rrสำหรับเราที่ไม่ค่อยได้หุงข้าวบ่อยๆ หม้อหุงข้าวไฟฟ้าทันสมัยมากมายฟังก์ชั่นก็ได้แต่ตั้งนิ่งไว้ ไม่สปาร์กจอยเอาซะเลย อุปสรรคใหญ่ในการจัดบ้านให้เป็นระเบียบคือความเสียดาย บอก กับตัวเองค่ะ อย่าไปเสียดาย เราไม่ได้ใช้ พอดีกับนึกขึ้นได้ว่าควรจะอนุญาตให้หม้อหุงข้าวเก่าแก่ซึ่งหุงข้าวอย่างไม่ย่อท้อมานานมากกว่า 30 ปีใบนั้นของแม่ได้เกษียณอายุการใช้งานก่อนกำหนด แม้ว่ามันจะยังหุงข้าวได้ดีอยู่ก็ตาม เป็นอันว่าตกลงใจเคลื่อนย้ายหม้อหุงข้าวสีขาวสภาพนางฟ้าไปไว้ที่บ้านของแม่ซึ่งหุงข้าวบ่อยกว่าเรามาก ก่อนเคลื่อนย้ายก็เลยบอกขอบคุณหม้อหุงข้าวไป (หม้อหุงข้าวตอบกลับมาว่าไม่ค่อยได้หุงอะไรเลยไม่ต้องซาบซึ้งมากหรอก) เอาละ! สบายใจที่หม้อหุงข้าวได้ไปอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ ส่วนเราก็จะได้มีพื้นที่ในชีวิตเพิ่มขึ้นอีกนิด สำหรับอะไรใหม่ๆ ที่จะเข้ามา นี่สินะความผ่อนคลายชีวิตดีขึ้นทุกด้านด้วยการย้ายหม้อหุงข้าว ครั้งเดียว…
ปรากฏว่าสิ่งใหม่ที่เข้ามาในชีวิตดันเป็น Covid-19
WTF! เอ๊ย! WFH!
ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังจากไวรัสมาเยือน คือทำให้เราต้องมีข้าวของเพิ่มทั้งเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัย (เพิ่งผ่อนคลายไปได้ไม่ถึงสองบรรทัดก็พะรุงพะรังแล้ว) นี่ก็คิดนะว่าเรื่องจะจบแค่ชีวิตติดเจล ถึงจะขอแค่นั้นแล้วไวรัสก็ยังไม่เห็นใจ ในที่สุด Covid-19 ก็ไล่ต้อนมนุษย์ชาติเข้าบ้านผลักดันให้หันหน้าเข้าครัวหุงหาอาหาร ไถหน้าจอไปเจอแต่รายการใครๆ ก็เข้าครัว เหมือนทุกคนกำลังเตรียมตัวไปชิงผ้ากันเปื้อน
ส่วนตัวเรานั้นโดยอาศัยไมโครเวฟรุ่นเบสิกอุ่นร้อนช้อนกลาง ชีวิตกินข้าว (จาก) ข้างนอกบ้านก็เป็นไปด้วยดีเรื่อยมา แกะใส่จานวนไป จนวันหนึ่งจุดพลิกผันก็มาถึง เพราะสั่งกับข้าวแถมเซอร์ไพรซ์ คือ ทางร้านลืมใส่ข้าวมาให้ เอ๊า!! ไม่มีข้าว! จะกินไก่ผัดขิงแบบไร้ข้าวก็ห้าวไป ต้องคว้าเจลใส่หน้ากากเดินไปซื้อข้าวสวย คิดว่าซื้อข้าวเยอะหน่อยเอาไปเก็บไว้จะได้ไม่ต้องออกมาบ่อย ช่วยหยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่คุณผู้ชมคะ ตู้เย็นเป็นดินแดนประหลาด บางทีคุณจะพบว่าใส่อะไรไว้ก็มักจะลืมกินได้เสมอ ข้าวหมดอายุไม่ต้องยกขึ้นมาสปาร์กจงสปาร์กจอยทิ้งโดยไม่ต้องฮาวทู
รำพึงเบาๆ…
เรา: “หุงข้าวในไมโครเวฟได้มั้ยวะ?”
Siri :“Hereʼs what I found…”
ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้อ่านบทความและดูวิดีโอวิธีหุงข้าวในไมโครเวฟก็คือ มันต้องแข็งแน่เลย มันไม่น่าจะกินได้ ข้าวต้องหุงในหม้อสิ เมื่อคนสาธิตวิธีหุงข้าวในไมโครเวฟบอกว่ามันนุ่มมาก perfect steam rice เราก็คิดในใจว่า “มาม่าอ่ะเข้าใจ แต่นี่มันข้าวนะ ไมโครเวฟมันไม่น่าจะ ใช่ทางของข้าว” หลังจากไถจอดูวิธีการหุงข้าวไมโครเวฟไปหลายอันก็ประมวลผลประกอบสูตรที่คิดว่าเข้าท่าหลายๆ สูตรเข้าด้วยกัน วันรุ่งขึ้นก็ไปซื้อข้าวสารและก็ได้พบว่า
“นี่ชั้นไปอยู่ไหนมาตั้งนาน!!”
ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ตั้งท่าทำใจไว้ล่วงหน้าเลยว่าหุงครั้งนี้ไม่รอดแน่คงต้องฝึกทำหลายๆ ครั้ง อะไรมันจะไปได้ดีในครั้งแรก ปรากฎว่าข้าวดันออกมาสุกฟูนุ่มน่ากินเฉย! เอ๊า! อย่างนี้ก็ได้เหรอ? ง่ายๆ งี้เลย มันต้องยากกว่านี้อีกนิดไหมแก ฝ่าความพยายามมากมาย ปรับข้าวปรับน้ำปรับกำลังไฟไปจนกว่าจะลงตัว (ไมโครเวฟมองหน้าและบอกว่าจะดราม่าทำไมคะซิส! ตอบกลับไปจอยๆ ว่า เออก็ได้!) ชิมเองเสร็จแล้วว่าดีเอาใส่ช้อนไปให้อีกคนช่วยชิมก็บอกว่าผ่าน! ดีใจเหมือนเป็นผู้ กำกับมือใหม่แล้วได้รางวัลออสการ์
คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม? หุงข้าวทีไรกลัวทุกทีว่าข้าวจะออกมากินได้หรือเปล่า ถ้าใช่ บางทีอาจเพราะหม้อหุงข้าวมันไม่ใช่ทางของคุณ มาลองหุงข้าวในไมโครเวฟดู
‘ข้าวไมโครเวฟสูตร 5-5-5’ แค่ชื่อสูตรก็สปาร์กจอยแล้วใช่ไหม?
5-5-5 คือ แช่ 5 นาที/หุงรอบแรก 5 นาที/หุงต่ออีก 5 นาที
เข้าใจ:
ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกด้วยน้ำและความร้อน น้ำซึมเข้าไปในเมล็ดข้าวและได้รับความร้อนทำให้แป้งในข้าวอ่อนตัวลง
ข้าวของ:
– ไมโครเวฟ
– ข้าวสาร
– น้ำสะอาด
– ถ้วยตวง
– ภาชนะใส่ข้าว
– ฝาครอบสำหรับไมโครเวฟ
– จานรอง
– ช้อนคนข้าว
– ผ้าหรือถุงมือกันร้อน
– นาฬิกาจับเวลา
*ภาชนะทั้งหมดต้องทนไฟเข้าไมโครเวฟได้ / อย่าลืมว่าข้าวสุกจะขยายขนาดขึ้นจากตอนเป็นข้าวสารอย่างน้อยเท่าตัว ภาชนะใส่ข้าวควรจะใหญ่พอที่จะให้ข้าวสุกฟูขึ้นมา / จานรองขนาดควรจะใหญ่กว่าฝาครอบ / ในสูตรนี้ใช้ข้าวหอมมะลิใหม่ และไมโครเวฟที่ใช้เป็นแบบ 800 watt ถ้าใช้ของต่างไปจากนี้ก็อาจจะได้ผลต่างกัน
ข้าวคร่าว:
ข้าวไมโครเวฟในสูตรนี้หุงปริมาณข้าวสาร 1 cup (ข้าวสาร1/2cup จะได้ข้าวสวยประมาณกิน 1 เสริฟ์)
ซาวข้าว:
ล้างมือให้สะอาด รินน้ำสะอาดลงในข้าว ใช้มือขยำขัดข้าวเบาๆ เพื่อให้ล้างชั้นของแป้งบางๆ บนผิวเมล็ดข้าวออก ขั้นตอนนี้จะทำให้ข้าวออกมาเป็นเมล็ดเรียงตัวสวยไม่รวมตัวติดกันเป็นก้อนๆ รินน้ำซาวข้าวออกให้หมด
แช่ข้าว 5 นาที:
ในสูตรนี้ใช้ ข้าว (1): น้ำ (1.5) นำข้าวสารที่ซาวแล้วใส่ชาม ตวงน้ำใส่และแช่ทิ้งไว้ กดนาฬิกาจับเวลาประมาณ 5 นาที
*สามารถดูคำแนะนำเรื่องสัดส่วนข้าวและน้ำจากผู้ผลิตข้าวบนบรรจุภัณฑ์ได้ / การแช่ข้าว ทำให้น้ำมีเวลาซึมเข้าในเมล็ดข้าวก่อนได้รับความร้อน ในข้าวมีสารชื่อว่า Acetylpyrroline ซึ่งทำให้ข้าวสุกมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ยิ่งใช้เวลาหุงมากได้รับความร้อนมาก สารที่ว่านี้จะยิ่งลดลง การแช่ข้าวสามารถช่วยย่นระยะเวลาหุงและรักษากลิ่นหอมของข้าวไว้ได้
หุงข้าว:
(1) เวฟครั้งแรก 5 นาที: นำข้าวที่แช่ครบเวลาแล้ววางบนจานรองปิดด้วยฝาครอบ ไมโครเวฟ 800 watt/ ไฟแรงสุด/ เป็นเวลา5นาที
*ระหว่างหุงเวฟ หากเกิดฟองฟอดไม่ต้องตกใจ คุณไม่ได้ล้างชามไม่สะอาด มันคือน้ำข้าวที่เดือดเป็นฟอง นี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องมีจานรองที่กว้างกว่าฝาครอบ เพื่อให้น้ำข้าวล้นออกมา ในจานรองได้พอดีจะได้ไม่เลอะเทอะ
(2) คนข้าว: นำข้าวออกมาคนพลิกกลับข้าวด้านบนลงไปล่าง ข้าวตรงขอบชามพลิกกลับไปไว้ตรงกลางสลับที่กันเพื่อให้ได้รับความร้อนสม่ำเสมอ ไมโครเวฟทำความร้อนโดยการส่งคลื่นตรงกลางภาชนะ คลื่นมักไปไม่ถึง การคนข้าวจะช่วยให้สุกทั่วถึงกัน // อ่อ คนเบาๆ พอนะเดี๋ยวข้าวจะหักเละหมด
*เปิดฝาครอบอย่างระมัดระวัง เพราะไอน้ำสะสมในฝาครอบร้อนมากๆ รวมทั้งผนังตู้ไมโครเวฟ และฝาตู้ด้วย ระวังน้ำข้าวร้อนจี๋ในจานรองหกใส่ และใช้ผ้าจับกันร้อนเพื่อความปลอดภัยด้วยนะ
(3) เวฟครั้งที่สอง 5 นาที: นำข้าวที่คนคลุกทั่วดีแล้ววางบนจานรองปิดด้วยฝาครอบ ไมโครเวฟ 800 watt / ไฟแรงสุด/ เป็นเวลาอีก5นาที
5-5-5 เสร็จแล้ว!! ข้าวสุกพร้อมรับประทาน
กินข้าว:
ข้าวที่เพิ่งเสร็จใหม่ๆ จะมีไอน้ำมาก ถ้ากินเลยจะรู้สึกว่าแฉะหน่อย ถ้าชอบหรือหิวจัดก็กินเลย แต่ถ้าอยากให้แห้งลงนิด ให้พักข้าวที่เพิ่งหุงไว้สักครู่
ข้าวที่ทำเสร็จสามารถแปลงร่างเป็นข้าวต้มได้ด้วย โดยการเติมน้ำ 1.5 เท่าของข้าว แล้วเวฟต่ออีก 5 นาที ก็จะได้ข้าวต้มเวฟสด ไม่ต้องทะเลาะกันหากคนหนึ่งอยากกินข้าวสวยอีกคนอยากกินข้าวต้ม
ข้าวไมโครเวฟเป็นทางเลือกสำหรับการหุงข้าวมินิมอลจำนวนน้อยๆ เหมาะมากกับเวลาที่กับข้าวอร่อยจัดข้าวสวยไม่พอแต่อยากไปต่ออีกหน่อย มนุษย์ดาวเหงาอยู่บ้านคนเดียวหุงแค่จานเดียวก็ได้ไม่เหลือทิ้ง เวลาไปไกลบ้านต่างแดนเกิดเบื่อขนมปังกับเนยขึ้นมาก็ลองหุงข้าวในไมโครเวฟดูได้
นี่หันไปสบตาสปาร์กจอยกับไมโครเวฟที่บ้านกันคนละหลายทีแล้วใช่ไหมล่ะหม้อหุงข้าวคงไม่น้อยใจหรอกถ้าโดนทิ้งให้หยุดพักร้อนสักมื้อสองมื้อ 🙂
เรื่องและภาพโดย: ณัฐธิดา วงศ์มหาศิริ
นักสร้างสรรค์ผู้หวังว่าชีวิตนี้จะได้เก็บเกี่ยวสิ่งมีค่าชื่อว่าประสบการณ์ หลงใหลกลิ่นหอม ภาษา และอาหาร สนุกกับเรื่องเล่าพอๆ กับการเล่าเรื่อง ชอบดื่มโคล่าที่สุดและไม่หยุดแค่นั้นเลยทำโคล่าเป็นสูตรของตัวเองขายในชื่อแบรนด์ Aircraft cola
————————————————
*เพราะเกิดอยากรู้ว่าข้าวสุกเพราะเกิดอะไร และทำไมต้องซาวข้าว ทำไมต้องแช่ข้าว เลยไปลองค้นดูความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการหุงข้าว ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากบทความชื่อว่า The Science of Cooking Rice https://www.finecooking.com/article/the-science-of-cooking-rice
*และก็เช่นกันไม่ได้อยู่ๆ หุงข้าวในไมโครเวฟเป็นเลย สูตรนี้เกิดจากข้อมูลนี้ค่ะ https://www.taste.com.au/quick-easy/articles/microwave-rice/xlkonjzb และวิธีทำให้อาหารสุกทั่วกันในไมโครเวฟ https://food-hacks.wonderhowto.com/how- to/one-trick-you-need-use-when-microwaving-leftovers-015411
