INGREDIENTS
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ จากนั้นเตรียมถาดโดยทาเนยสดบางๆ ให้ทั่วถาด แล้วตัดกระดาษไขให้เท่ากับก้นถาดแล้วปู ทาเนยสดทับบางๆ อีกครั้งให้ทั่ว พักไว้
2. ใส่แป้งสาลี ผงฟู และเกลือ ลงในชามแก้ว ร่อนเข้าด้วยกัน พักไว้
3. ใส่น้ำลงในหม้อประมาณ ¼ ของหม้อ (หม้อต้องมีขนาดเล็กกว่าอ่างผสม) ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อนจากนั้นใส่ช็อกโกแลตและเนยลงในชามแก้วทนความร้อน (ภาชนะที่ใส่ช็อกโกแลตเพื่อละลายต้องแห้งสนิท เพราะถ้ามีน้ำหรือไอน้ำจะทำให้ช็อกโกแลตที่ละลายจับตัวเป็นก้อน) ยกขึ้นวางบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆ (ระวังอย่าให้ก้นอ่างผสมสัมผัสน้ำเดือด เพราะจะทำให้ช็อกโกแลตร้อนเกินไป) พอเริ่มละลายเล็กน้อยแล้วจึงคนด้วยพายยางจนช็อกโกแลตและเนยละลายหมด ยกลงจากหม้อ พักไว้
4. ตีไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา น้ำตาล และกาแฟ ด้วยตะกร้อในอ่างผสมพอเข้ากัน ใส่ช็อกโกแลตที่ละลายไว้ คนด้วยพายยางให้เข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนไว้ คนให้เข้ากัน ระวังอย่าให้เป็นก้อน จากนั้นใส่ถั่ววอลนัต แล้วตะล่อมด้วยพายยางเบาๆ ให้เข้ากัน
5. เทส่วนผสมบราวนี่ใส่ถาดที่เตรียมไว้ เกลี่ยด้วยพายยางให้หน้าเรียบ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 30 นาที จนสุก ยกบราวนี่ออกจากเตาอบ พักให้เย็นสนิทในถาด แล้วคว่ำเนื้อเค้กออกจากถาด วางบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก แล้วกลับด้านเค้กอีกครั้ง ใช้มีดฟันเลื่อยตัดขอบทั้งสี่ด้านออก ตัดแบ่งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
Tips
- บราวนี่ที่ดีเมื่ออบแล้วจะดูฉ่ำ ไม่แห้งมาก หน้าจะแตกเป็นแผ่นและกรอบ แต่เนื้อด้านในนุ่ม ไม่ควรอบบราวนี่นานเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อบราวนี่แข็งและหยาบ ควรใช้มีดตัดด้านข้างของเค้กออกเพราะด้านข้างจะกรอบเกินไปสามารถเลือกใส่ถั่วชนิดอื่นแทนได้ เช่น พีแคน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือจะใส่ช็อกโกแลตชิปแทนก็ได้
สูตรอาหารโดย ณวิภา ปฏิมาประกร