KHOM Chocolate House พื้นที่รสหวานขมของเชียงใหม่

4,891 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
เปิดบ้านช็อกโกแลตหลังเล็กที่อยากชวนคนเชียงใหม่มารู้จักช็อกโกแลตให้ลึกกว่าที่เคย

แม้จะเป็นคาเฟ่ขนาดกระทัดรัดแบบไม่กี่ที่นั่ง แต่ทันทีที่เราเปิดประตูเข้าไปสู่อาณาเขตแห่งบ้านช็อกโกแลตอย่าง KHOM Chocolate House กลิ่นหอมอบอวลของช็อกโกแลตก็โอบกอดเราไว้ทั่ว ในร้านเล็กๆ นี้ไม่ได้มีแต่เพียงกลิ่นหวานหอมของช็อกโกแลตเท่านั้นที่อัดแน่นอยู่ แต่มันยังเต็มไปด้วยความหลงใหลในช็อกโกแลตที่อวดโฉมอยู่เต็มร้านอย่างที่มองปราดเดียวก็รับรู้ได้ถึงความตั้งใจทั้งหมด

เมื่อได้ใช้เวลาอยู่ในร้านมากขึ้น เรายังได้เห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของร้านซึ่งฟ้องว่า KHOM Chocolate House ไม่ใช่แค่ความหลงใหล แต่นี่คือความหลงรักหัวปักหัวปำเลยทีเดียว

เริ่มจากเปิดเมนูมาหน้าแรกเราก็เห็นแผนผังที่อธิบายเรื่องความแตกต่างระหว่างโกโก้กับช็อกโกแลต ที่เจ้าของร้านอย่าง เจน-พิมพ์ชนก ดวงศรี ตั้งใจวางไว้หน้าแรกเพื่อให้นักชิมช็อกโกแลตหน้าใหม่ได้เข้าใจความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้ ก่อนจะตัดสินใจเลือกสั่งเมนูเครื่องดื่มใดๆ ไปตามความเคยชิน

ที่ต้องพูดถึงความเคยชินมาเป็นอันดับแรก นั่นก็เพราะว่า กระทั่งในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ เอง บาร์ช็อกโกแลตที่จริงจังกับ ‘ช็อกโกแลต’ เพียงอย่างเดียวยังมีน้อยแบบนับนิ้วได้ จึงควรเลิกคาดหวังว่าในหัวเมืองอย่างจังหวัดเชียงใหม่ จะมีผู้บริโภคที่เข้าใจช็อกโกแลตเป็นจำนวนมากพอ ที่จะทำให้ช็อกโกแลตบาร์คึกคักขึ้นมาได้ในเร็ววัน แม้จะออกตัวเชียร์มากแค่ไหนก็ต้องยอมรับว่าช็อกโกแลตยังไม่ได้เป็นเครื่องดื่มที่นิยมกันในวงกว้างอย่างกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้คนรักช็อกโกแลตอย่างเจนถอดใจจากการมีร้านเป็นของตัวเอง

เธอหัวเราะแหะเมื่อเราถามว่ายังเป็นเรื่องยากใช่ไหม กับการมีคาเฟ่ช็อกโกแลตในเชียงใหม่ แต่เมื่อเอาความชอบเป็นที่ตั้ง การจะมีช็อกโกแลตบาร์เล็กๆ สักร้านเกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่เกินกว่าความพยายาม ที่ KHOM Chocolate House จึงมีเมนูสำหรับทำความรู้จักกับช็อกโกแลต เพื่อมือใหม่หัดดื่มโดยเฉพาะ อย่าง 3 Shots (90 บาท) ช็อกโกแลตแก้วเล็กๆ แบบแก้วช็อต 3 แก้ว 3 สีที่จะชวนคนชิมไปบางอ้อ ว่าความแตกต่างของช็อกโกแลตแต่ละแบบเป็นอย่างไร ผ่านรสขมหวานแบบ Nutty ของช็อกโกแลตเบลเยี่ยม ที่มีทั้ง Dark Chocolate 80% ช็อกโกแลตร้อนเปอร์เซ็นต์สูงที่ให้รสเข้มข้น ให้รสสัมผัสแบบหนักแน่นและทิ้งรสช็อกโกแลตอบอวบไว้ในปาก มี Milk Chocolate 60%  รสกลมกล่อม ดื่มง่ายขึ้นด้วยกลิ่นรสของนมที่เข้ามาเจือจางความข้น และมี White Chocolate 29.5% รสบาง เน้นความหอมมันของ Cocoa butter ที่เมื่อลองจิบทีละแก้วก็จะรบรสความแตกต่างของช็อกโกแลแต่ละแบบได้ไม่ยากนัก ถือว่าเป็น Intro to Chocolate ที่ทั้งสนุกและทั้งอร่อยในเซ็ตเดียว

สำหรับใครที่ติดใจรสชาติของ Dark Chocolate เราขอแนะนำให้ดำดิ่งลงไปในรสเข้มข้นของช็อกโกแลตเบลเยี่ยมต่อ ด้วยเมนู  Double dark chocolate (95 บาท) โกโก้เข้มข้นสูตรเฉพาะของร้าน รวมกับความเข้มข้นแบบ 75% จาก Dark Chocolate ice cube ที่ยิ่งละลายก็ยิ่งทำให้แก้วนี้เข้มข้นขึ้นไปอีก โรยหน้าด้วยเกล็ดช็อกโกแลตอีกที เป็นความดุดันหนักแน่นเต็มปากเต็มคำที่ทำเอาเราฝันถึงมาจนถึงตอนนี้เลยทีเดียว

“มีคนไม่เข้าใจอยู่บ้างเหมือนกัน” เจน เจ้าบ้านแห่ง Chocolate House แห่งนี้เล่าให้เราฟัง ซึ่งก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิดคาด “เราเลือกมาอยู่ตรงนี้ก็เพราะเราอยากหลบย่านการค้า ย่านท่องเที่ยวจัดๆ อยากได้ลูกค้าที่เป็นคนเชียงใหม่มาเป็นลูกค้าประจำเรามากกว่า การเริ่มทำร้านที่นี่ก็มีเรื่องยากอยู่เหมือนกัน เช่นเรื่องราคาที่เราต้องดึงไว้ ไม่สามารถปล่อยให้แพงเท่าร้านในกรุงเทพฯ ได้ และต้องเข้าใจว่าช็อกโกแลตยังเป็นเรื่องใหม่ที่คนต้องใช้เวลาทำความรู้จักกันอีกสักพักหนึ่ง”

นอกจากการพยายามสื่อสารรสหวานขมของช็อกโกแลตผ่านเมนูพื้นฐานอย่างช็อกโกแลตร้อน ช็อกโกแลตเย็นธรรมดาๆ แล้ว ที่ KHOM Chocolate House ยังมีเมนูช็อกโกแลตที่คุ้นปากชาวต่างชาติอย่าง Hote Spice Maxicana ช็อกโกแลตร้อนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเครื่องเทศ Creamy Coconut ช็อกโกแลตเย็นเจือกลิ่นรสจากมะพร้าวซึ่งเป็นเมนูขวัญใจนักท่องเที่ยวจีน เมนูช็อกโกแลตเย็นเพิ่มรสชาติและสีสันอื่นๆ อย่าง มินต์ เบอร์รี และส้ม ซึ่งเป็นขวัญใจคอคาเฟ่ชาวไทย นอกจากนี้ยังมีเมนูที่เสิร์ฟรสเปรี้ยวละมุนของช็อกโกแลต เพื่อบอกเล่าความ Fruity ที่หลายคนไม่เคยรู้ว่ามีเฉดนี้อยู่ในเครื่องดื่มช็อกโกแลตด้วยเหมือนกัน อย่างเช่น Origin with S (120 บาท) Dark chocolate 80% จากฝรั่งเศส ให้รสเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟแบบเย็น ผสมกับไซรัปผลไม้กลิ่นหวานหอม ขอบแก้วมีใบชิโสะแห้งรสเค็มปะแล่ม ให้ความสดชื่น หนักแน่น และนุ่มนวลในแก้วเดียวกัน เป็นอีกรสชาติของช็อกโกแลตที่ไม่ว่าใครได้ชิมก็จะต้องประหลาดใจในความแปลกใหม่นี้อย่างแน่นอน

ส่วนใครที่ยังตัดใจจากรสของกาแฟไม่ได้ ต้องลองเมนู Reversed mochachino (120 บาท) ช็อกโกแลตร้อนที่ผสมกาแฟ จึงได้ชื่อว่าเป็นมอคคาชิโนเวอร์ชั่นที่มีรสของช็อกโกแลตเป็นพระเอก โดยใช้ Dark Chocolate จากฝรั่งเศสในความเข้มข้น 80% ที่มีรสเปรี้ยวแบบเบอร์รี ผสมกับกาแฟที่ให้ความเปรี้ยวแบบเบอร์รีในเฉดที่แตกต่างกัน เวลายกขึ้นจิบก็จะได้กลิ่นพีชหอมๆ ต้อนรับก่อนเป็นกลิ่นแรก มีกลิ่นช็อกโกแลตและกลิ่นจาแฟจางๆ เป็นกลิ่นที่สอง ก่อนจะเป็นรสเปรี้ยว – ขม – หวานมันของช็อกโกแลตในลำดับสุดท้าย

นอกจากเมนูนั่งจิบกันเพลินๆ และเมนูเค้กรสชาติดีให้ได้กินคู่กับเครื่องดื่มในร้านแล้ว ยังมีเมนูที่สามารถหยิบติดไม้ติดมือไปฝากคนที่ชวนให้นึกถึงกลิ่นหอมหวานของช็อกโกแลตเช่นนี้ได้อีกด้วย อย่งเช่น Bon bons chocolate สารพัดรสชาติที่เจ้าของร้านแนะเคล็ดลับมาว่าต้องกินภายในคำเดียว จึงจะค่อยๆ ได้ลิ้มรสชาติ กลิ่น และความรู้สึกตามลำดับแบบที่ถูกออกแบบไว้แล้ว พร้อมมีกล่องสวยๆ ไว้มอบเป็นของขวัญได้แบบทั้งอร่อยและหน้าตาดี

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ช็อกโแลตต่างๆ รวมถึงขนมนมเนยที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ได้ลองชิมในราคาย่อมเยา แม้ว่าจะเป็นร้านไซส์กระจิ๋วหลิว แต่เมื่ออัดแน่นไปด้วยความหลงใหลในช็อกโกแลตอยู่ทุกอณู พื้นที่ขนาดไม่กี่ตารางเมตรนี้กลับเป็นโลกช็อกโกแลตใบใหญ่ที่ชวนให้ต้องแวะเวียนไปหากันได้บ่อยๆ แบบไม่มีเบื่อ

จนเราเชื่อว่า ถ้าความรักมีกลิ่นจริงๆ กลิ่นของมันก็คงเหมือนกับกลิ่นช็อกโกแลตที่อบอวลอยู่ในร้าน KHOM Chocolate house นี่แหละ

KHOM Chocolate House
พิกัด: ถนนสิงหราช ซอย 3 ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (ซอยสยามทีวีเก่า)
เวลาเปิด-ปิด: 10:30 – 18:00 (หยุดวันอังคารและพุธ)
โทร: 086 924 4131

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS