3 ความสยองของหนังที่สั่นคลอนการกิน

6,038 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
อาหารในภาพยนตร์ไม่ได้มีแค่ด้านสวยงามอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในบางครั้งบางที อาหารก็สื่อสารความสยดสยองชวนแหวะได้เช่นกัน แถมบางเรื่องยังทำหน้าที่ชวนแหวะได้ดีจนเกิดความเปลี่ยนแปลงในวงกว้างได้อีกด้วย

ด้วยศาสตร์ของหนังที่เกิดจากการประกอบขึ้นของภาพและเสียง เพื่อสนับสนุนการเล่าเรื่องของผู้สร้างให้สัมฤทธิ์ผลได้มากที่สุด จึงไม่แปลกหากมันจะกลายเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในการโน้มน้าวใจผู้ชม ซึ่งในแวดวงอาหาร หลายครั้งหนังก็ส่งเสริมการกินอย่างที่เคยได้นำเสนอก่อนหน้านี้เป็นระยะ แต่ในทางตรงกันข้าม ความเป็นหนังก็ได้บั่นทอนแรงบันดาลใจแห่งการกินจนเกิดเป็นประเด็นอื้อฉาวขึ้นตามมา ดังเหตุการณ์อันเนื่องจากหนังที่เราจะยกตัวอย่างมาให้ชมนี้

การที่หนัง ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2’ โดนเซ็นเซอร์ด้วยชนวนเหตุอันบางเบาอย่างพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ที่โศกเศร้าเกินงาม มันพาลให้นึกไปถึงประวัติศาสตร์การเซ็นเซอร์ภายใต้ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 อีกหลายๆ กรณีที่ประหลาดจนกลายเป็นตลกร้ายประดับวงการหนังไทย หนึ่งในนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนังเรื่อง ‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อคน’ เมื่อ พ.ศ.2552 ซึ่งอาจไม่ใช่ชื่อหนังที่หลายคนคุ้นเคยนักเพราะในเวลาต่อมามันได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘เชือดก่อนชิม’ นั่นเอง

‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อคน’ เป็นผลงานการกำกับของ ทิวา เมยไธสง และอำนวยการสร้างโดย พจน์ อานนท์ (พชร์ อานนท์ ในปัจจุบัน) เนื้อหาของหนังมีองค์ประกอบแห่งความหมิ่นเหม่กระจายทั่วทุกอณู กับชีวิตของ บุษ (ใหม่ เจริญปุระ) เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่กำลังเผชิญวิกฤตทางยอดขาย กระทั่งในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เธอเจอศพนักศึกษาที่ถูกทหารยิงเสียชีวิตอยู่ในรถขายก๋วยเตี๋ยว ประกอบกับปูมหลังของเธอที่เติบโตมากับความรุนแรงในครอบครัว จึงตัดสินใจจัดการกับศพนั้นด้วยตัวเอง บุษนำเนื้อมนุษย์มารังสรรค์สูตรใหม่ที่กลับได้รับความนิยมขึ้นทันตา กอบกู้สถานการณ์ร้านก๋วยเตี๋ยวที่กำลังร่อแร่ให้กลับมาเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอีกครั้ง เธอจึงต้องหาทางนำเนื้อมนุษย์มาเป็นวัตถุดิบในวันต่อๆ ไปอย่างไม่อาจหยุดยั้ง

หนังได้เข้าฉายด้วยเรตสูงสุด ฉ 20- (ห้ามคนอายุต่ำกว่า 20 ปีดู ต้องตรวจบัตรประชาชนก่อนซื้อตั๋ว) แต่สิ่งที่ทำให้วงการฮือฮาก็คือหนังต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วย เพราะชื่อ ‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อคน’ นั้น คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์มองว่าอาจกระทบต่อแวดวงร้านก๋วยเตี๋ยวก็เป็นได้ ซึ่งทีมผู้สร้างก็หาทางออกด้วยชื่อใหม่ที่แสนจะร้ายกาจว่า ‘เชือดก่อนชิม’ อันมีนัยยะแดกดันผลการเซ็นเซอร์ที่จัดการกับตัวหนังเสียก่อนที่ผู้ชมจะได้ลิ้มลองมันด้วยตัวเอง 

สุดท้ายหนัง ‘เชือดก่อนชิม’ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการร้านก๋วยเตี๋ยวเท่าไรนัก บางทีอาจเป็นเพราะหนังเปลี่ยนชื่อตามที่คณะกรรมการฯ ชี้นำมาก็เป็นได้ ไม่มีใครหยั่งรู้ แต่อย่างน้อยมันก็ฟ้องว่าตัวหนังได้สร้างแรงขับเคลื่อนบางอย่างบนโลกของความเป็นจริงต่อวงการอาหารไทย แม้จะเกิดขึ้นในกลุ่มเล็กๆ ของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ก็ตามที

พล็อตหนังที่ว่าด้วยการกินเนื้อมนุษย์ไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการหนัง ยังมีหนังอีกมากมายที่ว่าด้วยการนำมนุษย์มาทำอาหาร เช่น หนังชุด Hannibal ที่ว่าด้วย ฮันนิบาล เล็กเตอร์ ผู้พิสมัยในรสชาติของเนื้อมนุษย์ แต่เพราะรสนิยมอันหรูหราและความฉลาดเหนือมนุษย์ของเขาไม่ได้เชื่อมโยงสู่วิถีชีวิตปกติของผู้ชมเท่าไรนัก หรือหนังโหดสยองอย่าง ‘เปรตเดินดิน กินเนื้อคน’ (Cannibal Holocaust) หนังช็อคโลกที่วางสถานะเป็น found footage ชนเผ่ากินคน นั่นแม้จะสยองชวนอ้วกแค่ไหน แต่ก็ไกลตัวเกินกว่าจะสะเทือนวงการอาหารได้เท่ากับ The Untold Story หรือ ‘ซาลาเปาเนื้อคน’ หนังปี 1993 ของ เฮอร์แมน เหยา

แค่ชื่อไทยก็น่าจะพอเดาได้ว่าสะเทือนขวัญผู้บริโภคขนาดไหน แต่บริบทรายรอบของหนังนั่นต่างหากที่ส่งผลอย่างชัดเจนต่อยอดขายซาลาเปาในช่วงเวลาที่มันออกฉาย เพราะหนังสร้างมาจากเรื่องจริง!  

เหตุการณ์ที่ว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญเกาะฮ่องกงเมื่อปี 1984 เกิดขึ้นในร้านอาหารแปดเซียน (Eight Immortals Restaurant) ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของครอบครัวหลิน วันหนึ่งสองสามีภรรยาเล่นพนันกับ หวางจี้หาง ที่สนิทสนมกันแล้วแพ้เขาราบคาบจนเป็นหนี้หวางอยู่แสนกว่าหยวน ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีทรัพย์สินมากพอจะชดใช้หนี้ให้หวางได้ เกิดเป็นความแค้นจุดชนวนไปสู่การฆาตกรรมยกครอบครัวหลินที่มีสมาชิกถึง 10 คน หวางอำพรางคดีด้วยการหั่นศพส่วนหนึ่งทิ้งทะเล พร้อมเทคโอเวอร์ร้านแปดเซียนโดยพลการ เพื่อนำเนื้อครอบครัวหลินที่เหลือแปรรูปเป็นไส้ซาลาเปาขายให้คนกิน

ตัวคดีนั้นช็อคชาวฮ่องกงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ผู้กำกับเหยาโหดเหี้ยมยิ่งกว่า เขาเลือกหยิบคดีมาทำเป็นหนังเกรดสามที่รุนแรงระดับขีดสุดในทุกมิติ เป็นหนังสยองขวัญชวนแหวะเต็มตัว โดย แอนโธนี่ หว่อง มารับบทหวางผู้ได้รับการนำเสนอเป็นมนุษย์สุดชั่วโดยสันดาน และสิ่งที่ทำให้คนดูหนังเรื่องนี้ขยาดซาลาเปาไส้หมูเป็นการชั่วคราวก็คือนอกจากมันจะเป็นอาหารที่หากินง่ายจนเชื่อมโยงประสบการณ์ของผู้ชมโดยอัตโนมัติแล้ว หนังยังแสดงภาพความโหดร้ายของการฆาตกรรมแบบไร้ความปรานีตามประสาหนังแหวะยุค 90 ภาพที่สะเทือนใจผู้ชมเป็นอย่างมากคือฉากฆาตกรรมเด็กน้อยอย่างทารุณ และที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขั้นรุนแรงคือการแสดงให้เห็นการสังหารพร้อมกระทำชำเราหญิงสาวแบบโจ่งแจ้ง หลายคนติดตากับขั้นตอนสุดวิปริตของหวางที่คว้าตะเกียบมาหนึ่งกำมือ แทงเข้าไปในช่องคลอดของเธอสุดแรงมือ

การแสดงสุดวิปลาสของ แอนโธนี่ หว่อง สร้างชื่อให้เขาจนสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทสุดชั่วร้ายนี้ บนเวที Hong Kong Film Awards ทั้งยังทำให้เขากลายเป็นนักแสดงแถวหน้าของฮ่องกงมาได้จนถึงปัจจุบัน

นอกจากความสยองจะสั่นคลอนวงการอาหารแล้ว สารคดีก็เป็นหนังอีกตระกูลที่พร้อมจะตีแผ่ความน่ากลัวที่แอบแฝงอยู่ในวัฒนธรรมการกิน เห็นได้ชัดจาก Super Size Me หนังปี 2004 ที่ผู้กำกับ มอร์แกน สเปอร์ล็อก เอาตัวเองเป็นหนูทดลองกินแม็คโดนัลด์ทุกมื้อตลอดระยะเวลา 30 วัน และทุกครั้งที่พนักงานเสนอให้เพิ่มไซส์เป็นขนาด Super เขาก็พร้อมรับข้อเสนอนั้น เฉลี่ยแล้วเขารับไปประมาณ 5,000 กิโลแคลอรีต่อวัน (ปกติผู้ชายไม่ควรกินเกิน 2,500 กิโลแคลอรีต่อวัน) โดยเลี่ยงการออกกำลังกายทุกชนิด และบันทึกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเอาไว้ตลอดเพื่อเป็นสารคดีที่ทำเงินบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาสูงถึง 11 ล้านเหรียญฯ

ผลคือสเปอร์ล็อกน้ำหนักขึ้นมาประมาณ 11 กิโลกรัม โคเลสเตอรอลพุ่งสูงปรี๊ด มีปริมาณไขมันพอกตับมากขึ้น ควบคู่กับความแปรปรวนทางอารมณ์ และสมรรถภาพทางเพศลดลง ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาแค่เดือนเดียว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผลจากสารคดีนี้คือสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมฟาสต์ฟู้ดอย่างเหลือเชื่อ โดยก่อนหน้าวันหนังฉายไม่นาน แม็คโดนัลด์ได้โปรโมทแคมเปญชุดอาหารเพื่อสุขภาพออกมา และสนับสนุนให้ลูกค้าหันมาออกกำลังกายมากขึ้น ทั้งนี้ยังยกเลิกขนาด Super ออกจากเมนู ซึ่งไม่ใช่แค่แม็คโดนัลด์ แต่ยังรวมไปถึงแบรนด์อื่นๆ อย่าง เบอร์เกอร์คิง ก็ยกเลิกเซตเมนูขนาด King Size และหันมาระวังการสื่อสารที่อาจส่งผลอันตรายต่อผู้บริโภคด้วย 

ถึงจะไม่ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่บทวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมอาหารจำนวนมากก็คิดตรงกันว่า Super Size Me เป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้คนหันมาใส่ใจการกินกันมากขึ้น โดยเฉพาะการกินคลีนที่เริ่มเป็นกระแสโลกหลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉายทั่วโลกได้ไม่นาน

หนังที่กล่าวมาทั้งหมดไม่เพียงทำให้คนดูเข็ดขยาดการกินอาหารบางประเภทเท่านั้น แต่สิ่งที่ซ่อนเร้นคือมันแอบกระตุ้นให้ผู้ชมหันมาระแวดระวังอาหารทุกชนิดที่ลำเลียงเข้าสู่ร่างกาย พร้อมตระหนักถึงที่มาของมัน จริงอยู่ว่ามันเป็นกรณีสะเทือนขวัญของวงการหนังที่กระทบกับวงการอาหาร แต่ผู้ชมและผู้บริโภคที่อยู่ตรงกลางก็มีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไปโดยไม่รู้ตัว

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS