เมนูที่ผู้เขียน นำมาฝากวันนี้ ง่ายแสนง่ายแบบเส้นผมบังภูเขา แต่ความดีงามหรือความอร่อยนั้น ถือเป็น ‘ขุมทรัพย์’ ของชาวสยามดังชื่อที่ตั้งไว้
อะไรมันจะเหมาะเจาะ พอดี แสนสะดวก แบบเมนูนี้ หามีไม่ ‘ขุมทรัพย์’ ที่ว่านี้ มิได้บังเกิดจากปัญญาของผู้เขียนแต่อย่างใด แต่มีต้นกำเนิดมาจากฝีมือและปัญญาของท้าวทองกีบม้า (Marie de Guimar) หรือแม่มะลิ ที่เราหลงรักจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส เป็นตัวละครที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์
300 ปีผ่านไป เรามาสานต่อขนมไทยคู่ชาติด้วยความเป็นบุพเพสันนิวาส ของส่วนผสม ‘ชาเขียวญี่ปุ่น’ และ ‘ฝอยทอง’ กันเถิด
อยากบิลด์อารมณ์ร่วมของผู้อ่านขึ้นอีกนิด ถึงความพอดีอย่างน่าอัศจรรย์ของเมนูนี้ พูดเรื่องทางโลก เราเรียกว่าบุพเพสันนิวาส พูดเรื่องทางธรรมจะเห็นความเป็นเหตุปัจจัยที่มาประกอบกัน เป็นเมนูนี้อย่างลงตัว ระหว่าง ‘ฝอยทอง’ ที่ท้าวทองกีบม้าได้สอนคนไทยให้ทำต่อกันมา ‘ไอศกรีม’ ที่เป็นขนมหวานฝรั่ง อันหมายถึงความเป็นสากล เป็นการเลือกรับปรับใช้ อันเป็นทักษะของชาวสยาม และ ‘ผงมัทฉะ’ ชาเขียวญี่ปุ่น ที่เป็นสัญลักษณ์แทนชาติกำเนิดของมารี กีมาร์ คือลูกครึ่งญี่ปุ่น-โปรตุเกส
องค์ประกอบธาตุอันแสนอัศจรรย์แบบเหมาะเจาะพอดีมาอยู่ตรงหน้าสยามยุค 4.0 แล้ว จงอย่ารอช้าที่จะสร้างมูลค่า ส่งเสริม ขนมไทยให้เป็นขุมทรัพย์ไม่จบสิ้น
ส่วนประกอบ มี แค่ 3 อย่างเรียบง่าย ดังนี้
1. ไอศกรีมชาเขียว แนะนำไอศกรีมชาเขียวของสเวนเซ่นส์ หาซื้อง่าย มีสาขาทั่วไทย รสชาติแสนพอดี
2. ฝอยทองชนิดนิ่ม เลือกซื้อตามชอบ ขอให้เป็นเจ้าที่ไม่หวานจัด น้ำเชื่อมไม่เปียกมาก และไม่แต่งกลิ่น ผู้เขียนแนะนำร้าน ‘หวานละมุน’ ดีงามสยามประเทศ ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ของเขาดีจริง อยากให้ลิ้มลอง (กินเปล่าๆ ก็อร่อยติดหัวใจ ไม่รู้ลืม)
3. ผงชาเขียว ขอแนะนำให้ใช้อย่างดี ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไทยจะมียี่ห้อ ‘มารุเซน’ ซึ่งจัดจำหน่ายโดย สิงห์ (บุญรอด) ไทยเชียร์ไท สิคะ ไม่แนะนำชาเขียวเกรดทำขนม หรือชงเครื่องดื่มขายแบบทั่วไปในร้านเบเกอรี เพราะไม่หอมพอนะคะ ส่วนท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ชาเขียวพรีเมียม จะหาซื้อยี่ห้ออื่นที่พรีเมียมจากญี่ปุ่น ก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใดค่ะ
เมื่อส่วนผสมพร้อม งานบรรเลงก็เริ่มได้
1. ขาดไม่ได้ คือ เพลทลายไทย งามวิจิตร โรยมัทฉะเป็นลายไทยประกาศศักดาไว้
2. ภาชนะใส่ไอศกรีม จะเป็นโหลแก้วหรือถ้วยไอศกรีมก็ได้ ตามสะดวก
3. ตักไอศกรีมชาเขียว 1 สกู๊ปขนาดกำลังงาม
4. คลี่ฝอยทองเพื่อคลุมไอศกรีมชาเขียวไว้ หรือออกแบบการวางประดับในสไตล์คุณเอง ให้เอกลักษณ์ความงามจารึกในแผ่นดิน
5. โรยผงมัทฉะคลุมฝอยทองและตัวไอศกรีม ยิ่งมากยิ่งหอมอร่อย
6. ประดับแผ่นทองคำเปลวบริสุทธิ์ ในตำแหน่งที่ตาทิพย์ของคุณเห็นว่างาม
7. เปล่งคำว่า “ขนมไทยจงเจริญ” ก่อนนำออกเสิร์ฟ
8. เมื่อขนมจานนี้ ปรากฏแก่สายตาคนชิม ขอให้กล่าวเรื่องราวที่มาของขนมและภารกิจที่เราชักชวนกันสร้างคุณค่าขนมไทย ให้เป็นขุมทรัพย์แก่ชาวไทยกันรุ่นสู่รุ่น ให้ผู้รับประทานซาบซึ้งใจ ร่วมไปกับเรา
9. บัดนั้นผู้รับประทานจะเปล่งวาจา “ขนมไทยจงเจริญ”
เมื่อครบองค์ประกอบ 9 ข้อ เลขมงคลตามความเชื่อของไทย ดังนี้ ขนมไทยจะเจริญจริงๆ จึงเป็นอันเสร็จพิธี อย่าลืมถ่ายรูปลงไอจีสวยๆ อวดกัน (โอเคปะ) คนไหนเป็นแม่การะเกด คนไหนเป็นแม่มะลิก็แท็กกันเองนะคะ <3
ปล. อีปริกแอบชิมแล้วกล่าวว่าแม่หญิงขา รสชาติขนมจานนี้วิจิตร ไม่แพ้หน้าตาเลย คุณพระช่วย!!! ไม่ทำต่อๆ กันไป ไม่ได้แล้ว
บทความเพิ่มเติม
- สูตรฝอยทอง
- ‘ขนมชั้นชวนเธอดื่ม’ ขนมชั้นในน้ำกะทิหวานเย็นชื่นใจ
- ไข่มังกร ทองหยอดหวานฉ่ำคลุกความเข้มข้นของผงมัทฉะ
- ขนมไทยไม่มีวันตาย
- 5 สูตรขนมไทยทำเองได้ที่บ้าน
