หลังจากเราชิม ‘ข้าวแกงกะหรี่’ เมนูต่างๆ ของร้าน Freddie RiceCurry ก็พบว่าความเผ็ดร้อนเหล่านั้นได้ทำปฏิกิริยาบางอย่างกับร่างกาย คล้ายเป็นการท้าทายให้นำไปสู่การทดลองจานต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน นี่กระมังที่เป็นลายเซ็นเฉพาะของร้านซึ่งไม่จำกัดเฉพาะแค่รสชาติอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นความโจนทะยานน่าค้นหา อันสะท้อนมาตั้งแต่ชื่อร้าน เมนู จนกระทั่งแฟนเพจ ที่เหมือนจะได้รับจิตวิญญาณมาจาก เฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี่ นักร้องนำวง Queen แต่ในความเป็นจริงอาจมีส่วนถูกแค่ 30% เท่านั้น เพราะที่เหลือมันเกิดจากลูกบ้าเที่ยวล่าสุดล้วนๆ
Freddie RiceCurry เป็นชื่อร้านที่ตั้งใจล้อเลียน เฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี่ ผู้เป็นตำนาน ภัคพันธุ์ สมัครสมาน เจ้าของร้านเล่าว่าเขาเองก็ไม่ได้เป็นแฟนเพลงวง Queen ระดับเดนตายแต่อย่างใด มันเกิดจากการเสิร์ชชื่อสุดเชยของฝรั่งที่มีชื่อ ‘เฟร็ดดี้’ พ่วงท้ายมาด้วย
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2020/06/ArticlePic-006-30.jpg)
“พอพูดถึงชื่อนี้เราก็จะนึกถึง เฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี่ ซึ่งมันก็ลิ้งค์กับ curry ก็คือข้าวแกงกะหรี่ที่เราจะทำ แล้วก็บังเอิญอีกว่าเราไปเจอมีมเป็นเชฟที่หน้าเหมือน เฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี่ ทำอาหารอยู่ คนเขาก็โพสต์เล่นโพสต์แซวอยู่ในเน็ตอยู่แล้ว เราก็เลยเอามีมนั้นไปโพสต์เล่นๆ ว่าเชฟพร้อมขายแล้ว ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย จู่ๆ คนก็แชร์ไปเร็วมาก น่าจะประมาณห้าร้อยแชร์ในวันเดียว จนคนคิดว่าเชฟคนนี้จะมาทำอาหารให้เรา เลยต้องไปอธิบายยกใหญ่ พอเริ่มจากอันนั้นเราก็เลยเริ่มได้ไอเดียว่าคนเขาชอบอะไรตลกๆ เราน่าจะยึดแนวทางร้านให้เป็นแนวตลกได้”
ใช่แล้ว Freddie RiceCurry เป็นร้านข้าวแกงกะหรี่ที่วางแนวทางชัดเจนเป็นสายตลก ซึ่งทั้งหมดล้วนถ่ายทอดออกมาในแฟนเพจ ที่ส่วนมากไม่ได้ชูเมนูอาหารเป็นพระเอกเท่าไรนัก ทว่าใช้ความเป็นข้าวแกงกะหรี่ของตนนำไปสู่การแซะและจิกกัดเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียลขณะนั้น
“ผมเป็นคนที่เข้ากลุ่มมีมเยอะ แล้วมันก็จะมีอะไรอัปเดตกับเหตุการณ์บ้านเมืองพอสมควร ถ้าเราหยิบมาเล่นในช่วงที่กำลังเป็นกระแสคนก็จะอินง่าย แชร์ง่าย มันก็ต้องอัปเดตมีมให้ทัน ส่วนใหญ่มีมจะไม่ค่อยอยู่ในวงการอาหารด้วย แต่มันจะอยู่ในชีวิตประจำวัน พอเราเล่นบ่อยๆ คาแรกเตอร์เราก็ชัด
“อย่างตอนนั้นนายกเขาแจกเงิน 500 บาท ผมก็เลยทำโพสต์แซวๆ ไปว่าช่วยคิดเมนูให้หน่อย ใครชนะจะแจก 500 บาท คนก็มาช่วยคิดกันเยอะแม้แต่พี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เขาก็แชร์ไป ก็มาได้เป็นเมนูใหม่ ข้าวแกงกะหรี่กะเพราเป็ดหนังกรอบ”
ในอดีต ภัคพันธุ์เป็นพนักงานบริษัทโฆษณาในตำแหน่งกราฟิกดีไซเนอร์ ที่นำรายได้รายเดือนไปลงกับร้านอาหารจนแทบหมดตัว แต่ก็ไม่วายที่จะต่อยอดทำธุรกิจด้านอาหารต่อ จึงเกิดดำริข้าวแกงกะหรี่ที่เดิมทีตั้งใจจะบริการเดลิเวอรี่เพียงอย่างเดียว
“ก่อนหน้านี้เราเคยทำร้านอาหารก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ หมดเนื้อหมดตัวไปเยอะพอสมควร คือเราหาเงินเอาไปลงร้านอย่างเดียว เอ๊ะ ไอ้แกงกะหรี่เราก็ชอบกินนะแต่ไอ้ร้านดังๆ เขาไม่ส่งเดลิเวอรี่เลย โปรเจ็กต์นี้น่าสนใจ อย่างน้อยถ้ามันไปไม่รอดเรายังเปลี่ยนแนวทางได้
“แต่เอาจริงๆ นะ ข้าวแกงกะหรี่ในเมืองไทยยังมีน้อย แล้วส่วนใหญ่ก็อยู่กันมาเกิน 15-20 ปีแทบทั้งนั้น หรือร้านใหม่ๆ ก็จะเป็นแฟรนไชส์จากญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นในจุดที่เรายืนก็แทบไม่ต้องไปแข่งกับใคร”
Freddie RiceCurry เปิดให้บริการเดลิเวอรี่เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2562 แต่ด้วยสายตลกที่ร้านยึดมั่นมาตั้งแต่ต้นทำให้ร้านได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีมที่ภัคพันธุ์ชงเองตบเองในแฟนเพจส่งผลให้เกิดหน้าร้านที่ปากซอยลาดพร้าววังหิน 34 เพื่อรองรับลูกค้าซึ่งเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายนปีเดียวกัน
แต่ไม่ใช่แค่ความตลกหรอกที่ทำให้ได้รับความนิยม เมนูสุดท้าทายนั่นต่างหากที่เป็นเหตุผลหลัก เพราะมันแตกต่างจากข้าวแกงกะหรี่ทั่วไป อาทิ ข้าวแกงกะหรี่หมูกรอบผัดพริกเกลือ, ข้าวแกงกะหรี่หมูสับผัดไข่เค็ม และข้าวแกงกะหรี่คอหมูย่าง จนมีคนมาคอมเมนต์ว่าสำหรับร้านนี้ “อะไรก็ใส่ในแกงกะหรี่ได้หมด” ก่อนที่ภัคพันธุ์จะไปตอบติดตลกตามสไตล์ว่า “ไม่ใช่อะไรก็ใส่ในแกงกะหรี่ได้ อันไหนไม่ได้กำไรเราก็ไม่ใส่”
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2020/06/ArticlePic-008-19.jpg)
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2020/06/ArticlePic-007-27.jpg)
หลังจากที่เราฟังภัคพันธุ์เล่าวิธีคิดในการจับคู่เมนูอาหารกับข้าวแกงกะหรี่ ดูเหมือนจะมีศิลปะมากกว่าที่เขาตอบคอมเมนต์หลายเท่านัก
“ตอนแรกก็คิดจากเมนูธรรมดาพวกแกงกะหรี่หมูทอดทั่วไป ไปถามเพื่อนก่อนว่าใครชอบกินบ้าง ส่วนใหญ่บอกว่าไม่ชอบ เราก็ถามเจาะไปอีกว่าทำไมไม่ชอบ เขาบอกว่ามันเลี่ยน มันครีม มันเนย เลยมาคิดแกงกะหรี่ที่มันไม่เลี่ยน ไม่ครีม ไม่เนย อย่างปกติแกงกะหรี่เขาจะใส่มันฝรั่ง เราไม่ใส่ เราใส่พวกผลไม้รสเปรี้ยว ใส่พริก อะไรพวกนี้แทน มันก็เลยจะไม่ค่อยมีความเป็นญี่ปุ่นเท่าไร แต่จะมีความเป็นอินเดียมากขึ้น เพราะเครื่องเทศมันจะชัดขึ้นมา
“เมื่อไอเดียตั้งต้นเราเป็นแบบนั้นว่าแกงกะหรี่เราจะต้องไม่เลี่ยน ทำแกงกะหรี่ให้คนที่ไม่อยากกินมากิน เพราะคนที่เขากินอยู่แล้วก็จะมีร้านประจำ เราเลยเริ่มจากเมนูที่คนไทยรู้จักและเป็นเมนูขายดีขึ้นมาชูก่อน ตอนแรกเราจะเอาแกงกะหรี่หมูกรอบเพราะมันขายดี แต่ไอ้ครั้นจะเอาหมูกรอบมาเลยมันก็ขัดกับคอนเซ็ปต์ที่จะทำให้มันไม่เลี่ยน เลยเอาหมูกรอบไปผัดพริกเกลือให้มันไม่เลี่ยน เป็นการพลิกแพลงมันไม่ให้เป็นแกงกะหรี่ธรรมดา
“จริงๆ ในอาหารเราไม่ได้ตลกเลย เป็นอาหารเบสิก เป็นเมนูที่คนไทยชอบกินอยู่แล้ว ค่อยเอามามิกซ์กับข้าวแกงกะหรี่ของเรา ทีนี้พอเป็นภาคพรีเซนต์เราก็จะทำให้มันดูตลก อย่างหมูสับผัดไข่เค็มเราก็จะพรีเซนต์ว่าร้านไหนไม่มีไข่เค็มก็เหมือนเชยในวงการร้านอาหาร ที่จริงก็แอบกัดว่าทุกร้านมันต้องมี… ปกติผมเป็นคนชอบทำอาหาร จริงๆ มีทำกับเพื่อนอีกคนที่เป็นเชฟ เราคิดเมนูมากองๆ ไว้ก่อนแล้วเอามาชิม พยายามจะไม่ให้มันกระโดดจากกันเยอะ อย่างไข่เค็มเราก็พยายามจะให้เนื้อทรายของไข่เค็มมาทำให้มันนวลไปกับแกงกะหรี่ ก็ต้องลองชิมทุกอันว่าถ้าเรากินรวมกันแล้วรสชาติมันตีกันหรือเปล่า”
จุดแข็งของร้าน Freddie RiceCurry คือการสื่อสารที่ชวนติดตาม ประกอบการคิดค้นเมนูอาหารที่หวังผลทางด้านการตลาด เหล่านี้อาจเป็นการสรุปได้ว่าเกิดจากข้อได้เปรียบของผู้บริหารร้านที่มีทักษะการสื่อสารด้านการตลาดเป็นทุนเดิม ก่อนจะแปลงประสบการณ์เหล่านั้นมาอยู่ในอาหารจนเกิดเป็นไวรัลเล็กๆ ที่สร้างผลลัพธ์เป็นยอดขาย
“ผมว่ามันเป็นข้อได้เปรียบนะครับ อย่างเมื่อก่อนผมรับงานมาชิ้นหนึ่ง กว่าเขาจะโยนโจทย์มา กว่าเราจะเริ่มทำ อย่างน้อยก็ใช้เวลา 2-3 วัน แต่อันนี้เราทำ 2-3 นาทีก็โพสต์เลย” ภัคพันธุ์นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง “อาจเพราะเป็นร้านเราเองก็เลยคิดน้อยด้วยแหละ” เมื่อมาถึงตรงนี้เราถึงกับหลุดขำเสียอาการ
ด้วยจุดเริ่มต้นของร้านที่พยายามจะทำข้าวแกงกะหรี่ไม่เลี่ยน ไม่มัน ไม่เนย เลยทำให้น้ำแกงกะหรี่ที่ใช้ราดในเกือบทุกเมนูของร้านมีความบางเบาแต่ก็เผ็ดร้อนในที ขณะที่เมนูซึ่งนำมาจับคู่กับแกงกะหรี่นั้นมีรสชาติจัดจ้าน จะกินแยกก็ถึงใจ แต่กินรวมกันก็ไปกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ นั่นทำให้ข้าวแกงกะหรี่ของ Freddie RiceCurry มีลูกเล่นน่าสนุกซุกซ่อนอยู่ในทุกเมนู เฮฮาไม่แพ้หน้าตาที่ปรากฏในเนื้อหาของแฟนเพจเท่าไรนัก