“พาลูกเข้าครัวตั้งแต่เล็ก เด็กจะรู้เรื่องไหมนะ ตัวแค่นี้เอง”
รู้สิคะ ตัวเท่านี้นี่แหละที่จะเรียนรู้ทักษะมากมายในห้องครัว มีส่วนช่วยพัฒนาการทั้ง 4 ด้านที่สำคัญต่อการเติบโตของเจ้าตัวน้อยอย่างมากเลยละ
แม่ๆ หลายคนเวลาทำอาหารมักไม่อยากให้ลูกเข้ามาอยู่ในครัวด้วย เพราะกลัวจะเกะกะ กลัวได้รับอันตราย หรือกลัวว่าจะเล่นจนเลอะเทอะ ให้แม่ต้องมาเหนื่อยเก็บของที่รื้อไว้อีกรอบ ซึ่งรู้ไหมคะว่าความคิดแบบนี้แหละที่ทำให้เจ้าตัวเล็กพลาดโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปตั้งหลายอย่าง
เพราะ ‘การเล่น’ เป็นกิจกรรมสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก หากเราสร้างกิจกรรมที่ลูกเข้าร่วมด้วยได้ ประโยชน์อย่างหนึ่งที่ได้แน่ๆ คือเจ้าตัวเล็กจะได้ละสายตาจากสมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ตออกมามองโลกความเป็นจริง หลังจากนั้นก็จะได้ลงมือทำกิจกรรมที่จับต้องได้จริง มีประสบการณ์จริง แถมถ้าเป็นการเข้าครัวทำอาหาร ลูกน้อยยังกินได้จริงอีกต่างหาก
การพาลูกเข้าครัวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมยังง่ายมากชนิดที่เจ้าตัวน้อยสามารถเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำอาหารทั้งคาวทั้งหวานก็ได้หมด นอกจากจะได้เสริมสร้างความผูกพันแม่-ลูก คุณแม่ยังจะได้มีคุณลูกอยู่ในสายตาเสมอ และที่สำคัญ การพาลูกเข้าครัวช่วยฝึกให้เด็กน้อยของเรามีพัฒนาการถึง 4 ด้านเชียวนะคะ
– ด้านร่างกาย –
ในครัวมีขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การเริ่มหยิบ หั่น ปั้น บด นวด ฯลฯ ช่วยให้ลูกได้ขยับขยายกล้ามเนื้อมัดเล็กอย่างนิ้วมือให้แข็งแรง ส่งผลให้การหยิบจับสิ่งของ การเขียนหนังสือเป็นไปได้ดีขึ้น การหั่นผักก็ช่วยฝึกความสัมพันธ์ของมือและตา ที่จะต้องทำงานประสานกัน สามารถให้ลูกใช้มีดจริงได้ภายใต้การดูแลของแม่ เป็นการฝึกให้เจ้าตัวเล็กรู้จักความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย และช่วยเหลือตนเองได้ แต่ถ้าคุณแม่ยังกังวล ก็สามารถให้ลูกใช้มีดสำหรับเด็กโดยเฉพาะก็ได้
– ด้านสติปัญญา –
ห้องครัวก็เหมือนกับห้องเรียนเล็กๆ มีคุณแม่เชฟเป็นคุณครูที่สอนได้ตั้งหลายวิชา ทั้งวิชาคณิตศาสตร์ รู้จักตัวเลขผ่านการนับจำนวน ใส่ผักไปกี่ชิ้น ใส่น้ำตาลไปกี่ช้อน วิชาวิทยาศาสตร์ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาหาร หัวหอมมีสีขาวขุ่น รสเผ็ด แต่เมื่อนำไปต้มแล้วเปลี่ยนเป็นสีใส รสหวาน วิชาภาษา มีคำศัพท์ทั้งคำนามหรือกริยาในครัวมากมาย การได้เห็นภาพไปพร้อมกับคำศัพท์จะช่วยในการจดจำได้ดี รวมทั้งวิชาศิลปะ ฝึกความคิดสร้างสรรค์ผ่านการจัดตกแต่งจาน หรือแต่งหน้าขนม
– ด้านอารมณ์ –
ลูกจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องการแสดงออกทางอารมณ์เพื่อการอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข แล้วจะมีที่ไหนเหมาะกับการฝึกควบคุมอารมณ์และรอคอยได้มากไปกว่าห้องครัว! เด็กบางคนใจร้อน อยากให้ขนมปังมันสุกเดี๋ยวนี้! แต่ถ้าเอาออกจากเตาก่อนเวลาก็จะได้กินขนมปังที่ไม่สุก นั่นคือบทเรียนที่สอนเจ้าตัวน้อยได้ชัดเจนว่าทำไมถึงต้องรอ การปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้จะทำให้ลูกคิดได้จากประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งส่งผลให้เชื่อและทำตามมากกว่าคำพูดเปล่าๆ เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอจนคุ้นชิน พฤติกรรมที่ดีจะเปลี่ยนไปเป็นนิสัยที่ดีของเด็ก
– ด้านสังคม –
“วันหยุดนี้เราจะทำเมนูอะไรกันดี” แม่กับลูกได้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพิ่มบทสนทนาระหว่างกัน กระชับความสัมพันธ์ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้หนูน้อยมีความมั่นใจในตัวเอง ว่าตัวเองก็มีความสามารถที่จะทำอะไรได้สำเร็จ ถึงแม้จะบิดเบี้ยว ไม่สวยบ้าง แต่นั่นคือความสำเร็จก้าวแรกในครัวของลูก ทำให้เด็กกล้าที่จะก้าวต่อไป และยังกล้าตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย “ทำไมถึงต้องรอน้ำมันร้อนก่อนใส่ไข่ลงไปทอดได้” “ทำไมต้องใส่อันนี้แล้วค่อยใส่อันนั้น” สอนให้รู้จักความสำคัญของการลำดับขั้นตอนก่อน-หลัง เพราะคำตอบจะแสดงออกมาผ่านอาหารตรงหน้านั่นเอง
นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นการใช้งานประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ ‘ตา’ เห็นวัตถุดิบที่ใช้ประกอบเมนู ‘หู’ ฟังคำสั่งจากแม่ว่าขั้นตอนถัดไปคืออะไร ต้องทำอะไรต่อ หรือเสียงสับหมู เสียงน้ำมันเดือดพล่านตอนทอดปลา ‘มือ’ ได้สัมผัสผิวขรุขระของฟักทอง ในขณะที่มะเขือเทศมีผิวเรียบลื่น ‘จมูก’ ได้กลิ่นหอมของอาหาร กลิ่นฉุนจากพริกไทย ‘ปาก’ ชิมรสชาติของวัตถุดิบ เกลือมีรสเค็ม มะนาวมีรสเปรี้ยว หรือชิมเพื่อรู้ว่าอาหารที่ทำมีรสชาติอย่างไร ต้องเติมรสชาติไหนจึงจะได้รสอย่างที่ต้องการ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้อีกทาง
สำหรับคุณแม่มือใหม่เริ่มต้นจูงลูกเข้าครัว เรามีเมนูง่ายๆ ที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์จากซอสปรุงอาหารแม็กกี้ได้เสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกน้อยมาฝากกันค่ะ รับรองว่าเหมาะกับเชฟคุณแม่-คุณลูกป้ายแดงที่จะร่วมมือกันรังสรรค์อาหารด้วยความภาคภูมิใจ 🙂
– ข้าวผัดอเมริกัน –
เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ของผัก ทั้งหอมใหญ่ แครอท ถั่วลันเตา ข้าวโพดอ่อน รสชาติหวานอมเปรี้ยวถูกใจทั้งเด็กผู้ใหญ่ แถมสีส้มอมแดงของซอสมะเขือเทศที่ผัดกับข้าวยังสวยเตะตาเจ้าตัวน้อย เพียงตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ผัดกระเทียมกับหอมใหญ่ให้สุก ใส่ผักหลากสีลงไปผัดให้พอสุก ใส่ข้าวสวย ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารแม็กกี้ สูตรผัดกลมกล่อม 1 ช้อนโต๊ะเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมหอมยิ่งขึ้น ตามด้วยซอสมะเขือเทศ เคล้าให้เข้ากัน ปิดไฟตักใส่จานทานคู่กับผักลวกเช่น บร็อคโคลี่ แครอทกดเป็นรูปดาวลวกสุก ขั้นตอนนี้ให้เจ้าตัวเล็กโชว์ฝีมือในการกดผักเป็นรูปต่างๆ ตามพิมพ์ได้ตามใจชอบ พร้อมไก่ทอดที่หมักด้วยซอสปรุงอาหาร สูตรเข้มเข้าเนื้อ 1 ช้อนโต๊ะ กับไข่ดาวอีก 1 ฟอง
– ข้าวต้มปลาแซลมอนกับสาหร่าย –
ข้าวต้มเป็นมื้อเช้าที่ดีเยี่ยมสำหรับเด็ก เป็นเมนูง่ายๆ ที่ทำได้รวดเร็ว แล้วยังครบครันทั้งผักและเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่มีประโยชน์สูง เริ่มด้วยการตั้งหม้อ ขอความร่วมมือจากผู้ช่วยตัวน้อยตักน้ำใส่หม้อตามปริมาณที่ต้องการ ตั้งไฟให้พอเดือด ใส่ข้าวหุงสุกลงไปต้ม 10 -15 นาทีให้เมล็ดข้าวบานเล็กน้อย ใส่ผัก เช่น เห็ดเข็มทอง สาหร่าย ข้าวโพดหวาน ต้มต่อสักครู่ ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารแม็กกี้ สูตรเข้มเข้าเนื้อ 1 ช้อนชา เพื่อรสชาติกลมกล่อม คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน นำแซลมอนลงย่างให้พอสุก ตักใส่ถ้วยข้าวต้ม แล้วโรยต้นหอมซอย ก็หอมฉุยพร้อมรับประทาน
– แฮมเบิร์ก –
ผสมเนื้อหมู เนื้อวัว ส่วนผสมต่างๆ พร้อมซอสปรุงอาหารแม็กกี้สูตรเข้มเข้าเนื้อ 1 ช้อนชา เพื่อการหมักแฮมเบิร์กให้เข้าเนื้อ นวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วปล่อยให้ลูกได้สนุกกับการปั้นให้เป็นก้อน นำไปแช่ตู้เย็นให้เซ็ตตัวซักครู่ จากนั้นนำออกมาย่างพอสุกด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ตักแฮมเบิร์กออกจากกระทะ ใส่ส่วนผสมในการทำซอสทั้งหมด ตามด้วยซอสหอยนางรมแม็กกี้1 ช้อนโต๊ะลงในกระทะใบเดิม เคี่ยวให้เข้ากันเพื่อความกลมกล่อม เดือดเล็กน้อยก็ปิดไฟ จัดจานด้วยการวางแฮมเบิร์ก ไข่ดาว ผัก อาทิ บร็อคโคลี่ลวกสุก แครอทกดรูปเป็นรูปกระต่ายลวกสุก หรือชีสชนิดแผ่นกดเป็นรูปดาว ปิดท้ายด้วยการราดซอส
เรื่องโดย: ปาจรีย์ ปิ่นวัฒนชัย / เมนูโดย: ธัญชนก ศรียานนท์