ข้อดีของการไปเดินเลือกซื้อของในตลาดก็คือเราได้เห็น ได้กลิ่น ได้สัมผัสวัตถุดิบที่จะซื้อ แล้วยังราคาประหยัดอีกด้วย แต่.. แต่… แต่ ก็ไม่ได้หมายความว่าในตลาดสดจะมีแต่ของดีเสมอไป ตาดีได้ตาร้ายอาจจะเสียได้เหมือนกัน เราเลยมีทริกง่ายๆ ในการเลือกพิจารณาวัตถุดิบสดสำหรับทำอาหารมาฝาก เพื่อของดีราคาย่อมเยาสำหรับสุขภาพที่แข็งแรงกันค่ะ
ผักดีมีประโยชน์ ในตลาดเต็มไปด้วยแผงผักมากมายละลานตา แผงไหนดี แผงไหนไม่ดี เราจะรู้ได้อย่างไร ลองใช้การสังเกตง่ายๆ เหล่านี้ เพื่อเช็กว่าผักสดและสะอาดจริงไหม
- กะเพรา โหระพา ผักชี สะระแหน่ ขึ้นฉ่าย ผักจำพวกนี้ให้มองที่ใบและรากเป็นหลัก ใบต้องมีสีเขียวเข้ม ไม่มีรอยฉีกขาด ส่วนรากต้องไม่เน่า ไม่มีรอยคล้ำตรงโคนราก ลำต้นตรงสวย
- มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือเทศ ขั้วต้องเป็นสีเขียวติดแน่นกับผล ไม่มีสีดำคล้ำ ตัวผลต้องไม่นิ่ม ผิวตึง สีสด และไม่มีรอยช้ำ
- แตงร้าน แตงกวา เลือกลูกที่มีน้ำหนักมาก ทรงตรง สีเขียว ไม่มีรอยช้ำ ผิวเนียน
- ตะไคร้ กาบนอกต้องไม่แห้ง ลำต้นไม่เหลืองจนเกินไป หัวใหญ่ จับตรงส่วนหัวต้องแข็ง
- มันฝรั่ง ผิวเปลือกบาง ไม่เหี่ยว มีตาน้อย สีออกเหลืองนวล ไม่คล้ำจนเกินไป
- หอมใหญ่ เลือกหัวที่แน่น เปลือกสีเข้ม เปลือกหุ้มมีสภาพสมบูรณ์
- กะหล่ำปลี หัวสีเขียวอ่อน ใบห่อไม่แน่นจนเกินไป น้ำหนักเบา
- ถั่วฝักยาว ถั่วแขก ถั่วพู ถั่วลันเตา ฝักต้องอ่อนและสีเขียว เนื้อแน่นไม่ฝ่อ ลำต้นตรงไม่คดงอ
หมู แหล่งโปรตีนประจำบ้าน เหตุผลข้อหนึ่งที่เราควรไปตลาดแต่เช้า ก็เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจปะปนมาในอาหารสด โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่หากมีเชื้อโรคปนเปื้อนจะทำให้อายุการเก็บรักษาลดน้อยลง และอีกหนึ่งทริก อย่าเลือกซื้อเนื้อสัตว์ในวันพระ เพราะนั่นคือเนื้อสัตว์เก่าที่เก็บไว้ข้ามคืน เนื่องจากเขาจะไม่ฆ่าสัตว์กันในวันพระ ส่วนความสดไม่สดของเนื้อหมู ทดสอบได้ง่ายๆ จาก 3 วิธีเหล่านี้
- ดม ว่าเนื้อหมูที่เราจะซื้อนั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเปล่า
- สัมผัส ใช้นิ้วมือกดลงบนเนื้อหมูว่ามีความยืดหยุ่นหรือไม่ กดลงไปต้องไม่มีรอยบุ๋มของนิ้วมือ
- มอง ดูว่าเนื้อหมูต้องมีสีแดงอมชมพู มันเป็นสีขาว แต่ข้อควรระวังก็คืออย่าเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีสีแดงจนเกินไป เพราะนั่นหมายความว่าอาจมีการผสมหรือปนอะไรมาในเนื้อหมูก็เป็นได้
ไก่ ใครๆ ก็ชอบกิน ใช้หลักการ 3 ผัสสะเช่นเดียวกับเนื้อหมู
- ดม ว่าเนื้อไก่ที่เราจะซื้อมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเปล่า
- สัมผัส เนื้อไก่ที่ดีต้องไม่มีเมือก ผิวต้องเรียบเนียน หนังไม่ย่น
- มอง เนื้อไก่ต้องไม่เขียว หรือสีไม่ซีดจนเกินไป ไม่มีรอยช้ำเป็นจ้ำๆ ตามเนื้อ
เนื้อวัว ของดีราคาแพง ต้องพิถีพิถันเลือกให้คุ้มค่าคุ้มราคากันหน่อย เริ่มจากเลือกเนื้อวัวที่มีสีแดงสด เนื้อแน่น ลายเส้นไม่หยาบ ลองเอานิ้วกดดู เนื้อจะยืดหยุ่น ไม่มีรอยบุ๋ม มองให้แน่ใจว่าเนื้อต้องไม่มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคู เพราะนั่นหมายถึงเรากำลังจะได้ของแถมเป็นพยาธิตัวตืดมาด้วย (อี๋!) ที่สำคัญต้องไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวและไม่มีเมือก
อาหารทะเล แหล่งคุณประโยชน์ ถ้าเราไม่ได้อยู่ติดชายทะเล แน่นอนว่าอาหารทะเลที่เรียงรายให้เลือกสรรในตลาดก็ย่อมจะต้องใช้ระยะเวลาในการขนส่งมาสักพัก แต่อย่างน้อยก็ควรจะเลือกอาหารทะเลที่ถือว่ายังมีความสดในระดับน่าพอใจ และมีคุณภาพเมื่อนำมาทำอาหาร ดังนี้
- ปลา มองดวงตาเป็นอันดับแรกว่าตาใสหรือเปล่า แล้วเปิดดูว่าเหงือกแดงหรือไม่ ถ้าตาใส เหงือกแดง ก็ให้จับมันขึ้นมาดมว่ามีกลิ่นเหม็นไหม ถ้าผ่านทั้งสามข้อ ก็ซื้อเจ้าปลาตัวนี้กลับบ้านไปได้เลย
- กุ้ง กุ้งจะสดหรือไม่สดให้ดูว่าหัวและลำตัวติดกันหรือเปล่า กุ้งที่สด หัวกับลำตัวต้องติดกัน เปลือกและเนื้อของกุ้งต้องแข็ง ไม่นิ่ม และที่สำคัญคือต้องไม่มีกลิ่นเหม็น
- หมึก หมึกสด สีของเยื่อหมึกต้องเป็นสีม่วงสดสวย เห็นจุดชัดเจน หัวกับตัวติดกัน (ร้านไหนขายแยกหัวกับลำตัว และลอกเยื่อออกแล้ว ให้คิดได้เลยว่านั่นคือปลาหมึกไม่สด อย่าซื้อมาเป็นอันขาด) ตัวหมึกต้องแข็ง ไม่นิ่ม และไม่มีกลิ่นเหม็น
- หอย ข้อสังเกตแรกคือฝาหรือเปลือกจะต้องปิดสนิท ไม่มีสิ่งสกปรกหรือเมือกมากเกินไป เมื่อแกะเปลือกแล้วเนื้อจะต้องมีสีแดงสดไม่ซีด เคลื่อนไหวได้เมื่อถูกแตะต้อง และที่สำคัญ เหมือนหลักในการเลือกอาหารสดทุกชนิดคือต้องไม่มีกลิ่นเหม็น
- ปู เรามักนิยมเลือกซื้อปูที่ยังไม่ตาย หลักการคือดูให้แน่ใจว่ามันยังมีชีวิตอยู่และคัดคุณภาพอีกเล็กน้อย ด้วยการจับที่ท้องของปูแล้วเนื้อต้องแน่นไม่ยุบตามมือ ตาต้องกลมโต อวัยวะทุกอย่างต้องอยู่ครบ ไม่แตกร้าว
