Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ที่รวมประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน

372 VIEWS
PIN

image alternate text
เค้กไอศกรีมเผาไฟ หวานเย็น อร่อยรับซัมเมอร์

ขนมที่หลายคนโหยหาในช่วงซัมเมอร์แบบนี้เห็นจะเป็นไอศกรีม แต่มีไอศกรีมอยู่ชนิดหนึ่งที่ผู้เขียนไม่ได้กินนานแล้วนั่นก็คือ Baked Alaska เค้กไอศกรีมเผาไฟ ที่ดูแล้วย้อนแย้งกันชอบกล ไอศกรีมเย็นๆ กับไฟ ทำไมถึงอยู่รวมกันได้ ทำไมไอศกรีมจุดไฟถึงไม่ละลายละ? ขนมชนิดนี้น่าสนใจอยู่ และไม่ได้มีเรื่องของวิทยาศาสตร์อย่างเดียว แต่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์เข้ามาเกี่ยวด้วย

ย้อนกลับไปที่ประวัติของขนมนี้ก่อนค่ะ Baked Alaska มีต้นกำเนิดในปี ค.ศ.1867 โดยพ่อครัวชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ Charles Ranhofer  ผู้คิดค้นเมนูนี้ในขณะทำงานที่ Delmonico’s ร้านอาหารชื่อดังในนิวยอร์ก หรือตอนนั้นเรียกว่าเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเลยก็ว่าได้ Ranhofer ได้คิดค้น Baked Alaska ขึ้นมาซึ่งไม่รู้ว่าเพื่อเป็นการเชิดชูหรือเสียดสีข้อตกลงการซื้อดินแดนอลาสก้าของสหรัฐจากรัสเซียหรือไม่ เนื่องจากตอนนั้นชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการซื้อดินแดนน้ำแข็งที่ดูเหมือนจะไร้ค่าแห่งนี้ (ยกเว้นที่ภายหลังมีการขุดพบทองคำและทรัพยากรธรรมชาติอีกมากมายในอลาสก้า) ในหนังสือ What’s cooking America ได้อธิบายรูปลักษณ์ Baked Alaska ในเวอร์ชั่นของ Ranhofer ไว้ว่าเป็นขนมที่ทำจากไอศกรีมกล้วยหอมและวานิลลา มีฐานบิสกิต และหุ้มด้วยเมอร์แรงก์เผา ซึ่งคล้ายกันกับหนังสือ The Epicurean ที่ Ranhofer เป็นคนเขียนขึ้น แต่เรียกขนมนี้ว่า ‘Alaska, Florida’ ที่ตั้งชื่อนี้เพียงแค่ต้องการสื่อถึงอุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างอลาสก้าที่เย็นจัด และฟลอริด้าที่ร้อนผ่าว แต่บางคนก็ว่าการทำเขาเลือกใช้ไอศกรีมกล้วยหอมด้านในเพื่อจะสื่อถึงของอร่อยแต่ไม่เป็นที่นิยมของคอไอศกรีมหรือเปล่านะ อันนี้ก็ไม่มีใครรู้ได้

Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม

Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม

รูปซ้าย Delmonico’s ภาพขวา Charles Ranhofer

Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม

ภาพ The Epicurean

อีกทางหนึ่งก็ว่าขนมร้อนเย็นลักษณะนี้มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1830 หรือก่อนหน้าที่ Ranhofer จะเอาไปทำที่นิวยอร์กแล้ว  แต่เรียกกันว่า ‘Omelette Norwegge’  เป็นขนมที่ทำกันในหมู่พ่อครัวฝรั่งเศส (อย่างที่ทราบกันว่าเมอร์แรงก์เป็นที่นิยมอย่างมากในอาหารฝรั่งเศส) Omelette Norwegge ประกอบด้วยเค้ก ไอศกรีมหลายๆ ชั้น และคลุมด้วยเมอร์แรงก์จนมิดแล้วนำไปย่างจนสีสวย โดยพ่อครัวฝรั่งเศสตั้งชื่อทำนองว่าไข่เจียวนอร์เวย์เพื่อเล่าถึงความหนาวเย็นของประเทศนอร์เวย์ อีกอย่าง Omelette Norwegge น่าจะได้ไอเดียจากการคิดค้นของ Sir Benjamin Thomson นักฟิสิกส์และนักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ที่ค้นพบเรื่องทฤษฏีเกี่ยวกับการจัดการความร้อนในช่วงต้น ค.ศ.18 เขาพบว่าฟองอากาศมากมายที่อยู่ในเมอร์แรงก์ไข่ขาว เป็นฉนวนหรือตัวกันความร้อนที่ดีไม่ให้เข้าถึงสิ่งที่อยู่ด้านในได้ จึงเป็นสาเหตุทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย

Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม

ภาพ Omelette Norwegge

Baked Alaska ในเวอร์ชั่นปัจจุบันมีหลากหลายรูปทรง ทั้งเป็นทรงโดม สี่เหลี่ยม แต่ทุกเวอร์ชั่นก็จะมีเนื้อเค้กเป็นส่วนประกอบ บางร้านจะใช้คริสมาสต์พุดดิ้งหรือเค้กผลไม้เนื้อหนักๆ แล้วใส่ไอศกรีมด้านบน บางทีอาจจะมีไอศกรีมหลายรสในก้อนเดียวกัน แล้วค่อยนำมาปาดคลุมด้วยเมอร์แรงก์ไข่ขาวให้ทั่ว ไข่ขาวนี่แหละจะเป็นปราการกั้นไม่ให้ความร้อนจากภายนอกทะลุทะลวงเข้าไปถึงไอศกรีม หลังจากนั้นจึงเอาไปอบให้เมอร์แรงก์สุกเป็นสีน้ำตาล สมัยนี้ใช้วิธีง่ายหน่อยด้วยการพ่น blow torch รอบๆ เอา ข้อดีคือควบคุมความร้อนได้ ขนมออกมาสีสวยสม่ำเสมอ หรือบางร้านเสิร์ฟให้ตื่นเต้นไปอีกโดยการ flambe ราดแอลกอฮอลล์แล้วจุดไฟให้ลุกท่วมขนมก็ว้าวไปอีกแบบ

อ่านมาถึงตรงนี้ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ อยากลองทำ Baked Alaska กันหรือเปล่านะคะ แต่เรามีสูตรมาแจกค่ะ เพราะอยากจะบอกว่าเป็นขนมที่ง่ายแสนง่าย และใช้วัตถุดิบสำเร็จหมดเลย เว้นแต่อาจจะต้องมีอุปกรณ์ทางเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เช่น หัวพ่นไฟ (blow torch) ส่วนใครอยากลองวิธี flambe เพื่อความตื่นเต้นก็สามารถลองได้เลยค่ะ

Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม

วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ทำ Baked Alaska ประกอบด้วย

Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม
  • เค้กเนยสำเร็จรูป
    • ไอศกรีมรสตามใจชอบ
    • ไข่ขาว
    • น้ำตาลทราย
    • วอดก้า หรือเหล้ารัม (สำหรับคนที่ต้องการ flambe ขนม)
    • อุปกรณ์: ชามแก้ว พลาสติกแรป ตะกร้อมือ หรือเครื่องตีไข่ไฟฟ้า blow torch
  • ปูพลาสติกแรป 2-3 แผ่นด้านในชามแก้ว อย่าลืมเหลือชายพลาสติกไว้เพื่อดึงไอศกรีมขึ้น
Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม
  • สคูปไอศกรีมใส่ลงในถ้วย ใช้สปาตูลากดอัดให้เนื้อไอศกรีมแน่นและแนบไปกับถ้วย ปาดให้เรียบโดยเหลือขอบไว้ 1 นิ้วสำหรับใส่เค้ก
Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม
  • วางเนื้อเค้กบนไอศกรีมจนเต็มหน้าตัดชาม
Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม
  • ทำเมอร์แรงก์โดยใส่ไข่ขาว และน้ำตาล (ตรงนี้ผู้เขียนแอบใส่น้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะลงไปด้วยเพื่อช่วยละลายง่ายขึ้น) คนไข่ขาวบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆจนน้ำตาลละลายหมด ลองใช้นิ้วจุ่มแล้วถูนิ้วดูแล้วว่าไม่มีเกล็ดน้ำตาล ยกลง นำมาตีต่อจนได้เมอร์แรงก์ฟูและตั้งยอด
Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม
  • นำเค้กไอศกรีมออกจากพิมพ์ คว่ำลงจาน
Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม
  • ตักเมอร์แรงก์ ปาดให้คลุมทั่วเค้กไอศกรีม
Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม
  • ใช้หัวพ่นไฟเผาเมอร์แรงก์ให้สีสวยตามชอบ หรือจะราดวอดก้าหรือเหล้ารัมแล้วจุดไฟก็ได้เช่นกัน
Baked Alaska,เค้ก,สูตรเค้ก Baked Alaska,เค้กไอติม

ดูสูตรเพิ่มเติมได้ที่ https://krua.co/recipe/baked-alaska/

อ้างอิง

https://www.finedininglovers.com/article/short-history-baked-alaska

https://www.localfoodadventures.com/the-history-behind-the-baked-alaska https://www.atlasobscura.com/articles/baked-alaska

https://www.npr.org/sections/thesalt/2016/03/29/469957638/baked-alaska-a-creation-story-shrouded-in-mystery

ภาพประกอบ

https://www.atlasobscura.com/articles/baked-alaska

https://www.meilleurduchef.com/en/recipe/baked-alaska-omelette-norvegienne.html

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS