ไม่แน่ใจว่าเด็กสมัยนี้ยังดู Popeye กันอยู่ไหม แต่สมัยฉันเป็นเด็ก ภาพหนุ่มกะลาสีป๊อปอายกับนางสาวโอลีฟตัวสูงๆ ผอมบางเป็นหนึ่งในภาพจำเกี่ยวกับการ์ตูนสมัยแรกๆ เลยเชียวค่ะ และก็จำฝังใจว่าเมื่อไหร่อยากกล้ามโตไปฟัดกับศัตรู แค่หยิบกระป๋อง spinach มาเปิด ส่งผักเขียวๆ เข้าปาก กล้ามของป๊อปอายก็จะโตทันตา แต่อาจจะด้วยความเป็นเด็กไทย เลยไม่ค่อยอินกับ spinach จนคิดจะหามากินตามสักเท่าไหร่ ไม่เหมือนเด็กฝรั่ง เพราะ spinach เป็นอาหารยอดฮิตอันดับสามของเด็กอเมริกัน รองจากไก่งวง และไอศกรีมกันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากการ์ตูนเรื่อง Popeye นี่แหละ
แต่ถึงจะไม่อิน (ตอนนั้น) ก็รู้ว่า spinach นั้นคือ ‘ผักโขม’ และเข้าใจแบบนี้มานับสิบปีกว่าจะรู้ว่าจริงๆ แล้ว spinach ไม่ใช่ผักโขมแต่คือ ‘ปวยเล้ง’ ต่างหาก! อันนี้ก็น่าจะต้องโยนกลองไปที่ผู้แปลการ์ตูนเรื่องป๊อปอายเป็นภาษาไทย ที่แปลคำว่า spinach ว่าผักโขม ทั้งที่จริงแล้วผักโขมในภาษาอังกฤษคือคำว่า Amaranth เอาเป็นว่าเด็กๆ ยุคฉันน่าจะเข้าใจเหมือนๆ กันว่าผักโขมคือผักเพิ่มพลังของป๊อปอาย แค่โยนเข้าปากก็เปลี่ยนกะลาสีตัวผอมกะหร่องให้กลายเป็นนักกล้าม ตัวโตบึกบึนขึ้นมาทันที ซึ่งเราต้องมาแก้ความเข้าใจผิดกันใหม่ว่า ผักเพิ่มพลังของป๊อปอายไม่ใช่ผักโขม แต่คือปวยเล้งนะคะ
สรรพคุณของปวยเล้ง
แล้วทำไมต้องเป็นปวยเล้ง? แน่นอนว่าการ์ตูนเขาก็สร้างบนพื้นฐานข้อมูลจริง เพราะปวยเล้งนับเป็นซูเปอร์ฟู้ดชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูลเดียวกับผักโขมจนบางทีก็เรียกกันว่าผักโขมฝรั่ง เป็นพืชผักสมุนไพรที่มีประโยชน์เหลือคณา อุดมไปด้วยมีแคลเซียม มีเส้นใย พลังงาน มีวิตามินซี โพแทสเซียม วิตามินเอ ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แมกนีเซียม ไนอาซีน เบตาแคโรทีน โฟเลต วิตามินเค แมงกานีส โอ้โหหหหหห เยอะแยะมากมายไปหมด!
เมื่อมีสารอาหารและวิตามินมากขนาดนี้ สรรพคุณจึงย่อมต้องมากตามไปด้วย แม้จะไม่ได้กินปุ๊บกล้ามโตปั๊บแบบป๊อปบอาย แต่ในระยะยาวนั้นดีแน่ เพราะปวยเล้งช่วยบำรุงเลือด ช่วยห้ามเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน บำรุงฟัน บำรุงสายตา ลดอาการตาบอดกลางคืน ลดความเสี่ยงของต้อกระจก ป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงประสาท บำรุงความจำ ช่วยให้ผ่อนคลาย ช่วยการนอนหลับ บำรุงผิวพรรณ บำรุงร่างกาย ช่วยระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก
ปวยเล้งสามารถกินได้ทั้งแบบสดๆ ในเมนูสลัด จะกินจิ้มกับน้ำพริกก็ได้ หรือจะนำไปปรุงผ่านความร้อนในอาหารจานต่าง ๆ จะเป็นต้ม ผัด หรืออบก็ได้หมด
ต้นกำเนิดมาไกลจากเปอร์เซีย
แม้ชื่อจะฟังจี๊น…จีนแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วปวยเล้งมีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเปอร์เซียโน่นแน่ะค่ะ คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘แอสปานัคห์’ (Aspanakh) และเป็นที่ฮอตฮิตมากถึงขั้นขนานนามว่า ‘เจ้าชายแห่งผัก’ (Prince of Vegetables) กันเลย ขนาดยกทัพไปบุกสเปนเมื่อศตวรรษที่ 11 ชาวอาหรับเขาก็นำปวยเล้งติดตัวไปเป็นเสบียงด้วย จนทำให้สเปนกลายเป็นศูนย์กลางการปลูกปวยเล้ง และแพร่หลายไปทั่วภูมิภาคในยุโรป ชื่อเดิม Aspanakh ก็ถูกเรียกผิดเพี้ยนไปในภาษาละตินว่า Spinachia และถูกเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Spinach ในศตวรรษที่ 14
ในเอเชียส่วนอื่นๆ ปวยเล้งเริ่มแพร่เข้ามาในประเทศเนปาล แล้วจึงต่อไปยังจีน เพราะกษัตริย์แห่งเนปาลนำไปถวายจักรพรรดิจีน จากนั้นก็เช่นเดียวกับที่สเปนคือกลายเป็นผักที่ชาวจีนนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย และชื่อภาษาจีนของปวยเล้งว่า poh ts’ai ก็บ่งบอกถึงถิ่นที่มาได้เป็นอย่างดี เพราะคำว่า poh ts’ai มีความหมายตรงตัวเลยว่า ‘ผักจากเปอร์เซีย’
วิธีเก็บรักษาปวยเล้ง
จะเก็บปวยเล้งให้สดได้นานๆ ให้นำมาล้างก้านใบให้สะอาด สะเด็ดน้ำออกให้หมด จากนั้นนำมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบาง แล้วใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก นำไปแช่ตู้เย็น เท่านี้ก็จะสดอยู่ได้นานเชียวค่ะ
ภาพ https://www.farmflavor.com/wp-content/uploads/2014/01/iStock-916931074-2.jpg
ที่มา: https://aqgarden.blogspot.com/2013/09/spinach.html
https://www.disthai.com/17348894/%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%87