งในแนวมินิมอลด้วยโทนสีขาว-ดำ พร้อมโต๊ะ เก้าอี้ และพร็อพที่ต้องใช้คำว่า ‘คิดมาแล้ว’ ทุกชิ้น แล้วถ้าใครกำลังคิดว่าฟังแล้วเหมือนเป็นร้านที่เหมาะกับหนุ่มๆ ขอบอกว่าคุณคิดผิด เพราะในความขาว-ดำนั้น มีความน่ารักในแบบหญิงสาวแฝงเอาไว้ เรียกว่าเป็นคาเฟ่ที่ผู้ชายเดินเข้ามานั่งทำงานได้ ผู้หญิงก็เดินเข้ามานั่งเพลินๆ ถ่ายรูปได้

ความโดดเด่นอีกอย่างของ DARQ คือเหล่าน้องๆ หลังเคาน์เตอร์ที่มากับความรู้เรื่องคราฟต์ช็อกโกแลต ใครไม่ค่อยถนัด สามารถพูดคุยขอทั้งความรู้และคำแนะนำจากน้องๆ ได้ สมกับความตั้งใจให้ร้านนี้เป็นแหล่งพบปะของทั้งคนรักคราฟต์ช็อกโกแลตและคนที่อยากทำความรู้จักคราฟต์ช็อกโกแลต จะมือใหม่หัดช็อกหรือมือเก๋าก็มาได้เหมือนกันเพราะตัวคุณแมวเองแม้จะชอบช็อกโกแลตชนิดกินทุกวันเช้า-เย็นมาตั้งแต่เด็ก ทว่าเมื่อตั้งใจจะเปิดคาเฟ่คราฟต์ช็อกโกแลตอย่างจริงจัง ก็ยังต้องศึกษาอยู่นับปี

“เวลาเครียดจากงานหรือเริ่มวันใหม่ ผมจะเจอช็อกโกแลตเสมอ ชอบดื่มนมช็อกโกแลต ถ้าไม่ดื่มก็กินกับซีเรียล” คุณแมวเล่า “ชอบมากจนคิดว่า เออ มันน่าจะมีคนชอบเหมือนเรานะ ประกอบกับไปเจอตัวคราฟต์ช็อกโกแลตเข้า ประทับใจมาก ก็เลยกลายมาเป็นร้านนี้”

DARQ มากับคอนเส็ปต์ร้านที่เข้าถึงง่าย ร่วมสมัย ราคาไม่แพงเกินไป ให้คนสามารถกินได้ทุกวัน เพราะจริงๆ แล้วคราฟต์ช็อกโกแลตมีประโยชน์กับร่างกายมาก เนื่องจากไม่ต้องใส่น้ำตาล นมข้นหวาน นมจืด คอฟฟี่เมทใดๆ เพิ่มเติม เมื่อดื่มจึงได้รับแต่ไขมันโกโก้ที่ดี

“ตอนเจอคราฟต์ช็อกโกแลตครั้งแรก ผมทึ่งว่านี่คือโกโก้ที่ปลูกในไทยเหรอ ศึกษาเพิ่มเติมก็พบว่าไทยเราปลูกโกโก้หลายที่มาก แต่ละที่มีรสชาติเฉพาะตัว ผมเองกินครั้งแรกแล้วก็อยากลองกินตัวอื่นๆ คิดว่าคนอื่นก็น่าจะเหมือนกัน เลยเป็นที่มาของการนำคราฟต์ช็อกโกแลตจากเกษตรกรไทยหลายๆ แหล่งมารวบรวมไว้ที่นี่”

ด้วยความเป็นมือใหม่หัดคราฟต์ คุณแมวเลยตะลุยชิมตัวโน้นตัวนี้ (จริงจังถึงขนาดเมาช็อกโกแลต!) เป็นกระบวนการ ‘เลิร์นนิ่ง’ ที่เขาบอกว่าบางครั้งก็ ‘เออเร่อร์’ วนลูปไป

“บางอย่างมันต้องอาศัยประสบการณ์ เช่นการเก็บรักษา การชงก็มีวิธีชงที่จะทำให้คราตฟ์ช็อกโกแลตอร่อยนานไปจนถึงคนที่รออยู่ที่บ้าน หรือการที่รสชาติแต่ละรอบไม่เหมือนกัน เพราะคราฟต์ช็อกโกแลตมันเซนซิทีฟ ละเอียดอ่อนมาก แค่แป๊บเดียวรสชาติเปลี่ยน อุณหภูมิ การเก็บรักษาเปลี่ยน รสชาติก็เปลี่ยน”

หลังการชิมอย่างถึงพริกถึงขิง DARQ ก็มีคราฟต์ช็อกโกแลตตัวเด่นๆ อย่าง พบพระ – Pob phra dark 80% (140 บาท) ที่ทางร้านอธิบายไว้ว่า nutty creamy vegetal ตัวนี้เหมาะกับสาวๆ หรือคนเริ่มต้นดื่ม ด้วยรสชาติที่นุ่มนวล กลมกล่อม ขมนิด หวานหน่อย มีความครีมมี่ละมุนจนอาจจะลบภาพคราฟต์ช็อกโกแลตขมๆ เปรี้ยวๆ ไปเลย และถ้าอยากแอดวานซ์ไปอีกขั้น แนะนำ ตาก – Tak dark 72% Summer (140 บาท) กับคำจำกัดความรสชาติ red apple, raspberry, winey, dried banana, rose เรียกว่ารสชาติซับซ้อนหลากมิติ และที่แน่ๆ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดเจนมาก โดยทั้งสองตัวมีความฟลอรัลซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโกโก้จากภาคเหนือที่มีดอกไม้เยอะ และจริงๆ แล้ว พบพระก็เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดตาก แต่รสชาติของทั้งสองชนิดแตกต่างกันชัดเจน ด้วยพื้นที่ก็เหตุหนึ่ง และอีกสาเหตุคือพบพระใช้ยีสต์ธรรมชาติในการหมัก ส่วนตากใช้ยีสต์จากห้องแล็บ

ในขณะที่ช็อกโกแลตจากภาคตะวันออกอย่างจันทบุรี ระยอง จะมีความฟรุตตี้เพราะเป็นพื้นที่ที่ปลูกผลไม้เยอะ และช็อกโกแลตจากภาคใต้จะมีทั้งแนวนัตตี้และฟรุตตี้เฮิร์บ ซึ่งสัมผัสได้ชัดเจนจาก สงขลา – Song kla dark 80% Summer (140 บาท) กับคำอธิบายรสชาติ nutty, mccademia, creamy, fudge, vegetal ต้องบอกว่ากลิ่นถั่วและความครีมมี่ตีเข้าจมูกเข้าคออย่างจัง แตกต่างจากสองตัวแรกอย่างสิ้นเชิง

คุณแมวแนะนำเทคนิคว่าสำหรับคราฟต์ช็อกโกแลต กินแบบเย็นดีกว่าร้อน มิติฟรุตตี้จะสว่างชัดกว่า แต่การชงเย็นก็ต้องใช้ความพิถีพิถันมาก เพราะคราฟต์ช็อกโกแลตเซนซิทีฟกับน้ำ เจอแล้วรสจะเปลี่ยน จึงต้องใช้วิธีชงเย็นโดยน้ำแข็งไม่ละลาย และต้องไม่เย็นเกินไป

“วิธีชงเราพิถีพิถันมาก ตั้งแต่ชั่ง ตวง วัด ต้องเป๊ะ ต้องดรอปอุณหภูมิก่อนเจอน้ำแข็ง ไซซ์น้ำแข็งก็เลือกมาแล้วว่าไซซ์นี้ดีที่สุด เพราะชงเย็นไปจะไม่อร่อย น้ำแข็งก็ต้องละลายไม่มาก คอนดิชั่นเยอะมาก” คุณแมวเล่าเหมือนจะบ่น แต่ในความบ่นนั้นมีความสนุกและแพสชั่นที่สื่อออกมาชัดเจน

เสน่ห์ของคราฟต์ช็อกโกแลตคือรสชาติที่ได้จากจุลินทรีย์ที่หมักโดยจุลินทรีย์ และรสเปรี้ยวนิดแบบฟรุตตี้คือผลลัพธ์ที่น่าลอง แม้หลายคนอาจจะปฏิเสธเพราะเกรงความเปรี้ยวหรือใดๆ ก็ตาม แต่คุณแมวยืนยันว่าอยากให้มาลองฟรุตตี้ที่นี่ เพราะคัดสรรมาแล้ว “ฟรุตตี้มีแบบดีกับไม่ดี ซึ่งผมจะชิมฟรุตตี้ของร้านเสมอให้มั่นใจว่ามันเป็นฟรุตตี้ที่ดี”

ชิมแล้ว เอามาขายแล้ว ก็ยังต้องชิมอีกเหรอ? ฉันถามด้วยความสงสัย

“ชิมครับ เพราะแต่ละแบทช์จะมีความแตกต่างกัน คราฟต์ช็อกโกแลตขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เรื่องการปลูก การคั่วของช็อกโกแลตเมคเกอร์ ฝีมือ เทคนิค ฤดูกาลก็มีผล ช็อกโกแลตพบพระวันนี้กับอีก 4 เดือนอาจแตกต่าง แต่ไม่เยอะ ผมต้องชิมเพื่อให้มั่นใจว่ารสชาติได้แบบที่เราต้องการ”

DARQ มีคราฟต์ช็อกโกแลตจากหลายแหล่งทั่วประเทศ ทั้งพบพระ ตาก สุริยาฟาร์ม นางั่ว สงขลา ฯลฯ แต่คุณแมวก็ยังคงชิมตัวใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะนอกจากที่มีในตอนนี้ ในอนาคตก็แน่นอนว่าจะต้องเพิ่มเติมคราฟต์ช็อกโกแลตจากแหล่งอื่นๆ มาให้คนชอบดื่มคราฟต์ช็อกโกแลตได้ไปลองสัมผัสรสชาติกันอีก นอกจากกำไรจะตกอยู่กับคนรักคราฟต์ช็อกโกแลตที่มาแค่อารีย์แต่ได้ลองอย่างหลากหลายทั่วประเทศ ก็ยังถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรท้องถิ่นไปด้วย

“ผมอาจจะไม่ได้คิดเรื่องช่วยเหลือเกษตรกรเป็นประเด็นหลัก แต่การที่เราทำแบบที่ทำอยู่ เราแค่ซื้อๆๆๆๆ เกษตรกรเขาก็ขายได้ ได้ระบายผลผลิต ก็เรียกว่าเป็นการช่วยแบบไม่รู้ตัวดีกว่า เราทำงานของเรา แต่งานของเรามันไปช่วยเขาด้วย ก็เลยรู้สึกว่า เออ ทำไปเหอะ ยังไงก็ดี ถึงจะไม่ได้ตั้งธงว่าทำเพื่อช่วยคนไทย แต่การที่เรายึดเทคนิคการขายแบบนี้ วิธีการขายแบบนี้ มันจะช่วยเกษตรกรแน่นอน”

นอกจากเครื่องดื่มทั้งร้อน/ เย็น ในราคาเป็นมิตร DARQ ยังมีขนมแสนอร่อยไว้ให้กินกับเครื่องดื่ม (หรือจะกินเดี่ยวๆ ก็ไม่ว่ากัน) ทั้งตัวดังตัวเด็ด ครอฟเฟิล – French Dark Chocolate Croffle (85 บาท) ที่ใช้ช็อกโกแลตฝรั่งเศสและเนยฝรั่งเศส ความหอมและเข้มข้นดับเบิ้ลแบบชิ้นเดียวไม่พอ ฉันยังไม่ทันถามว่าทำไมไม่ใช้ช็อกโกแลตไทย คุณแมวก็อธิบายเหมือนอ่านใจได้ว่าเคยลองใช้คราฟต์ช็อกโกแลตทำขนมแล้ว “แต่ไม่เวิร์ก” ช็อกโกแลตฝรั่งเศสจึงเป็นคำตอบสุดท้าย อร่อยไม่อร่อยก็เรียกว่าขายเกลี้ยงทุกวัน ถ้ามาเย็นอาจจะไม่มีให้กินแล้ว รวมถึง ไอศกรีมช็อกโกแลตกับแซงเกรีย – Double Dark Chocolate 80% with Sangria (Red Wine&Berry) (175 บาท) ไอศกรีมช็อกโกแลตเบลเยี่ยมจับคู่มากับไอศกรีมไวน์แดง ฝั่งหนึ่งรสชาติเข้มข้นขมติดปลายลิ้น อีกฝั่งเปรี้ยวนำหวานตาม กินด้วยกันแล้วช่วยตัดรสกันได้เป็นอย่างดี อร่อยจนกวาดหมดถ้วย