Siberia Cake ขนมยุคสงครามโลกที่กลับมาฮิต เพราะ The Wind Rises จากจิบลิ  

1,315 VIEWS
PIN

image alternate text
ถอดสูตร Siberia Cake แสนอร่อย จากอนิเมชั่น The Wind Rises สตูดิโอจิบลิ

The wind is rising! We must try to live” 
(ลมพัดแรงกล้า เราจึงอยู่ท้าแรงลม) 

ผลงานอนิเมชั่นจากสตูดิโอจิบลิหลายเรื่องสร้างแรงบันดาลใจและความประทับใจจนทำให้ใครต่อใครหลงรักโลกในจินตนาการสุดล้ำของจิบลิ แต่กับอนิเมะเรื่อง The Wind Rises ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก นี้ต่างออกไป เพราะนับเป็นเรื่องแรกของอาจารย์ฮายาโอะ มิยาซากิผู้ก่อร่างสร้างสตูดิโอจิบลิ ได้หยิบเอาชีวประวัติของโฮริโกชิ จิโร วิศวกรออกแบบเครื่องบินชาวญี่ปุ่น มาสร้างเป็นอนิเมชั่นดราม่าอิงประวัติศาสตร์ เล่าเรื่องความรัก ความฝันของเด็กหนุ่มที่หลงใหลเครื่องบิน แม้สายตาสั้น ไม่สามารถขับเครื่องบินได้ แต่ก็เดินตามความฝันจนได้เป็นวิศวกรออกแบบเครื่องบินของญี่ปุ่น

อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังสร้างปรากฏการณ์ให้ Siberia Cake ที่เป็นขนมยอดนิยมของวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น ช่วงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่1 ราวปีคริตศักราช 1920 – 1930 ก่อนจะเสื่อมความนิยมและหายไปจากร้านขนมทั่วไป กลับมาฮิตอีกครั้งหลังปรากฏในฉากหนึ่งของภาพยนตร์ดังกล่าวในปี 2013 ฮิตขนาดที่ว่าทุกวันนี้เราหาไซบีเรียเค้กกินได้ตามร้านสะดวกซื้อ ร้านขนมทั่วไปในญี่ปุ่น 

ไซบีเรียเค้ก คือเค้กคัสเทลล่าเนื้อสปันส์เนียน นุ่ม สอดไส้ถั่วแดงกวนกลิ่นหอมรสหวานอ่อนๆ เป็นแบบหนึ่งในตระกูลเค้กคัสเทลล่าของญี่ปุ่น เช่น คัสเทลล่าไม่มีไส้ คัสเทลล่าเคลือบน้ำตาลคาราเมล ฯลฯ ส่วนผสมหลักของเนื้อเค้กมีแป้งเค้ก น้ำตาลและไข่ ซึ่งเป็นเค้กที่ได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกสก่อนผสมผสานความเป็นญี่ปุ่น จึงนับเป็นขนมวากาชิอย่างหนึ่ง (วากาชิ ขนมหวานญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ถ่ายทอดความเป็นญี่ปุ่นทั้งรสชาติและความประณีตสวยงาม นิยมกินคู่กับชา) 

ส่วนเหตุผลที่เรียกเค้กคัสเทลล่าสอดไส้ถั่วแดงกวนว่า ‘ไซบีเรียเค้ก’ สันนิษฐานจากชาวญี่ปุ่นบอกไว้ว่า เวลาผ่าเค้กจะเห็นเป็นแถบสามแถบระหว่างเนื้อเค้กกับไส้ถั่วที่ประกบกัน ดูคล้ายกับเส้นทางรางรถไฟสายไซบีเรีย ซึ่งในยุคนั้นเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน ราวปี ค.ศ.1905 เป็นเส้นทางการค้าที่เชื่อมระหว่างตะวันตกกับตะวันออก ผ่านประเทศรัสเซีย มองโกเลีย จีนและทะเลประเทศญี่ปุ่น 

ปรากฏการณ์ ขนมยุคคุณปู่คุณย่าที่กลับมาฮิตอีกครั้ง

“The wind is rising! We must try to live” (ลมพัดแรงกล้า เราจึงอยู่ท้าแรงลม) คือวลีแฝงปรัชญาของ พอล วาเลรี นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ที่หยิบมาใช้ในเรื่องรวมทั้งเป็นที่มาของชื่อเรื่องภาษาอังกฤษว่า The Wind Rises ความที่หนังเรื่องนี้อิงบุคคลในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และแฝงไปด้วยปรัชญาที่ขับเคลื่อนการเดินตามความฝันโดยไม่ทำร้ายใคร เฉกเช่นจิโระที่ได้สร้างเครื่องบินที่สวยที่สุดอย่างที่เขาหลงใหล ทว่ากลับกลายเป็นอาวุธในสนามสงครามโลก อนิเมชั่นเรื่องนี้จึงแตกต่างและสร้างปรากฏการณ์ขึ้นอันดับหนึ่งในโรงภาพยนตร์ประเทศญี่ปุ่นถึง 8 สัปดาห์ติด ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นปี 2013 ราว 12,000 ล้านเยน ประมาณ 3,840 ล้านบาท หนังยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาอนิเมชั่น ปีเดียวกับ FROZEN จากค่าย Disney 

ความดังเป็นพลุแตกของหนังโดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ไซบีเรียเค้กที่เป็นขนมในความทรงจำวัยหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นยุคสงครามโลกได้กลับมามีชีวิตและฮิตอีกครั้งอย่างไม่น่าสงสัย หลังปรากฏในฉากหนึ่งของภาพยนตร์ ตอนที่จิโระตัวเอกของเรื่องแวะซื้อไซบีเรียเค้กที่ร้านขายของชำหลังเลิกงาน ระหว่างเดินทางกลับที่พักได้พบกับเด็กๆ อยู่ริมทาง จึงยื่นไซบีเรียเค้กให้ ถึงเค้กจะดูน่ากินแต่อาจเพราะเขาเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเด็กๆ จึงโดนปฏิเสธ จิโระเก็บไซบีเรียเค้กขนมสุดโปรดของเขากลับมากินกับเพื่อน

ไซบีเรียเค้ก หรือคัสเทลล่าไส้ถั่วแดงขนมสุดชิคของวัยรุ่นญี่ปุ่นยุคสงครามโลก เป็นเค้กที่ดูทันสมัยขณะที่รสชาติจากถั่วแดงกวนหวานน้อยก็ถ่ายทอดความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี แม้ไซบีเรียเค้กจะเสื่อมหายไปตามความนิยม จะพบเห็นได้ก็เฉพาะร้านขายขนมวากาชิบางร้าน สุดท้ายก็กลับมาฮิตหาซื้อกินได้ตามร้านสะดวกซื้อร้านขายขนมทั่วไป และกลายเป็นที่รู้จักอีกครั้งของคนวัยเด็กและหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นยุคปัจจุบันด้วยอานิสงส์จาก The Wind Rises

The Wind Rises ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก แม้ในญี่ปุ่นจะดังเป็นพลุแตก แต่ในบ้านเราอาจไม่ใช่เรื่องโด่งดังจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างเช่น Spirited Away, โตโตโร่เพื่อนรัก, แม่มดน้อยกิกิ ฯลฯ แต่เป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีชที่คนชื่นชอบสตูดิโอจิบลิน่าจะลองดูสักครั้ง ตอนนี้รับชมได้ทาง Netflix สำหรับใครที่รอชิม Siberia cake ไม่ไหว ไม่รู้จะได้ไปญี่ปุ่นตอนไหน เราถอดสูตรไซบีเรียเค้กมาให้แล้วค่ะ ทำตามได้เลยรับรองอร่อยเหมือนบินไปกินที่ญี่ปุ่น 🙂 

Siberia Cake ถอดสูตรอาหารจากสตูดิโอจิบลิ

จำนวน 8 ชิ้น

แป้งเค้ก 110 กรัม
เนยสดชนิดจืด 70 กรัม
นมสด 70 กรัม
ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม) 5 ฟอง
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 100 กรัม

ไส้ถั่วแดงกวน

ถั่วแดง 150 กรัม
น้ำ 2250 กรัม (9 ถ้วย)
น้ำตาลทราย 115 กรัม
ผงวุ้น 8 กรัม
น้ำ 45 กรัม

อุปกรณ์ เครื่องปั่นน้ำ กระดาษไข พิมพ์ 8×8 นิ้ว จำนวน 2 พิมพ์ พิมพ์ 7×7นิ้ว จำนวน 1พิมพ์ ตะแกรงพักเค้ก 

วิธีทำ

1. ทำไส้ถั่วแดงกวนโดยซาวน้ำล้างถั่วแดงให้สะอาด แช่ถั่วแดงทิ้งไว้ 1 คืน (7-8 ชั่วโมง) กรองเอาแต่ถั่ว แล้วนำถั่วแดงต้มกับน้ำ 7 ถ้วย ประมาณ 1.5 ชั่วโมง จนถั่วสุกนุ่ม กรองเอาแต่ถั่ว ใส่น้ำ 2 ถ้วยที่เหลือลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลาย ปิดไฟ ใส่ถั่วแดงลงในโถปั่น ตามด้วยน้ำเชื่อมที่ต้มไว้ ปั่นถั่วแดงต้มให้ละเอียด แล้วกรองเอาถั่วแดงปั่นลงในหม้อ จะได้เนื้อถั่วที่ละเอียดขึ้น พักไว้ก่อน

2. เตรียมทำเค้กโดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบน – ล่าง นำถาดใส่น้ำประมาณ​1/2ถ้วยหล่อไว้ด้านล่างสุดของเตา เตรียมไว้ ปูกระดาษไขในถาดอบทั้งสองถาด ร่อนแป้งเค้ก 1-2 รอบ เตรียมไว้ ใส่เนยและนมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง พอเนยละลาย ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น

3. แยกไข่แดงไข่ขาว ค่อยใส่ส่วนผสมนมเนยที่เย็นแล้วลงไปในไข่แดง ใส่วานิลลา คนให้เข้ากัน ร่อนแป้งเค้กลงไปในส่วนผสมไข่แดง คนให้เข้ากัน 

4. ในอ่างผสมอีกใบตีไข่ขาวด้วยความเร็วปานกลาง ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทีละน้อย ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน แบ่งไข่ขาว 1/3 ส่วนลงผสมในส่วนผสมแป้ง ตะล่อมให้เข้ากัน เทส่วนผสมทั้งหมดกลับลงในอ่างไข่ขาว ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ

5. เทเนื้อเค้กลงในพิมพ์ทั้ง 2 ให้เท่าๆ กัน เกลี่ยให้เรียบ วางพิมพ์เค้กบนตะแกรงเตาอบที่อยู่เหนือถาดน้ำ อบนาน 12 นาทีจนสุก นำเค้กออกจากเตาอบ คว่ำออกจากพิมพ์ลงบนตะแกรงที่วางกระดาษไข (กระดาษไขจะช่วยไม่ให้เนื้อเค้กเป็นรอยตะแกรง) พลิกเนื้อเค้กเอาด้านสีน้ำตาลขึ้น เอากระดาษไขออกให้เค้กระบายความชื้น พอเค้กหายร้อนแล้วเอากระดาษไขปิดหน้าเค้กไว้ไม่ให้โดนอากาศ พักไว้ เค้กจะหดลงเล็กน้อย นำกระดาษไขเเผ่นเดิมปูในพิมพ์ 7×7 นิ้ว วางเนื้อเค้กแผ่นแรกลงในพิมพ์โดยเอาด้านสีน้ำตาลให้ติดกับพิมพ์ พักไว้

6. ทำไส้ถั่วแดงต่อโดยโปรยผงวุ้นลงในน้ำ ทิ้งไว้ 5 นาทีให้วุ้นอิ่มตัว ระหว่างนั้นเปิดไฟเคี่ยวถั่วแดงปั่นให้เดือดและข้นประมาณ 5 นาที ใส่ผงวุ้นที่อิ่มน้ำแล้วลงในหม้อถั่วแดง คนให้เข้ากันและวุ้นละลาย ปิดไฟ คนถั่วแดงกวนไปเรื่อยๆจนเริ่มอุ่นลง สังเกตถั่วแดงกวนจะข้นประมาณช็อกโกแลตละลาย

7. เทถั่วแดงกวนลงพิมพ์ที่ปูเนื้อเค้กไว้จนเต็ม ประกบด้วยเค้กชิ้นที่เหลือ กดเบาๆ ให้เนื้อเค้กดูดติดกับไส้ถั่วแดง ทิ้งให้ไส้เซตตัวเล็กน้อย เอาออกจากพิมพ์ ใช้มีดฟันเลื่อยตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยม

อ้างอิง 
https://pen-online.com/food/recipe-for-castella-siberia-from-the-wind-rises/https://www.japan.travel/en/sg/story/fukusayas-famous-castella-cake/ 
https://www.youtube.com/watch?v=LzG1Jn3DM40
 

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS