อาหารในหนังเป็นเพียงมายา เบื้องหลังความน่ากินที่อาจกระเดือกไม่ลง

22,574 VIEWS
PIN

image alternate text
ยอมรับมาซะดีๆ ว่าหลายคนเคยหลงกลกับอาหารในหนังหรือซีรีส์ที่ทำออกมาน่ากินจนเผลอน้ำลายสอไปกับมัน ยิ่งถ้าคุณมีอาการนี้กับหนังฮอลลีวูดหรือซีรีส์อเมริกัน คุณเสร็จ food stylist เข้าให้แล้ว

ที่นั่นมีตำแหน่งนี้แยกออกมาต่างหาก หน้าที่หลักๆ ของตำแหน่งนี้คือการทำอาหารเพื่อประกอบฉากโดยเฉพาะนั่นเอง

ทำไมต้องแยกตำแหน่งนี้ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว? ถ้าตัวละครต้องกินปลาดิบก็แค่หาปลาดิบมาให้นักแสดงกินเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ? จุดนี้ต้องทำความเข้าใจนิดว่า ยิ่งถ้าเป็นหนังฮอลลีวูดที่เป็นกระบวนการระดับอุตสาหกรรมใหญ่โต แต่ละฉากนั้นไม่ได้ผ่านกันไปได้ง่ายๆ มันต้องเตรียมการให้พร้อม ถ่ายแล้วถ่ายอีก ดังนั้นมันจึงอาจส่งผลต่อความสดของอาหาร สภาพของมันอาจบอบช้ำเกินกว่าจะดูน่ากิน food stylist จึงต้องออกแบบอาหารในฉากให้พร้อมเสมอสำหรับการเข้าฉาก และยิ่งถ้าตัวละครต้องกินมันเข้าไปในฉากนั้นด้วย ยิ่งต้องปลอดภัยว่ามันสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต

ในอดีต หน้าที่นี้เป็นของ prop master หรือแผนกที่หาอุปกรณ์ประกอบฉาก เมื่อต้องมีอาหารเข้าฉาก เขาก็แค่ไปหาอาหารจริงๆ มา หรือไม่ก็ให้เมียที่บ้านทำมาให้ ไม่ซับซ้อนอะไร ก่อนที่มันจะคลี่คลายจนเกิดมาเป็นแผนก food stylist ตามข้อจำกัดการทำงานอย่างที่เล่าข้างต้น เมื่อช่วงปลายยุค 80 ถึงต้นยุค 90 ที่ผ่านมา

คริส โอลิเวอร์

อันดับแรกของคนที่มาทำหน้าที่ food stylist ในหนัง คือ ทุกคนจะต้องมีความรู้ด้านอาหารและวัตถุดิบเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าอาหารที่อยู่ในหนังจะไม่ต้องแคร์ความอร่อยมากก็ได้ แต่สิ่งที่ปรากฏหน้าจอมันต้องดูอร่อยและกินได้จริง

คริส โอลิเวอร์ food stylist ที่น่าจะงานชุกที่สุดในฮอลลีวูดแล้ว เธอก็เริ่มจากการเรียนทำอาหาร ก่อนจะเข้าไปเตรียมอาหารสำหรับคนในกองถ่าย จากนั้นจู่ๆ ก็ได้รับโอกาสพร้อมเงินก้อนโตให้เตรียมอาหารเข้าฉาก และหลังจากนั้นเธอก็ยึดอาชีพนี้เรื่อยมา จนสามารถเปิดเว็บไซต์ Hollywood Food Stylist ซึ่งนอกจากเป็นที่รวบรวมผลงานแล้วยังให้ความรู้แก่คนทั่วไปด้วย

ซูซาน สปันเกน 

หรือ ซูซาน สปันเกน food stylist ในหนัง Julie & Julia กับ Eat, Pray, Love ก็เคยเป็นบรรณาธิการตำราอาหารของ มาร์ธา สจ๊วร์ต มาเป็นสิบปี ก่อนจะมาทำ food stylist กล่าวคือ มันเป็นตำแหน่งที่เรียกร้องทักษะการทำอาหารสูงพอๆ กับการเป็นเชฟในร้านอาหารดังๆ เพียงแต่นำมาพลิกแพลงเพื่อใช้ประโยชน์ทางภาพยนตร์นั่นเอง

ภาพยนตร์เรื่อง Julie & Julia 
ภาพยนตร์เรื่อง Eat, Pray, Love

เชลลี แอนเดอร์สัน food stylist ในวงการโฆษณาที่ผ่านงานโหดอย่าง Burger King เล่าว่า “นอกจากคุณจะทำอาหารเป็นแล้ว ตำแหน่งนี้ยังเรียกร้องความคิดสร้างสรรค์ และสามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้ดีด้วย”…และต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของความหฤหรรษ์ในการทำงาน food stylist หนัง, ซีรีส์ และโฆษณา ที่เรารวบรวมมาให้อ่านกันสนุกๆ

ภาพยนตร์เรื่อง Chef
ภาพยนตร์เรื่อง Chef
  • ด้วยความที่หนังต้องถ่ายเป็นสิบๆ เทคต่อหนึ่งฉาก จึงทำให้ food stylist ต้องเตรียมอาหารให้เพียงพอต่อการถ่ายทำตลอดเวลา เช่น ในหนังเรื่อง Chef ของ จอน แฟฟโร มีอาหารที่เป็นพระเอกคือ แซนด์วิชคิวบา ทำให้ เมลิสซา แม็กซอร์เลย์ food stylist ของหนังต้องเตรียมมันมากถึง 800 ชิ้นเพื่อเข้าฉาก หรือ คริส โอลิเวอร์ ต้องเตรียมไก่งวงเป็นสิบตัว เพื่อเข้าฉากวันขอบคุณพระเจ้าในเรื่อง Little Fockers เพราะเฉือนทีก็ต้องเปลี่ยนตัวใหม่ที
ซีรีส์ Hannibal
ซีรีส์ Hannibal
เจนิซ ปูน
  • ในซีรีส์ Hannibal ซึ่งฮันนิบาล เลกเตอร์ เอาเนื้อมนุษย์มาทำอาหาร สิ่งที่ เจนิซ ปูน food stylist ต้องทำคือศึกษาอนาโตมีมนุษย์อย่างละเอียด แล้วมิกซ์แอนด์แมทช์เนื้อสัตว์ชนิตต่างๆ มาประกอบเข้ากับกระดูกสัตว์ที่แตกต่างกันไป เช่น ส่วนขาก็ใช้ท่อนกระดูกจากลูกวัวแต่พอสไลซ์แล้วก็ใช้แฮมแทน จนเธอเปรียบตัวเองว่าเป็นแฟรงเกนสไตน์
ภาพยนตร์เรื่อง The Guilt Trip
  • สำหรับ คริส โอลิเวอร์ แล้ว แตงโม ช่วยชีวิตเธออยู่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งเธอใช้มันแทนเนื้อทูน่าในการถ่ายซูชิให้ดูสดใหม่ กับอีกครั้งเธอใช้มันไปย่างและเอามาใช้แทนสเต๊กให้ บาร์บรา สไตร์แซนด์ กิน ในหนัง The Guilt Trip เพราะฉากนั้นถ่ายเป็นสิบเทค ซึ่งนักแสดงกินไม่ไหวถ้าต้องใช้เนื้อจริง
ภาพยนตร์เรื่อง Master of Sex
  • ในหนัง Master of Sex มีฉากที่นักแสดง โบ บริดเจส ต้องกินไข่ดาว แต่ปัญหาคือเขาเป็นมังสวิรัติ สิ่งที่โอลิเวอร์แก้ปัญหาคือใช้เต้าหู้กับมะม่วงสุกทำให้เป็นของเหลว และใช้เทคนิค Molecular Gastronomy (วิธีทำให้ของเหลวกลายเป็นก้อนเด้งๆ) มาสร้างไข่ดาวเทียม
  • ไอศกรีม เป็นอาหารปราบเซียนสำหรับการถ่ายทำ เพราะมันละลายง่ายมาก สิ่งที่ food stylist แก้ปัญหากันคือใช้เนยผสมน้ำตาลทรายแล้วใช้เทคนิคทางวิชาเคมีในการประสานมันให้ออกมาในรูปของไอศกรีม เพราะฉะนั้นถ้ามีฉากไหนที่ตัวละครเลียไอศกรีม นั่นหมายความว่าส่วนใหญ่พวกเขาเลียเนยสดกันอยู่จ้ะ
  • บางทีเค้กในหนังก็ใช้โฟมเนื้อละเอียดแทนแป้งจริงๆ ตราบใดที่ตัวละครไม่ต้องเอามันเข้าปาก
ภาพยนตร์เรื่อง Big Little Lies
  • ไม่ว่าอะไรที่ต้องเข้าปากนักแสดง food stylist ก็ต้องทำมันออกมาให้ปลอดภัยต่อชีวิต และหากเป็นไปได้ก็ควรมีรสชาติที่ดีด้วย อย่างเช่น อ้วก ในซีรีส์ Big Little Lies ที่ รีส วิเธอร์สปูน ต้องบ้วนออกมา คริส โอลิเวอร์ เลือกใช้แตงกวาผสมกับพาร์สลีย์บดเข้าด้วยกันให้ออกมาเขียวอี๋อย่างที่ผู้กำกับต้องการ หรือในหนังสงครามเรื่องหนึ่งที่มีตัวละครต้องกินดินเข้าไป เธอนำเข้าตัวอย่างดินจากปากีสถาน (ฉากหลังในหนัง) แล้วบดโอริโอกับแครกเกอร์ผสมน้ำตาลแดงและน้ำตาลทราย ให้ออกมาเป็นดินแบบที่ต้องการ ก่อนจะเอาไปให้นักแสดงกิน และใน The Master ที่ วาคิน ฟีนิกซ์ นักแสดงสาย method เรียกร้องให้ตัวเองตาแดงจริงๆ ตามท้องเรื่อง ก็เป็นโอลิเวอร์นี่แหละที่บีบน้ำมะนาวเข้าตาเขา

ดังนั้นขอบเขตของ food stylist ในหนัง จึงไม่ใช่แค่ทำอาหารเข้าฉากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอะไรต่อมิอะไรที่จะต้องเข้าสู่ร่างกายนักแสดงด้วย เป็นอีกหนึ่งอาชีพรายได้ดีของฮอลลีวูดที่ท้าทายทักษะและความรู้ของคนรักการทำอาหารเป็นอย่างยิ่ง และเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีการแข่งขันสูงในทุกวันนี้เลยทีเดียว

 

ข้อมูลประกอบบทความ

https://mentalfloss.com/article/524141/secrets-hollywood-food-stylists
https://www.hopesandfears.com/hopes/city/food/214499-hannibal-food-stylist-interview
https://www.npr.org/sections/thesalt/2015/02/18/385236806/hollywood-food-stylists-know-you-cant-film-styrofoam-cake-and-eat-it-too
https://www.tribecafilm.com/stories/movie-food-stylist-tells-all

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS