ถ้าไม่นับไก่ทอดแฟรนไชส์ตะวันตกที่มีสาขาทั่วโลกอย่างเคเอฟซีหรือแม็คโดนัลด์ ให้นึกถึงไก่ทอดที่อร่อย มีเอกลักษณ์ ได้รับการจดจำ เชื่อว่า ‘ไก่ทอดเกาหลี’ จะโผล่มาเป็นลำดับต้นๆ ในความคิดของหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่ ที่ไก่ทอดเกาหลีเป็นหนึ่งในการส่งผ่านวัฒนธรรมแดนกิมจิ เช่นเดียวกับหมูย่าง กิมจิ บิงซู เคป๊อป เคซี่รี่ส์ แต่ไม่ใช่แค่คนต่างชาติที่ชอบไก่ทอดเกาหลี คนเกาหลีเองก็กินไก่ทอดกันอย่างจริงจังและมากมาย ยืนยันด้วยจำนวนร้านไก่ทอดที่มีมากกว่า 36,000 ร้านทั่วเกาหลี
คนไทยคุ้นชินกับร้านส้มตำ เจอทุกหัวระแหง กินได้ตั้งแต่เช้ายันมืดฉันใด คนเกาหลีกับไก่ทอดก็เช่นเดียวกัน
ตอนไปเกาหลีครั้งแรกเมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว เพื่อนชาวเกาหลีพาไปกินไก่ทอดร้านคังโฮดง-พิธีกรคนดังประจำชาติเกาหลี ฉันยังแอบคิดในใจว่าทำไมพามากินไก่ทอด ทำไมเพื่อนไม่พาไปกินอาหารเกาลี้เกาหลีให้สมกับเป็นการรับแขกต่างบ้านต่างเมือง จวบจนได้กินและได้เห็นบรรยากาศในร้านจึงได้เข้าใจว่าไก่ทอดเกาหลีนั้นอร่อยและแปลกใหม่แบบที่เรียกว่าลืมไก่ทอดที่กินมาทั้งชีวิตไปได้เลย อีกทั้งการไปกินไก่ทอดของคนเกาหลียังแฝงความหมายของการสังสรรค์ สรวลเส บอกเล่าสุขทุกข์ ระบายความอัดอั้น ไปจนถึงปลอบประโลมใจกัน ข้อหลังนี้พยายามจะหาฟีลที่คุ้นเคยมาเทียบเคียงแต่ก็หาไม่เจอ ใกล้เคียงที่สุดน่าจะประมาณร้านเหล้า เพียงแต่เราอาจจะไปร้านเหล้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการดื่มเป็นหลัก ส่วนการไปร้านไก่ทอดเกาหลีคือการไปเอนจอยทั้งกิน ดื่ม และคุย ส่วนใหญ่ไม่ได้ดื่มจนเมามาย (เพราะถ้าจะเน้นดื่ม ในเกาหลีก็มีคลับและผับให้ไปโดยเฉพาะ) แต่แน่นอนว่าร้านไก่ทอดก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายไว้ให้แพร์กับไก่ ซึ่งวันแรกที่ไปเพื่อนก็สั่งเบียร์มา พร้อมบอกว่า “มาเกาหลีต้องกินไก่ทอดกับเบียร์”
คนไทยที่เคยกินแต่ข้อไก่ทอดผอมๆ แห้งๆ กับเบียร์อยู่กรุงเทพฯ ก็ได้เปิดโลกต่อไปอีกว่าไก่ทอดทั้งตัวที่กรอบ ฉ่ำ นุ่ม เด้ง กับซอสหลากรสที่ว่าอร่อยเด็ดนักหนาแล้วนั้น ครั้นตามด้วยเบียร์เย็นๆ มันยิ่งฟินคูณสอง แถมได้กินกับเพื่อนที่คุยกันถูกคอ แทะไก่ไป ซดเบียร์ไป เม้าท์มอยกันไป ในร้านที่ตกแต่งเท่ชิค ถ่ายรูปสวย กินสนุก ลุกนั่งสบาย โอ้ ชีวิตช่างดี
วันนั้นบอกตัวเองว่าถ้ามีเงินจะซื้อแฟรนไชส์ไก่โฮดงมาเปิดที่ไทย เพราะชอบทั้งความอร่อย บรรยากาศร้าน และฟีลการสังสรรค์แบบรีแลกซ์ๆ แต่ทั้งตัวมีอยู่สี่หมื่นวอน เลยได้แค่ทำนายทายทักไว้ว่าคอยดูเถอะ สักวันวัฒนธรรมการกินไก่ทอดกับเบียร์แบบเกาหลีนี้ จะต้องป๊อปไปถึงต่างบ้านต่างเมืองแน่นอน
ปรากฏว่าถ้าทายหวยแม่นเหมือนทายอนาคตไก่ทอด ป่านนี้ซื้อแบรนด์ไก่ทอดเกาหลีได้ 10 เจ้าแล้ว!
รักแรกของคนเกาหลีกับไก่ทอด
ชาวเกาหลีไม่ได้กินไก่ทอดกันมาแต่โบราณกาล หากคุ้นเคยกับไก่ต้มและไก่ตุ๋น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไก่ตุ๋มโสม ที่ถือเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติเกาหลี จวบจนทศวรรษที่ 70 การเข้ามาของชาวอเมริกันบวกกับเหล่าชาวเกาหลีที่ไปเรียนที่อเมริกากลับบ้านมาพร้อมไก่ทอดแบบอเมริกัน ทยอยเปิดร้านไก่ทอดแบบเฮ้าส์แบรนด์ ทำให้ชาวเกาหลีเริ่มคุ้นเคยกับไก่ทอดมานับแต่นั้น และด้วยความจริงจังสไตล์เกาหลี แต่ละร้านล้วนพัฒนาปรับปรุงทั้งสูตรและเทคนิคการทอดไก่ให้โดดเด่นและอร่อยจัดในแบบของตัวเอง ยิ่งอร่อย คนก็ยิ่งกิน คนยิ่งกิน ร้านไก่ทอดก็ยิ่งทยอยเปิด และยิ่งร้านไก่ทอดเพิ่มมากขึ้น การแข่งขันเพื่อให้ไก่ทอดของร้านตัวเองมีเอกลักษณ์ มีสูตรเฉพาะตัว มีความอร่อยที่โจษจันก็ยิ่งมาก อาจกล่าวได้ว่าวงจรนี้เองที่ทำให้ไก่ทอดเกาหลีแพร่ขยายความนิยมไปทั่วประเทศ
และก็อย่างที่ฉันประสบพบเจอด้วยตัวเองเมื่อตอนไปกินไก่ทอดที่เกาหลี นั่นคือการไปร้านไก่ทอดมีฟีลเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนการไปกินอาหารในร้านอาหารหรือไปร้านเหล้าเพื่อกินเหล้า แล้วก็ไม่เหมือนไปคาเฟ่ ความอร่อยของไก่ทอดบวกความง่ายในการกินทำให้ร้านไก่ทอดเป็นเหมือนร้านที่นึกอะไรไม่ออก ขี้เกียจคิดเมนูอาหาร แต่อยากมานั่งกินอะไรเพลินๆ เพื่อพูดคุยสังสรรค์หรือระบายความอัดอั้นกับเพื่อน ก็แวะมาเถอะ เพราะในร้านมีเพียงไก่ทอด (ไม่ต้องคิดมากในการเลือกเมนู) โซจู มักกอลลี เบียร์ ก็มีให้บริการ (เพื่อสนองฟีลในการสังสรรค์และปรับทุกข์) ร้านยังมาในบรรยากาศสบายๆ รีแลกซ์เหมาะแก่การนั่งชิลล์ การกินไก่ทอดจึงกลายเป็นวัฒนธรรมการกินบวกสังสรรค์ของคนวัยทำงาน ที่พักเที่ยงก็แวะมาได้ เลิกงานจะมานั่งยาวๆ ก็ได้ รวมไปถึงนักเรียนนักศึกษาที่ชอบการนั่งเม้าท์กับเพื่อนฝูง
ความโดดเด่นและแตกต่างของไก่ทอดเกาหลี
“ไก่ทอดส่วนใหญ่ที่เราเคยกิน มันจะเป็นไก่ที่แป้งหนาบ้าง หรือตัวแป้งผ่านการปรุงรสมาแล้วบ้าง แต่ไก่ทอดเกาหลีคือรสชาติของไก่แท้ๆ ที่มากับแป้งแท้ๆ บาง กรอบ มันเป็นส่วนผสมที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงฟีลของไก่ทอดจริงๆ” เอ็ดดี้ โสภณ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Hallyu K Star ย้อนความหลังครั้งได้กินไก่ทอดเกาหลีครั้งแรก ที่ก็ไม่ต่างกับความรู้สึกครั้งแรกของฉันนัก
ความออริจินอลที่เราพอจะอนุมานได้ว่าเอกลักษณ์ของไก่ทอดเกาหลีคือความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อไก่ที่สอดแทรกอยู่ภายใต้ความกรอบบางของแป้ง ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญหรือตามมีตามเกิด แต่เกิดจากการคิดและพัฒนาตั้งแต่การคัดเลือกไก่ การคลุกแป้ง การทอด บางร้านใช้วิธีทอดสองรอบเพื่อรีดน้ำมันออกให้มากที่สุด และเพื่อความกรอบขั้นสุด บางร้านทอดแล้วนำไปย่างถ่านเพื่อให้ได้ทั้งความกรอบและกลิ่นหอมของถ่าน บางร้านก็กลับกัน ย่างก่อนแล้วจึงนำไปทอด เรียกว่าเป็นศาสตร์แห่งไก่ทอดที่แต่ละร้านคิดค้นทดลองกันแบบกระทั่งจนวันนี้ก็ยังไม่หยุด
เช่นเดียวกับความหลากหลายของซอส และการแพริ่งกับวัตถุดิบอื่น ที่เป็นอีกความโดดเด่นและความสนุกในการกินไก่ทอดเกาหลี
“ร้านไก่ทอดในเกาหลีมีเป็นหมื่นๆ ร้าน ทำให้มีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ละร้านจึงต้องพัฒนาไก่ทอดที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง” กมลวรรณ สัจวงศ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทชุงมัน (ไทยแลนด์) จำกัด ย้ำ “ทั้งเรื่องการทอด รสชาติของซอส ไปจนถึงการจับคู่ไก่กับวัตถุดิบ เหมือนอย่างไก่ทอดของชุงมัน เราก็จะนำมากินคู่กับหอมในชื่อ Snow Onion เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน”
ซอสเคลือบแบบพื้นฐานที่เราอาจจะคุ้นเคยกันก็ได้แก่ ซอสการ์ลิก ซอสเผ็ด ซอสหวาน แต่ในความพื้นฐานนี้ แต่ละร้านก็มีสูตรเฉพาะที่พลิกแพลงแตกต่างกันไป ไม่รวมซอสแปลกๆ ที่หากินที่ร้านอื่นไม่ได้นอกจากร้านของตัวเอง อาทิ รสซอสซีอิ๊ว รสซอสเทริยากิ รสซอสถั่วเหลืองหมัก รสซอสเปรี้ยวหวาน รสต้นหอม ฯลฯ บางร้านแอดวานซ์ไปถึงการแพริ่งไก่กับครีมสลัดท็อปด้วยวิปครีมก็มี ทำให้การกินไก่ทอดเกาหลีไม่น่าเบื่อ ยกตัวอย่างตัวเองอีกเช่นกัน ฉันไปเกาหลีเฉียด 30 ครั้ง กินไก่ทอดเกาหลีกว่าสิบร้าน ค้นพบว่านอกจากความกรอบของแป้งกับความจุ๊ยซี่ของไก่ที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่แล้ว รสชาติของไก่ที่มากับซอสของแต่ละร้านแตกต่างกันชัดเจน ฉะนั้นเมื่อนึกอะไรไม่ออกแล้ว “กินไก่ทอดเหอะ” จึงไม่เคยเบื่อ แถมได้ตื่นเต้นกับการลุ้นว่าจะเจอไก่ทอดรสเด็ดในดวงใจเพิ่มขึ้นหรือไม่
แล้วทำไมไก่ทอดต้องคู่เบียร์
ไก่ทอดเกาหลีก็เหมือนทุกไก่ทอดในโลกที่สามารถกินกับเครื่องดื่มได้ทุกอย่าง และทุกร้านไก่ทอดก็มีหลากหลายเครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอล์และน็อนแอลกอฮอล์ไว้ให้เลือกดื่มตามใจคนกิน ว่าเฉพาะในส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีทั้งโซจู เหล้าประจำชาติเกาหลี มักกอลลี และเบียร์ แต่คนเกาหลีเขาบอกว่า “ไก่ทอดต้องกินกับเบียร์” (ถึงจะฟิน)
เราเองอาจจะไม่สามารถวิจัยแยกองค์ประกอบทางเคมีแห่งรสชาติ เพื่อสรุปได้ว่ารสและผัสสะของไก่ทอดเข้ากันดีที่สุดกับรสชาติและฟองนุ่มของเบียร์ แต่มองกันในเรื่องความรู้สึกและ ‘สตอรี่’ มันก็มีเหตุผลที่ทำไมไก่ทอดต้องคู่กับเบียร์
ส่วนหนึ่งและส่วนใหญ่ก็คือเบียร์เองก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอเมริกันที่เข้ามาในเกาหลีในยุค 70 พร้อมๆ กับที่ไก่ทอดเข้ามา เรียกว่าทั้งไก่ทอดและเบียร์คือวัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามาพร้อมกัน และเป็นเรื่องปกติที่ร้านขายไก่ทอดก็ย่อมจะต้องขายเบียร์ด้วย รสชาติแปลกใหม่ของเครื่องดื่มฝรั่งบวกความแปลกใหม่ของไก่ทอดฝรั่งจึงจับคู่กันกลายเป็นของที่ควรต้องกินต้องดื่มคู่กัน เพราะสำหรับชาวเกาหลีแล้วนั้น โซจูก็ย่อมจะต้องคู่กับหมูย่าง ไมค่อยมีใครนิยมกินหมูย่างกับเบียร์ฉันใด ก็ไม่ค่อยมีคนชอบกินไก่ทอดกับโซจูฉันนั้น
การกินไก่ทอดกับเบียร์มาบูมจนกลายเป็นป๊อปคัลเจอร์ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เกาหลี-ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมในปี 2002 ที่มีการขายไก่ทอดกับเบียร์เป็นบ็อกซ์เซ็ตหน้าสนามให้คนได้ซื้อเข้าไปกินไปเชียร์บอลไป ซึ่งจะว่าไปก็เป็นวัฒนธรรมแบบฝรั่งนั่นเอง
“คนเกาหลีนิยมดูกีฬา เขามองว่าเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง อย่างตัวแคร์เองก็ชอบไปดูเบสบอลที่เกาหลี ทุกครั้งที่ไปก็จะซื้อบ็อกซ์เซ็ตไก่ทอดกับเบียร์ที่เขาขายคู่กันหน้าสนาม เอาเข้าไปกิน กินไก่ไป ดื่มเบียร์ไป เชียร์ไป มันฟิน” คุณกมลวรรณเล่า “เวลาไปดูกีฬา โดยเฉพาะเบสบอล หน้าสนามจะเต็มไปด้วยซุ้มขายไก่ทอดกับเบียร์ แล้วทุกคนก็ซื้อเข้าไปกิน ยิ่งตอนช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 การกินไก่ทอดกับเบียร์เชียร์ฟุตบอลในสนามเป็นอะไรที่ป๊อปมาก”
“ไก่ทอดกับเบียร์มันเหมาะกับการเชียร์กีฬา” คุณเอ็ดดี้ย้ำ “มันกินง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไร แค่มือนี่แหละ หยิบขึ้นมาแทะ แล้วก็เอามือมันๆ ที่หยิบไก่ไปหยิบเบียร์ขึ้นมาซด มันได้ฟีลการเชียร์แบบมันๆ ลุยๆ”
อย่างไรก็ตาม กว่าความนิยมในไก่ทอดกับเบียร์จะขึ้นสู่จุดพีคถึงขั้นที่มีการบัญญัติศัพท์ใหม่ ‘ชิแมก’ (Chimaek) ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ ‘ชิกเกน’ (ไก่) กับ ‘แมกจู’ (เบียร์) ก็ล่วงเลยมาจนถึงปี 2013-2014 โดยได้รับอิทธิพลจากซีรี่ส์ You Who Came from the Stars ซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่เพียงทำให้โทมินจุนดังระเบิด ยังก่อกำเนิดคำว่า ‘ชิแมก’ ให้สังคมเกาหลี หลังชาวเกาหลีได้เห็นภาพนางเอกกินไก่แกล้มเบียร์ไปร้องห่มร้องไห้ไป เรียกว่าอาจจะก่อให้เกิดทั้งภาพและฟีลของการกินเพื่อเยียวยาความรู้สึก ซึ่งเมื่อชาวเกาหลีอินกันขนาดนี้ ก็แน่นอนว่าชาวโลกที่รับเคคัลเจอร์ซึ่งกำลังเริ่มไต่ระดับสูงขึ้นในช่วงนั้นก็ย่อมจะได้รับวัฒนธรรม ‘ชิแมก’ มาด้วย ผ่านทั้งซีรี่ส์และเคป๊อป
“คนที่มากินไก่ทอดกับเบียร์ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานกับวัยรุ่น” คิมฮเยซุก เจ้าของร้าน Salroman Chimac ร้านไก่ทอดเกาหลีแท้ๆ ที่เปิดมายาวนานกว่า 16 ปีที่โคเรียทาวน์ อโศก ยืนยันการแพร่ขยายของวัฒนธรรมไก่ทอดกับเบียร์ในประเทศไทย ร้านของเธอตอกย้ำคอนเส็ปต์ไก่ทอด+เบียร์ด้วยคำว่า Chimac ในชื่อร้าน และได้ต้อนรับกลุ่มลูกค้าชาวไทยวัยทำงานและวัยรุ่นที่แวะเวียนมาลองผัสสะของการกินไก่ทอดกับเบียร์แบบเกาหลีแท้ๆ
“จริงๆ แล้วไก่ทอดกินได้กับเครื่องดื่มทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องเป็นเบียร์ แต่คนเกาหลีชอบกินกับเบียร์ เวลาเหนื่อยๆ ร้อนๆ กินเบียร์เย็นๆ มันสดชื่น คนไทยเห็นจากในซีรี่ส์ก็อยากกินบ้าง”
“คนเกาหลีเขาจริงจังเรื่องไก่ทอดกับเบียร์ เราจะเห็นภาพไก่ทอดกับเบียร์อยู่ในแทบทุกสื่อ” คุณเอ็ดดี้ย้ำ “ที่เห็นชัดๆ คือในซีรี่ส์ แทบจะทุกเรื่องที่มีภาพไก่ทอดกับเบียร์ อย่างเวลาเคไอดอลไลฟ์หรือไปออกรายการต่างๆ ก็จะมีการพูดถึงไก่ทอด ร้านไก่ทอดเองก็ใช้ทั้งดาราทั้งไอดอลมาเป็นพรีเซนเตอร์ ในเกาหลี เราจะเห็นป้ายโฆษณาร้านไก่ทอด เห็นบิลบอร์ด เปิดทีวีก็เจอโฆษณาไก่ทอด เรียกว่าไก่ทอดอยู่ในชีวิตของคนเกาหลีตลอดเวลา และการกินไก่ทอดกับเบียร์ก็เป็นวัฒนธรรมการกินอย่างหนึ่งที่มันมากกว่าแค่กินอาหาร แต่เป็นเหมือนการได้เยียวยาตัวเอง”
“เราอาจจะไม่จำเป็นต้องกินไก่ทอดกับเบียร์ก็ได้” คุณกมลวรรณทิ้งท้าย “แต่การกินไก่ทอดกับเบียร์มันเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของยุคที่คนออกมาเชียร์กีฬา คนดูซีรี่ส์แล้วได้รับอิทธิพลมา อีกไม่นานมันอาจจะหายไปแล้วมีวัฒนธรรรมการกินแบบอื่นๆ มาแทน หรือมันอาจจะอยู่ไปอีกยาวนาน แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการกินที่นอกจากเรื่องของความอร่อย การจับคู่กันที่ลงตัว แล้วก็ยังมีเรื่องของอารมณ์ จิตใจ ความรู้สึกมาเกี่ยวข้องด้วย…
“ถ้าอยากรู้ว่ากินไก่ทอดกับเบียร์ฟินแค่ไหน ฟินยังไง ต้องมาลองค่ะ”
ขอบคุณ: ร้าน Choongman Chicken / ร้าน Salroman Chimac