ในช่วงฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น เมนูที่ฮอตฮิตที่สุดหนีไม่พ้น ‘นาเบะ’ หรือ ‘หม้อไฟ’ ที่กินกันรวมกลุ่มหลายๆ คน เพราะปริมาณค่อนข้างเยอะ ทำให้นาเบะแฝงไปด้วยวัฒนธรรมการกินอาหารร่วมกัน โดยการสัมผัสประสบการณ์ครบทั้ง 4 หรือคนญี่ปุ่นเรียกว่า CECE (เชเช) ที่มาจาก ‘การทำ การกิน การสื่อสาร การสร้างความบันเทิง’ ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ช่วยกันทำ ทำเสร็จได้กิน การนั่งกินก็ได้พูดคุยและพบปะสังสรรค์ เรียกว่านาเบะเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจเลยก็ว่าได้
แต่ละจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นจะมีนาเบะที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นนั้นๆ เสมือนว่าเป็นของดีประจำจังหวัด ที่มาในรูปแบบวัตถุดิบที่นำไปใส่ในนาเบะ โดยหนึ่งในนาเบะที่ทำง่ายและอร่อยก็คือ ‘จังโกะนาเบะ’ นาเบะที่เหล่าซูโม่กินเป็นประจำ พร้อมความเชื่อในการกินว่าวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในหม้อจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์ที่เป็นสัตว์ 4 ขาเลย เนื่องจากกติกาในการแข่งขันซูโม่นั้นได้กำหนดเอาไว้ว่า ใครถูกดันให้ออกนอกวงกลมก่อนหรือถูกทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่ไม่ใช่ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นจะแพ้ ซึ่งหมายความว่าซูโม่จะต้องยืนด้วย 2 ขาตลอดการแข่งขัน การกินสัตว์ 4 ขาอย่างเนื้อหมูหรือเนื้อวัวจึงถือว่าเป็นอัปมงคลต่อซูโม่ เลยเป็นเหตุผลที่วัตถุดิบที่ใส่ลงไปในจังโกะนาเบะจะเป็นพวกเนื้อไก่ ลูกชิ้นไก่ เนื้อปลา เห็ดนานาชนิด เต้าหู้ และผักต่างๆ จึงทำให้จังโกะนาเบะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ฉะนั้น ถึงไม่ใช่ซูโม่ แต่รักสุขภาพก็กินได้ค่ะ ปัจจุบันมีจังโกะนาเบะให้กินอย่างแพร่หลายในโตเกียว เพราะอดีตซูโม่หลายๆ คนที่ได้ลาวงการไปหันมาเปิดร้านจังโกะนาเบะกันเยอะเลย
วันนี้เลยขอหยิบจังโกะนาเบะมาทำเป็นนาเบะในรูปแบบ ‘เฮลธ์ตี้’ หนักๆ ไปเลย ให้เหมาะกับคนที่อยากปาร์ตี้กับเพื่อนๆ โดยไม่ต้องกังวลว่ากินไปแล้วแคลอรี่จะเกินไหม จะอ้วนหรือเปล่า บอกได้อย่างมั่นใจเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะพื้นฐานของนาเบะชนิดนี้แทบจะไม่มีวัตถุดิบที่ทำให้อ้วนเลย ตั้งแต่น้ำซุปที่ทำได้ง่าย ปรุงไม่เยอะ เน้นดึงรสชาติจากวัตถุดิบที่เราใส่ลงไป อีกทั้งยังสามารถเลือกใส่วัตถุดิบที่ดีลงไปให้หม้อได้อีกด้วย ใครที่กังวลตอนไปกินชาบูที่ร้านว่าแคลลอรี่จะเกิน และยังไม่รู้ว่าร้านปรุงด้วยอะไรบ้าง ทำให้ไม่รู้เลยว่าโซเดียมจะมากเกินไปหรือเปล่า แนะนำให้ทำจังโกะนาเบะกินเองซะเลย จะได้หายห่วง แถมยังได้ปาร์ตี้กับเพื่อนอีกด้วย
สิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนปาร์ตี้จังโกะนาเบะคือน้ำซุป สูตรน้ำซุปที่เรามาทำให้วันนี้จะใช้วิธีการตุ๋นเป็นเวลานาน เพื่อดึงรสชาติของวัตถุดิบที่ใส่ลงไปออกมาให้มากที่สุด และเติมเครื่องปรุงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อลดโซเดียมในน้ำซุป
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะทำให้จังโกะนาเบะสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับซูโม่ที่ต้องยืนให้มั่นด้วย 2 ขา นั่นก็คือลูกชิ้นไก่ แต่ไม่ใช่ลูกชิ้นไก่ตามท้องตลาดทั่วไปที่อาจมีส่วนผสมของแป้งเยอะกว่าโปรตีน ลูกชิ้นไก่ที่เราจะนำมาใส่ในจังโกะนาเบะวันนี้ เป็นลูกชิ้นไก่ที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ไร้แป้ง ไขมันต่ำ โปรตีนเน้นๆ เพราะใช้อกไก่เป็นส่วนผสมหลัก โดยนำอกไก่ไปบดในเครื่องบดอาหารหรือซื้ออกไก่ที่บดมาเลยได้ (แต่ถ้าใช้เครื่องบดอาหารจะได้เนื้อไก่ที่เนียนกว่า) นำไปผสมกับหอมหัวใหญ่สับละเอียด เพื่อให้ลูกชิ้นไก่มีรสหวานโดยไม่ต้องใส่น้ำตาล ตามด้วยขิงแก่สับละเอียดและต้นหอมซอยเพิ่มความหอม จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และซีอิ๊วญี่ปุ่นเล็กน้อย สำหรับใครที่สายคลีนแบบเคร่งคัด จะไม่ใส่ซีอิ๊วญี่ปุ่นก็ได้ ปรุงเกลือพริกไทยก็พอ แต่รสชาติก็จะอ่อนลงนิดหน่อย นวดส่วนผสมให้เข้ากันประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วแนะนำให้นำไปหมักไว้ในตู้เย็น 20-30 นาที จากนั้นก็ปั้นเป็นก้อนหรือใช้ที่ตักไอศกรีมทำให้เป็นลูกกลมๆ
เตรียมน้ำซุปกับลูกชิ้นก็เป็นอันเสร็จ แต่อย่าลืมวัตถุดิบอื่นที่ซื้อมาใส่เพิ่ม เช่น เต้าหู้ หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันดีอย่างปลาแซลมอน ผักหรือเห็ดต่างๆ (ส่วนใหญ่นิยมใส่ผักกาดขาว แครอท ต้นหอมญี่ปุ่น เห็ดหอมและเห็ดเข็มทอง) แต่จริงๆ สามารถใส่ผักที่ชอบได้เลย และสำหรับสายคลีน น้ำจิ้มถือเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังมากที่สุด ควรจิ้มน้ำจิ้มให้น้อยที่สุดหรือเลือกน้ำจิ้มสูตรโซเดียมต่ำ ทางที่ดีที่สุดก็คือไม่ควรจิ้มน้ำจิ้มเลย
แต่ต้องบอกล่วงหน้าไว้เลยนะคะ ว่าเมนูนี้ไม่เหมาะกับการกินคนเดียวจริงๆ ให้ลองแท็กชวนเพื่อนๆ มาช่วยทำ ช่วยกิน แล้วที่สำคัญช่วยกันล้างจานด้วยนะ อย่างประโยคที่ว่า ‘เพื่อนมาเราดีใจ เพื่อนกลับไปใครล้างจาน’ ถือเป็นกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนแถมยังสุขภาพดีไปพร้อมๆ กันด้วย
บทความเพิ่มเติม
เที่ยวญี่ปุ่นทิพย์ไปตลาดปลาสดๆ ใกล้แค่ทองหล่อ
ดาชิ ความอูมามิที่สกัดจากท้องทะเล
AEEEN สมดุลชีวิตผ่านเต้าหู้โฮมเมด ผัก และอาหารหมักดอง