ดื่มด่ำส่งท้ายปี 2023 ด้วยเครื่องดื่มที่สายแอล (กอฮอล์) ทั้งหลายต้องเลิฟ หากใครกำลังมองหาเครื่องดื่มในงานปาร์ตี้หรือมองหาของเจ๋งๆ ไปแจกเพื่อนอยู่หล่ะก็…แนะนำเลย! Arancello หรือ เหล้าส้ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สไตล์โฮมเมดที่มีรสหวานหอมสดชื่นจากเปลือกส้มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีต้นกำเนิดจากทางใต้ของประเทศอิตาลี นิยมเสิร์ฟให้ดื่มหลังมื้ออาหารหรือที่เรียกว่า Digestif อีกทั้งยังใช้เป็นส่วนผสมในค็อกเทลต่างๆ ด้วย
เหล้าส้มเกิดจากการแช่ผิวส้มในเหล้าวอดก้าเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อสกัดเอาน้ำมันหอมระเหยออกมา จากนั้นนำมาปรุงให้ดื่มง่ายขึ้นด้วยการเติมน้ำเชื่อมลงไป เหล้าส้มโดยทั่วไปจึงมีรสชาติหวานและปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่เสิร์ฟแบบเย็นจัดและดื่มเป็นช็อต
…เหล้าส้มโฮมเมด จากวัตถุดิบ 3 อย่าง…
– ส้ม จะใช้ส้มพันธุ์ไหนก็ได้แต่ขอให้เลือกที่เปลือกหนา เช่น ส้มแมนดาริน นาเวล หรือซันคิส ที่หาซื้อได้ง่ายในไทย หรือจะเป็นผลไม้ตระกลูซิตรัส (Citrus fruit) อย่างเลมอน มะนาวเขียว เกรปฟรุตก็สามารถนำมาทำได้เช่นกัน หากใครหาส้มแบบออร์แกนิคปลูกแบบปลอดสารพิษได้ยิ่งดี เป็นการหลีกเลี่ยงแว๊กซ์ที่เคลือบมาบนผิวส้มนั่นเอง
– เหล้า ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะใช้วอดก้า หรือ เหล้าสีใสที่มีกลิ่นไม่แรงมากนักเพื่อไม่ให้กลิ่นเหล้าไปกลบกลิ่นหอมของส้มและต้องมีเปอร์เซนต์แอลกอฮอล์ที่สูง เพราะเราต้องการสกัดเอาน้ำมันหอมระเหยออกมาจากผิวส้มให้ได้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้เหล้าที่มีเอทานอลหรือเปอร์เซนต์แอลกอฮอล์สูงมากๆ ในการทำละลาย เช่น วอดก้ายี่ห้อ Everclear ที่นิยมใช้กันในต่างประเทศมีแอลกอฮอล์สูงถึง 95%
ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ใช้มีผลต่อรสชาติ สี และระยะเวลาในการสกัดเหล้าส้ม ถ้ายิ่งเหล้ามีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์สูงก็ยิ่งช่วยลดระยะเวลาในการสกัดให้สั้นลง โดยวอดก้า 40% ABV ซึ่งเป็นเปอร์เซนต์ที่หาซื้อได้ในไทยจะใช้เวลาในการสกัดประมาณ 3-4 สัปดาห์ เหล้าส้มที่ได้จะมีความนุ่มนวล ดื่มง่าย สีส้มใสไม่ขุ่น ส่วนวอดก้า 75% – 95% ABV จะใช้เวลาสกัดเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น แต่จะได้เหล้าส้มที่มีรสชาติค่อนข้างแรง อาจดื่มยากไปซักหน่อยสำหรับมือใหม่ สีขุ่นคล้ายน้ำส้ม สำหรับยี่ห้อวอดก้าที่นำมาใช้นั้นสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ
– น้ำเชื่อม มีส่วนประกอบ คือ น้ำและน้ำตาลทรายขาว ซึ่งความหวานของเหล้าส้มนั้นเราสามารถปรับเพิ่มลดได้จากน้ำตาลในน้ำเชื่อมได้เลย การเติมน้ำเชื่อมนอกจากจะให้ความหวานแล้ว ยังเป็นการปรับเปอร์เซนต์แอลกอฮอล์ให้ต่ำลงมาอยู่ในระดับที่ดื่มง่ายขึ้น ประมาณ 30% ABV ตามค่ามาตรฐานอีกด้วย
Step 1 เริ่มจากการทำความสะอาดส้มกันก่อน ให้เราใช้มือขัดผิวส้มด้วยเบกกิ้งโซดาให้ทั่ว จากนั้นเทน้ำใส่จนท่วม ใส่น้ำส้มสายชูลงไป 2 ช้อนโต๊ะ แช่ส้มทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาจะช่วยล้างเอาสารพิษรวมถึงแว็กซ์ที่อยู่บนผิวส้มออก เสร็จแล้วล้างด้วยน้ำใช้มือถูผิวส้มเบาๆ จนสะอาดดี ซับด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูให้แห้ง
Step 2 ใช้มีดปอกผลไม้หรือมีดเล็กปอกผิวส้ม โดยพยายามไม่ให้ติดเปลือกสีขาวออกมา ถ้าปอกแล้วติดเปลือกสีขาวให้ใช้มีดค่อยๆ เลาะเอาเยื่อสีขาวออกให้ได้มากที่สุด ตัวเยื่อจะทำให้เหล้าส้มมีรสชาติฝาดและไม่อร่อย
Step 3 ใส่เปลือกส้มลงในโหลแก้ว ตามด้วยวอดก้า โดยใช้อัตราส่วนเปลือกส้ม 60 กรัม (จากส้มแมนดาริน 900 กรัม) ต่อ วอดก้า 40% ABV 500 มิลลิลิตร วางโหลแก้วไว้ในที่มืดและเย็น หมั่นเขย่าโหลทุกวัน เพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างผสานเข้าด้วยกัน และช่วยให้แอลกอฮอล์สกัดเอาน้ำมันหอมระเหยออกมามากขึ้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์หรือจนเปลือกส้มสีซีด
Step 4 เมื่อครบเวลา ใช้กระชอนกรองเอาเปลือกส้มออก จากนั้นทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำและน้ำตาลลงในหม้อ ต้มให้เดือดและน้ำตาลทรายละลายดี พักน้ำเชื่อมไว้จนเย็นสนิท เสร็จแล้วเทน้ำเชื่อมลงในเหล้าที่กรองไว้ คนผสมให้เข้ากัน
กรอกเหล้าส้มที่ได้ใส่ขวดแก้วหรือเหยือกแก้ว แช่ตู้เย็นช่องธรรมดาให้เย็นจัด ก่อนนำมาดื่ม สามารถเก็บเหล้าส้มไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 1 เดือน หากต้องการให้เหล้าส้มมีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น เมื่อผสมเหล้าส้มกับน้ำเชื่อมแล้วให้วางทิ้งไว้ในที่มืดและเย็นต่ออีกประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนนำมาแช่เย็น
สามารถเข้าไปศึกษาการทำ Arancello Limoncello หรือ Cello อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ ลิงก์นี้ เลยค่ะ
