“มันออร์แกนิกที่จิตใจ” วิถีเกษตรเท่สไตล์ James500

7,552 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
จากยูทูปเบอร์คนดังสู่ชีวิตเกษตรกรอินทรีย์ในฟาร์มเท่ๆ กลางเมือง

ใครยังจำภาพหนุ่มลุคโหดประจำแก๊งยูทูปเบอร์ที่สร้างปรากฏการณ์ในเมืองไทยอย่าง Fedfe ได้ วันนี้คุณอาจจะแปลกใจถ้าพบว่า เจมส์-จอมพล อุ้มมีเพชร หรือที่เราเรียกเขาว่า ‘เจมส์ 500’ ผันตัวมาเป็นเกษตรกรอินทรีย์เต็มตัว เต็มเวลา เต็มหัวใจ และถ้ายังแปลกใจไม่พอ แหล่งความรู้เรื่องการทำฟาร์ม แปลงผักแบบคนเมือง การปลูกผักแบบมีดีไซน์ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกในชื่อ James500 Organic Farm Style ของเขายังตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ณ หมู่บ้านสัมมากร ที่เป็นบ้านของเขานี่เอง

มันเกิดอะไรขึ้น มีที่มาที่ไปยังไง และเราสามารถทำแปลงผักอินทรีย์ในพื้นที่เล็กๆ กลางเมืองหลวงที่จอแจสุดๆ แห่งหนึ่งของโลกได้จริงๆ หรือ!

เริ่มสนใจเรื่องพืชผักออร์แกนิกได้ยังไง

เจมส์ชอบงานดีไซน์ ชอบเฟอร์นิเจอร์เก่า รถเก่า พอเราไปงานเกี่ยวกับเรื่องดีไซน์ต่างๆ อย่างบ้านและสวน เราก็จะไปเจองานดีไซน์ด้วย เจอต้นไม้ด้วย เจมส์ไปเจอต้นกระบองเพชรแล้วรู้สึกว่าต้นบ้าอะไรวะ มันมีดีไซน์อ่ะ ต้นไม้อะไรไม่มีใบ ปกติเราเห็นต้นไม้อย่างต้นมะม่วงมันมีใบ แต่กระบองเพชรมันไม่มีใบ มันเหมือนปะการังที่อยู่บนบก ก็เลยชอบแล้วซื้อมา ก็เข้าสู่โลกของต้นไม้เพิ่มไปอีก ไปชอบเฟิร์นอีก แล้วก็บ้าหนักเข้าไปอีก ทีนี้ก็เข้าสู่วงการต้นไม้ของแท้ ไปเจอคำว่าเกษตรพอเพียง เกษตรยั่งยืน เศรษฐกิจพอเพียง มันเป็นเรื่องของต้นไม้ เราชอบต้นไม้เราก็เลยไปศึกษา

แล้วพอศึกษาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก็ชอบแนวคิดอีก เจอทฤษฎีแรกคือให้ปลูกเองกินเองลดรายจ่าย กินผักปลอดสารพิษ เราหันกลับมาดู กระบองเพชรกินไม่ได้ เฟิร์นก็กินไม่ได้ ก็เลยอยากจะปลูกอะไรที่มันกินได้ พอเริ่มก็ชอบอีกแล้ว ศึกษาจนได้ลองทำจริงจัง เลยคิดว่าเราน่าจะเปิดพื้นที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นบ้างดีกว่า เผื่อเขาจะชอบแบบเรา แต่มีพื้นที่น้อย หรืออยู่บ้านในเมืองแบบเรา จะได้ลองทำแบบเรา มีความสุขแบบเราบ้าง

 

ศึกษาจากที่ไหน

ตอนแรกก็เรียนฟรีก่อน ไหนๆ เราก็เสียค่าอินเทอร์เน็ตทุกเดือนอยู่แล้ว ก็เสิร์ชดูป่า ดูคนโน้น รายการนี้ เกษตรมันมีแบบไหนบ้าง เราก็ไปหาว่ามีแบบไหนที่น่าจะเหมาะกับตัวเรา เหมาะกับความเป็นอยู่ของเรา ดูคนโน้นคนนี้แล้วก็คิดว่ามันจริงหรือเปล่าวะ ทำไมมันดีจัง อยากรู้ อยากทดลองว่าจริงไหม ก็เริ่มไปลงคอร์สบ้าง ไปขอพี่เขาเรียนบ้าง ไปขอทำจริงบ้าง ซึ่งเราไม่รู้จักใครเลยนะ ไปขอพี่เขาว่าพี่ครับ ผมชื่อเจมส์ครับ ผมอยากทำเกษตรออร์แกนิก เห็นพี่ในรายการแล้วผมชอบแนวคิดพี่มาก ผมขอเรียนกับพี่ได้ไหมครับ

ส่วนใหญ่พี่เขาก็ใจดีกัน เขาอาจจะเรียกว่าเอามื้อ คือการเอาแรงไปแลกกับความรู้ ไปช่วยเขา ก็เลยรู้ว่าจริงๆ มันเป็นยังไง เกษตรพื้นบ้านที่เขาว่ามันชิลล์ มันพอเพียง มันมีความสุขเนี่ยมันจริงไหม เข้ากับเราได้ไหม ตอนนั้นเคยคิดว่าทำส่งออกเลยดีกว่า เท่ดี รวยด้วย แต่พอไปเรียนระบบจัดการมันเยอะมาก ต้องดูแลคนเยอะแยะ เจมส์ก็เคยเปิดบริษัทแล้วก็ดูแลคน เรารู้ว่าการดูแลคนคือการทำธุรกิจที่ยากที่สุด เอ้า จะกลับมาวงเวียนเดิมอีกแล้ว ไม่เอาดีกว่า ไปเกษตรเท่บ้าง เหมือนเราไปหาจิ๊กซอว์ทางความคิดของเรา เรากำลังจะต่อจิ๊กซอว์รูปเรา แต่เรายังต่อไม่ถูกเพราะเราเพิ่งเข้ามาวงการเกษตร ก็ไปหาจิ๊กซอว์ว่ามันมีอะไรบ้าง

เกษตรเท่คืออะไร

เกษตรเท่ในความหมายของเจมส์คนเดียวก็คือมันเท่ แต่งตัวชิคเก๋ มีความเป็นวัยรุ่นอยู่ ไปออกงาน Wonderfruit มีการจัดวางผลิตภัณฑ์ มีดีไซน์ เจมส์ก็เลยเรียกว่าเกษตรเท่ เพราะมันมีการดีไซน์ทุกอย่างเลย

แล้วก็ถึงเวลาเปิดฟาร์มที่มาพร้อมคอนเซปต์ ‘อยู่ดี กินดี ทำดี’

อย่างที่บอกแต่ต้น เจมส์ชอบงานดีไซน์ และส่วนตัวก็เป็นคนชอบกินผัก แนวคิดที่ศึกษามาบอกให้ปลูกสิ่งที่ชอบกินก่อน จะได้มีแรงในการปลูก ถ้าปลูกได้เยอะ เราก็จะได้กินด้วย ไม่ใช่ไปปลูกบอระเพ็ด ปลูกง่ายจริงแต่มันขมและเราไม่ชอบกิน เราก็จะไม่อยากปลูก แล้วที่นี่มันเป็นบ้านเราด้วย เราก็อยากอยู่ด้วยความสบายใจ เลยได้คอนเซปต์ ‘อยู่ดี กินดี ทำดี’

อยู่ดีคืออยู่ในที่ที่เราชอบ เราชอบตกแต่งแบบนี้ ดีไซน์แบบนี้ เราก็สร้างมันให้เป็นแบบนี้ มีแต่สิ่งที่เราชอบ กินดีคือเรามีผักที่ชอบกิน กินผักที่ดี ปลอดสารพิษ แล้วก็คิดว่าถ้าจะเปิดพื้นที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนที่มีพื้นที่น้อยอย่างเรา เราก็น่าจะมีของกินดีๆ ให้เขาด้วย เผื่อเขามาหาเราจากต่างจังหวัด เหนื่อย ร้อน หิวน้ำเราก็มีน้ำมีข้าวให้เขากิน จริงๆ เลี้ยงก็ได้ แต่ถ้ามาเยอะๆ ก็เลี้ยงไม่ไหว มันเป็นไปตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คิดอะไรต้องให้สมเหตุสมผล เราก็คิดว่าถ้าอย่างนั้นเราเลือกวัตถุดิบที่ดีมาแล้วกัน  เขาจะได้กินดีๆ กับราคาสมเหตุสมผล

และทำดี ก็คือการส่งต่อ inspiration ต่างๆ ถ้าเขาสนใจ มาเลย เราบอกแนวคิดให้ เจมส์อยู่ในช่วงเริ่มต้นยังจำการเริ่มได้ บางคนเขาอาจจะทำมาเป็นสิบๆ ปี ไปถามเขาช่วงเริ่มต้นเขาอาจจะเอ่อ ตอนนั้นพี่ก็ทำแบบนี้นะ ก็สู้ๆ หน่อยนะ คือมันนานจนลืมไปแล้ว แต่ถ้ามาถามเจมส์ เจมส์บอกได้เลยว่าชอบแบบนี้ศึกษาที่ไหน เริ่มยังไง guideline ให้ได้ เพราะมันยังสดๆ อยู่

คนที่เดินเข้ามาที่James500 Organic Farm Style จะเจออะไร

James500 Organic Farm Style มันจะยาวหน่อยนะครับ James ก็ชื่อเจมส์ คนจะได้รู้จัก จะได้มาหาเร็วหน่อย ถ้าใช้ organic farm style อย่างเดียว มันอาจจะไม่มีใครมาเลย 2 เดือนแล้วก็ยังนิ่งเงียบอยู่ ก็เอาตัวเราที่พอมีคนรู้จักนี่แหละเป็นคนดึงเข้ามา Organic ก็คือมีของอินทรีย์ ของปลอดภัย ทั้งที่ปลูกที่นี่ ให้กินที่นี่ และเอากลับบ้าน Farm ก็คือฟาร์ม ชอบคำว่าฟาร์ม Style ก็คือเราไม่มี Stay แต่มี Style ให้คุณกลับไป คุณอาจจะคิดว่าไม่ชอบปลูกผักในดิน บ้านก็ไม่มีดิน มีแต่ปูน แต่คุณปลูกในกระสอบรีไซเคิลแบบที่เห็นก็ได้ ยกขึ้นมาแบบนี้ก็เก๋ดี หรือปลูกในอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มันเก่าแล้วก็เก๋ไปอีกแบบ ให้เขามี inspiration กลับไป

แล้วก็เจอของกินที่ดีทั้งที่เราปลูกเองและเอามาจากพี่ๆ ที่เรารู้จัก มันก็คือการช่วยเกษตรกร หรือเขาอาจจะบอกว่าเป็นการสร้างเครือข่าย การช่วยกันเป็นองค์รวมเจมส์ก็ทำอยู่ เครือข่ายจากพี่ๆ ที่ไปเรียนด้วย เขาอยู่นครสวรรค์ ปลูกข้าวอร่อยมาก เขาเอามาให้กิน ผมก็เฮ้ยอร่อยพี่ พี่ขายมั้ย เขาบอกขายใครวะ แถวบ้านพี่ขายกันเต็มเลย อ่ะ ถ้างั้นพี่เอามาเลย เดี๋ยวผมช่วยขายคนก็จะได้กินของดีๆ และเราก็ได้ช่วยเกษตรกรก็คือเครือข่ายเรานี่แหละ อย่างไข่ไก่ก็เป็นของสุพรรณฯ ที่รู้จักกัน

สุดท้ายคือได้ความรู้ มาถาม พูดคุยกันได้ ปรึกษาแนะนำบางอย่างได้ อย่างมีน้องคนหนึ่งประมาณว่าผมเป็นตากล้องมานานแล้วพี่ ผมอยากทำเกษตร แต่ไม่รู้จะทำแบบไหน ผมมาฟาร์มพี่ผมไม่คิดเลยว่าเกษตรมันมีแบบนี้ ผมอยากทำแบบนี้ แต่ผมบอกอย่าทำแบบพี่ ทำแบบตัวเองดีกว่า เป็นตากล้องใช่ไหม เอ็งเจ๋งกว่าพี่อีก ลองไปทำเกษตรแบบถ่ายรูปมุมไหนก็สวยดิ ลองเป็นแบบตัวน้องดีกว่า แล้วมันจะสนุกกว่า อยากทำมากกว่า

ชีวิตแต่ละวันทำอะไรบ้าง

ถ้าเอาแบบตลกๆ ก็คือตื่นประมาณ 7 โมง ทำกับข้าวให้แฟนกินเสร็จเราก็กินเองด้วย ช่วง 9-10 โมงก็จะลงคอนเทนต์อะไรสักอย่างในเพจ เพราะด้วยอัลกอริทึ่มหลังบ้าน คนจะดูช่วงนั้นเสียส่วนใหญ่ เที่ยงถึงสี่โมงไปอยู่ที่ฟาร์มและหาความรู้ให้ตัวเอง ทั้งการต่อยอด ทั้งการบริหารจัดการที่นี่ และสิ่งที่เราอยากจะทำในอนาคต ระหว่างนี้ก็จะมีคนมาปรึกษาเราบ้างหรือต้องไปทักทายเขาบ้าง ช่วง 4-6 โมงเป็นช่วงทำฟาร์มเพราะว่าการเก็บผักหรือปลูกผักเราควรจะทำช่วงเย็นอยู่แล้ว มันช่วยพักฟื้นพวกพืชผักและตัวเราก็จะได้ไม่ร้อนมาก โดยเฉพาะกับแดดกรุงเทพฯ ไม่เย็นไม่ไหว ทุ่มถึงสองทุ่มก็ปิดร้าน กินข้าว สามทุ่มถึงห้าทุ่มหาข้อมูลต่อ เพราะเป็นช่วงเปิดใหม่ เรายังไม่เสถียร ยังมีอีกหลายอย่างต้องทำเยอะมาก ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนเป็นเวลาพักผ่อน ดูหนังฟังเพลง แล้วก็นอนตอนประมาณเที่ยงคืน-ตีหนึ่ง

ไปเอาบรรดาพืชผักต่างๆ มาจากไหน

ส่วนใหญ่เอามาจากที่ไปเรียนกับพี่เขา เรามั่นใจอยู่แล้ว เพราะเห็นว่าเขาทำอะไรบ้าง ปลอดภัยไหม เหมาะไหม แล้วก็เลือกผักที่เหมาะกับตัวเรา เราชอบกิน เหมาะกับวิถีชีวิตเรา เราอาจจะไม่ได้มีเวลามาก ไม่ได้ขยัน หรือไม่เก่งในเรื่องของแมลง การวัด PH ดิน เลยเลือกผักที่ปลูกทีเดียวแล้วกินได้ตลอดชาติ เช่น วอเตอร์เครสฮาวาย เป็นผักสลัดและกินกับน้ำพริกได้ เราเด็ดยอดไปกิน แล้วเอาก้านที่เหลือมาปักก็ขึ้นต่อ แล้วส่วนที่หักไปก็จะแตกยอดใหม่อย่างชะอม เราเอาไปชุบไข่ทอดกินกับน้ำพริก ตัดแค่ใบกับยอดมันก็แตกขึ้นมาใหม่ หรือย่างตัวเจมส์ชอบกินคะน้าหมูกรอบ แต่ถ้าปลูกคะน้า มันปลูกเป็นหัว ตัดไปแล้วก็ต้องมาปลูกใหม่ ปลูกหลายรอบ เลยคิดว่าอะไรที่จะรสชาติเหมือนคะน้า เขาก็บอกว่า ชายาหรือคะน้าเม็กซิกัน เป็นต้นไม้ที่เด็ดยอดเหมือนกันแต่รสชาติเหมือนคะน้า เราก็ปลูกต้นนี้ใช้แทนคะน้า

ชาสิงห์เหนือเสือใต้ การผสมผสานระหว่างชาหอมๆ ของภาคเหนือ กับชาเข้มๆ แบบชาชักของภาคใต้ เป็น signature ประจำฟาร์ม

พูดถึงคำว่าออร์แกนิก ก็จะมีทั้งฝ่ายที่ให้ความสำคัญกับตรารับรอง กับฝั่งเกษตรกรรายย่อยที่อาจจะไม่มีตราแต่ปลูกแบบออร์แกนิก คิดยังไงกับเรื่องนี้

ถ้าเราปลูกเองกินเองได้ อันนี้แหละโคตรออร์แกนิก อย่างเจมส์ปลูกเองกินเอง ถึงจะไม่ได้อร่อยมากแบบที่เคยกินมา แต่ได้เรื่องจิตใจ ลดรายจ่ายด้วย มั่นใจด้วยว่าปลอดภัยไร้สารพิษ เพราะเราไม่เคยใส่อะไรลงไปเลย นี่คือโคตรออร์แกนิกแล้ว แต่ถ้าเราไม่มีเวลา เราไม่ชอบปลูกผัก ก็อยากให้คำว่าออร์แกนิกไม่ได้ยึดติดที่ตรา แต่ยึดกับการที่เรารู้ว่าเรากินผักของใครอยู่ ถ้าเห็นค่าหน้าตาเกษตรกรของเราได้ เจมส์ว่ามันน่ารักดี เป็นออร์แกนิกแบบไทยๆ อยากให้เป็นแบบนี้มากกว่าได้ตรารับรองจากญี่ปุ่น จากอเมริกา บางครั้งเรื่องออร์แกนิกทางจิตใจมันไม่ค่อยมี

เป็นเรื่องของการเชื่อใจผู้ผลิต…

มันคือการเชื่อใจ เพราะเราไปเห็น ไปรู้จักเขา เหมือนเรามองตาก็รู้ใจ ถ้าเราวัดมาตรฐานด้วยตราอะไรไม่ได้ เราจะรู้จากการได้ทำความรู้จัก ได้พูดคุยกับเขา บางครั้งถึงใส่อะไรแปลกๆ มาให้กิน แต่เราเชื่อใจว่าไอ้แปลกๆ นี้ ยังไงก็ปลอดภัย เพราะเขายังกินเองเลย เจมส์เคยไปเรียนรู้เรื่องอินทรีย์กับเกษตรกรคนหนึ่งไปเห็นแปลงเคมีข้างๆ แล้วก็เห็นว่าเขาล้อมแปลงไว้นิดหนึ่งซึ่งแปลงนี้ เขาไม่ฉีดยาเอาไว้กินเองในครอบครัว แต่แปลงที่ฉีดเอาไว้ขาย เราก็ อ้าว มีอย่างนี้ด้วยเหรอ เขายังไม่กล้ากินแปลงฉีดยาของเขาเองเลย ถ้าเราไปเจอคนจริงๆ เราจะสัมผัสได้ว่ามีอะไรแปลกๆ นะ มันดีจริงไหม เชื่อได้ไหม ถ้าเขากินเองได้แปลว่าเราก็กินได้ เจมส์ว่ามันเจ๋งกว่าตราสัญลักษณ์อีกครับ

ชาสิงห์เหนือเสือใต้ การผสมผสานระหว่างชาหอมๆ ของภาคเหนือ กับชาเข้มๆ แบบชาชักของภาคใต้
สลัดผักออร์แกนิก 5 ชนิดเจมส์เลือกเฟ้นผักมาเอง กินคู่กับน้ำสลัดออร์แกนิก

เรื่องรสชาติล่ะ อย่างเมื่อกี้เราก็บอกเองว่าปลูกเองไม่อร่อยเหมือนที่เคยกิน

เสน่ห์ของผักออร์แกนิกจริงๆ เจมส์ว่ามันอยู่ที่ความแตกต่างของรสชาติ เราชอบผักแปลงนี้เพราะรสชาติแบบนี้ ซึ่งการปลูกผักแต่ละแปลงไม่ว่าจะออร์แกนิกหรือไม่ ผักจะรสชาติแตกต่างกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ใส่ลงไปในดิน พูดง่ายๆ คือ เรากินอะไรเข้าไป รสชาติมันก็จะเป็นแบบนั้น เราเติมน้ำตาลเยอะมันก็จะหวาน ผักก็เหมือนกัน ถ้าแปลงนั้น ภูมิภาคนั้น ดินแตกต่างกัน ใส่ธาตุอาหารแตกต่างกัน รสชาติก็จะแตกต่างกัน อันนี้คือเสน่ห์นะ สมมุติว่าเราอยากกินคะน้า ถ้าอยากได้ความกรอบอย่างเดียว ลองไปที่จังหวัดนี้ เขาบอกว่าคะน้ากรอบมาก แต่จะไม่ค่อยหวานเท่าไร ถ้าอยากกินหวานๆ ต้องไปที่จังหวัดนั้น ลองกินหลายๆเจ้า หลายๆ เกษตรกรดู

ทำไมผักออร์แกนิกต้องแพง หลายคนถอดใจเพราะถ้ากินผักออร์แกนิกต้องจ่ายแพงขึ้น

จริงๆ ผักออร์แกนิกปลูกง่าย ใช้ทรัพยากรในการปลูกน้อย แต่มันมีจำนวนจำกัดเพราะเกษตรกรไม่ค่อยได้ปลูก เจมส์ว่าผักออร์แกนิกไม่แพงหรอกครับ แต่ค่าขนส่ง ค่าแพ็กให้อยู่ได้นาน หรือด้วยผักออร์แกนิกมันมีน้อย พอเข้าเชลฟ์มันก็เลยเป็นค่าการตลาดอะไรบางอย่างของ…เรียกว่าพ่อค้าคนกลางแล้วกัน ถ้าจะให้แนะนำคืออย่างที่บอกไปว่าอุดมคติของเรา คำว่าออร์แกนิกคือเราเห็นหน้าค่าตาของเกษตรกรที่เราอยากให้เขาปลูกให้เรากิน ถ้าทำเครือข่ายกับเกษตรกรพวกนี้ได้ เจมส์ว่าเราจะได้ของถูก เพราะตัดพ่อค้าคนกลางไป ตัดค่าต่างๆ นานาที่จะเพิ่มราคาออกไป เราจะได้ผักราคาถูก อร่อย ดี ได้ช่วยชาวบ้านช่วยเกษตรกรด้วย

จากคนทำงานออฟฟิศมาใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรออร์แกนิกได้เรียนรู้อะไรบ้าง

จากแค่เบื่อระบบทุนนิยม เบื่อการไปทำงานจันทร์ถึงศุกร์ แล้วเสาร์อาทิตย์พักผ่อน ชีวิตวันๆ ต้องวิ่งตามลูกค้า ขายไอเดีย เลยคิดว่าทำเกษตรดีกว่า มันจะได้เป็นอีกฝั่งหนึ่งไปเจอปรัชญาเขาบอกว่าให้มีความสุขก่อนแล้วค่อยไปหาตังค์ ก็เลยลองศึกษาและลองทำ แต่พอศึกษาจริงๆ มันได้ลึกกว่านั้นมากครับ มันคือเรื่องของการมีเหตุมีผล การรู้จักตัวเอง ไม่ได้อยู่ที่ปรัชญาหรือแนวความคิด ไม่ได้อยู่ที่ทุนนิยมหรือเศรษฐกิจพอเพียง แต่อยู่ที่ตัวเราเองว่าเราต้องการเยอะหรือน้อย เรามีความสุขที่ตรงไหน หิวน้ำเยอะเราก็กินน้ำเยอะ หิวน้ำน้อยก็กินน้ำน้อย มีน้ำมากก็แบ่งคนอื่น สุดท้ายมันไม่ใช่แค่เรื่องของการเบื่องานเดิมแล้วเปลี่ยนงานใหม่ แต่มันปรับเปลี่ยนชีวิตและความคิดของเราไปเลย

James500 Organic Farm Style

พิกัด: 159 หมู่บ้านสัมมากร 1 ซอย C4 สะพานสูง กรุงเทพฯ

เปิด-ปิด: 09:00 – 20:00 น. (ปิดวันอังคาร)

โทร: 064 595 4494

FB: James500 Organic Farm Style

 

 

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS