วันนี้ขอชวนชาวครัว ไม่ว่าจะสายกิน สายดื่ม หรือสายทำ มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นร้านอิซากายะง่ายๆ แถมชวนเหล่าเพื่อนนักดื่มนักกินสายเดียวกันมาล้อมวงพูดคุยกันให้หนำใจตามสไตล์อิซากายะ @Home แบบฉบับคนครัวที่รับประกันว่าเมนูที่ยกมาเสิร์ฟนั้นอร่อยถูกใจแน่นอน
ออกตัวก่อนว่าตัวผู้เขียนเองนั้นไม่ใช้สายดื่มและสายสังสรรค์ แต่เป็นสายชอบทำ (อาหาร) ด้วยความที่ยังอินกับซีรีส์เรื่อง Izakaya Bottakuri อยู่ เลยนึกสนุกชวนเพื่อนๆ สายชอบกินชอบดื่ม มาพูดคุยเม้าท์มอยหลังเลิกงาน แทนที่จะไปกินกันที่ร้านก็เปลี่ยนมาเป็นที่บ้านแทน
แต่ก่อนจะเปลี่ยนบ้านให้เป็นร้านอิซากายะนั้น ก็ต้องไปหาเครื่องดื่มและวัตถุดิบเพื่อนำมาปรุงอาหารที่จะเอาไว้เป็นกับแกล้มสำหรับการนั่งเม้าท์มอยครั้งนี้ เริ่มที่การคิดเมนูที่จะทำให้กับเพื่อนๆ นักดื่มกันก่อน เพื่อนๆ นักดื่มของผู้เขียนก็มีหลากหลายเสียด้วย เมนูเลยขอเป็นสายกลางๆ ที่เชื่อว่าแต่ละคนต้องเลิฟแน่ ได้แก่ ปีกไก่ทอดซอยโชยุ รากบัวยัดไส้ทอด ปิดท้ายด้วยซุปหอยตลับซดคล่องคอ เมื่อคิดเมนูได้แล้วก็เริ่มตระเตรียมรายการของที่จะไปซื้อ จากนั้นก็พุ่งตัวไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน เลือกซื้อเครื่องดื่มถูกใจและวัตถุดิบมาทำกันเลย
เมื่อวัตถุดิบพร้อมก็เริ่มเมนูแรก ปีกไก่ทอดซอสโชยุ ที่บอกเลยว่าถูกคอสายดื่มเป็นแน่ เพราะรสชาติเข้มข้นกินคู่กับเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี และความดีไม่ได้มีแค่เรื่องรสชาติ เนื้อสัมผัสก็ดีงามไม่แพ้กัน ผู้เขียนเลือกใช้ส่วนปีกกลางที่ติดกับปีกปลายนำไปหมักกับเกลือและพริกไทยให้ทั่ว จากนั้นนำไปเคล้ากับแป้งข้าวโพดที่ผสมกับแป้งมัน เคาะแป้งส่วนเกินออก ก่อนนำไปทอดในน้ำมันร้อน ค่อยๆ ทอดให้ผิวด้านนอกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
ระหว่างที่ทอดไก่ก็เคี่ยวน้ำซอสที่จะเอาไว้ทาไก่ที่ทอดไปด้วย โดยทำการผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น มิริน น้ำตาล กระเทียมขูด และขิงขูดในหม้อ ค่อยๆ เคี่ยวให้ซอสงวดลงเล็กน้อย อย่าลืมใส่น้ำลงไปด้วยนะ! ซอสจะได้ไม่เข้มจนเกินไป เคี่ยวประมาณ 10 – 15 นาทีก็พอ ปิดไฟ แล้วใส่น้ำมันงาลงสุดท้าย กลิ่นของน้ำมันงาก็จะลอยขึ้นมาเลยแหละ จากนั้นก็ยกออกจากเตาได้เลย เคล็ดลับ : ถ้าเคี่ยวนานกว่านี้ซอสจะเหนียวข้นจนเกินไป เวลานำมาทาที่ปีกไก่อาจจะทำให้รสชาติหนักเกินไปได้
พอส่วนผสมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ทาซอสให้ทั่วเนื้อไก่ทั้งสองด้านบางๆ ซอสจะค่อยๆ ซึมเข้าไปยังเนื้อไก่ จากนั้นก็โรยงาขาวคั่วที่เอาไปป่นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความหอม เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีซอยที่บรรจงซอยให้ได้เส้นที่บางที่สุดให้เหมือนกับร้าน วางเลมอนไปด้วย เผื่อหากใครชอบเปรี้ยวก็บีบเพิ่มได้ เพียงเท่านี้ก็เสร็จเมนูที่ 1 แล้ว
ทำเมนูที่ 1 เพื่อนๆ เริ่มทยอยมาแล้ว ก็ยกไปเสิร์ฟให้กินเล่นไปพลางๆ ก่อน จากนั้นก็มาต่อกันที่เมนูที่ 2 รากบัวยัดไส้ทอด เมนูนี้บอกเลยว่าผู้เขียนอยากกินเองก็เลยเลือกทำซะเลย ที่สำคัญเคยเห็นเมนูนี้ในเรื่อง Izakaya Bottakuri เลยอยากลองทำกินดูสักครั้งและความฝันก็เป็นจริง (ไม่ถามด้วยว่าเพื่อนอยากกินรึเปล่า!!!!) เมนูนี้วัตถุดิบไม่เยอะ หลักๆ ก็มีรากบัว แต่การเลือกซื้อรากบัวก็เป็นเรื่องปวดหัวได้เหมือนกัน อาจจะเจอรากบัวเน่าในที่ทำเอาแอบร้องไห้ไปหลายรอบแล้ว ครั้งนี้ดีหน่อยได้รากบัวหัวสวยเนื้อก็ยังสวยอีกด้วย ปอกเปลือกล้างให้สะอาดจากนั้นหั่นเป็นแว่นๆ อย่าหนามากนะ สักประมาณ 0.5 เซนติเมตรก็พอแล้ว หั่นเสร็จก็ใส่ลงไปในอ่างน้ำที่ใส่เกลือ (อันนี้ป้องกันไม่ให้รากบัวดำ)
แล้วก็หันมาเตรียมส่วนของไส้กันต่อ โดยใช้เนื้อหมูบดและเนื้อกุ้งสับผสมรวมกันปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย พริกป่นญี่ปุ่น น้ำมันงา และน้ำตาลทราย คลุกเคล้ารวมกัน จากนั้นใส่ต้นหอมญี่ปุ่นซอยไปเสียหน่อย (เพิ่มสีเขียวลงไปจะได้สวย) นวดๆ ให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 5 – 10 นาทีก็พอ พอทุกอย่างพร้อมก็ตั้งกระทะน้ำมันได้เลย
ระหว่างรอน้ำมันร้อนก็มาประกอบร่างรากบัวกัน โดยเอารากบัวขึ้นมา 1 แว่น ตักไส้วางด้านบน ปิดทับด้วยรากบัวอีกแว่น กดให้แน่นเลยนะ แล้วไปเคล้ากับแป้งข้าวโพดให้ทั่วบางๆ ก่อนนำลงทอดในน้ำมันที่ร้อน ลืมเลย!!! อย่าลืมซับรากบัวให้แห้งก่อนนำมาใส่ไส้นะ เดียวน้ำมันจะกระเด็นเอา ทอดให้สุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน จากนั้นก็เอาขึ้น เนื้อสัมผัสที่ได้จะกรอบนอกนุ่มใน ที่สำคัญเมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับพริกชี้ฟ้าเขียวทอด บอกได้คำเดียวว่าเข้ากันแบบสุดๆ เพราะตัวพริกจะมีรสเผ็ดหวาน ทำให้ตัดรสได้ดีกับรากบัว ใครชอบเปรี้ยว บีบเลมอนลงไปนิดก็อร่อยเช่นกัน ทำเมนูนี้เสร็จก็ไม่รอช้ารีบเอาไปเสิร์ฟให้เพื่อนๆ ที่กำลังเม้าท์มอยออกรสออกชาติให้ได้กินกัน เพราะของทอดก็ต้องกินร้อนๆ ถึงจะอร่อย
แวะนั่งกินกับเพื่อนสักพักก็ขอตัวมาทำเมนูที่ 3 ซุปหอยตลับ ต่อเลย เมนูนี้เพื่อนสายหอยรีเควสมา ทางเราก็จัดให้ ได้หอยสดๆ มาด้วยยิ่งอร่อยแน่นอน ขั้นแรกก็ล้างหอยตลับให้สะอาด โดยแช่หอยในน้ำแล้วใส่พริกบุบลงไปเล็กน้อย ให้หอยคายโคลนที่อยู่ในตัวออกมาให้มากที่สุด จากนั้นก็ล้าง ล้าง ล้าง แล้วใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำได้เลย ส่วนเครื่องที่ใส่ลงไปในซุปก็มีไม่เยอะ แค่หอมใหญ่ซอยกับกระเทียมบุบเล็กน้อย ผัดๆ ให้หอมกับน้ำมันในหม้อ ใส่หอยที่ล้างเรียบร้อยแล้วลงไป ใส่สาเกนิดหน่อยเพื่อดับกลิ่นคาว ผัดให้สาเกระเหย เติมน้ำและสาหร่ายคอมบุลงไป ปิดฝารอจนหอยสุก เปิดฝาปรุงรสด้วยมิรินและซีอิ๊วญี่ปุ่น ปิดไฟ โรยต้นหอมญี่ปุ่นซอย จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลย
เมนูที่ 3 เสร็จเหล่าเพื่อนๆ ก็กำลังดื่มกันเพลินเต็มที่ พร้อมเสียงเม้าท์มอยกันแบบออกรสออกชาติ ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป บางคนอาจจะไม่สะดวกที่จะไปตั้งวงพูดคุยนอกบ้านเท่าไรนัก การเปลี่ยนบ้านเป็นร้านอิซากายะ จึงตอบโจทย์สำหรับทุกคน และการได้แลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบกันก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ยิ่งทำงานเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวันหรือแม้กระทั่งทั้งสัปดาห์ก็ยิ่งทำให้ร่างกายต้องการการพักผ่อน โดยเฉพาะคนวัยทำงานอย่างพวกเรา วิธีนี้คือดีที่สุด
