เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar
STORY BY เชฟน่าน | 01.03.2023

714 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
Workshop ‘Homebrewer Coffee Drip’ ตามหากาแฟที่เราชอบ

Workshop ‘Homebrewer Coffee Drip’ ที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจกาแฟดริป หรือกำลังป้วนเปี้ยนกับร้านกาแฟประเภทที่เรียกว่า Specialty Coffee สำหรับคนที่มือลั่นกดซื้ออุปกรณ์ดริปมาแล้วแต่ยังไม่รู้จะใช้มันยังไง และที่แน่ๆ สำหรับทุกคนที่ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ แค่ได้เข้าไปคุยกับคุณต้น แห่ง GUIDA Drip Bar ก็ทำให้ผมรู้สึกว่า กาแฟแก้วต่อไปมันจะอร่อยและสนุกขึ้นยังไงไม่รู้ 

ผมเริ่มต้นดื่มกาแฟจากร้านโกปี๊รถเข็น กาแฟเย็นหวานมันบ้าง โอเลี้ยงรสเข้มข้นบ้าง แล้วค่อยๆ พัฒนามาเป็นกาแฟสดอย่างลาเต้ จนมาถึงวันนี้ที่เลือกดื่มอเมริกาโน่แบบไม่หวาน โลกของกาแฟโลกเดิมที่เปลี่ยนจากกาแฟสำเร็จรูป พัฒนามาเป็นเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิกา จนวันนี้การดื่มกาแฟในประเทศไทยได้พัฒนาไปอย่างมาก มีเมล็ดกาแฟมากมายให้เลือก มีวิธีการโพรเซส (process) เมล็ดกาแฟหลายแบบเพิ่มขึ้น จนทำให้เราในฐานะผู้บริโภคทั้งงงและทึ่งกับความสร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่งของผู้ผลิต ผมว่าการดื่มกาแฟในยุคนี้สนุกขึ้นเยอะเลย แล้วมันจะสนุกขึ้นไปอีกถ้ามีเนิร์ดกาแฟสักคนมาพูดคุยกับเรา

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

กาแฟที่อร่อย คือกาแฟที่เราชอบ คุณต้นบอกผมด้วยสายตาเป็นประกายของคนรักกาแฟเข้าเส้น

คำถามก็คือ “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่า เราชอบกาแฟแบบไหน?” 

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

ผมมีโอกาสได้พบกับ คุณต้น ศีลภัทร ตั้งสุขนิรันดร จาก GUIDA Drip Bar คุณต้นนิยามตัวเองสั้นๆ ว่า เขาเป็น Homebrewer ที่อยากให้ทุกๆ คนดื่มกาแฟอร่อยขึ้นทุกที่ทุกเวลา รายละเอียดของกิจกรรมคือการมาดริปกาแฟสัก 1 แก้ว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จริงๆ แล้วการดริปกาแฟจะใช้เวลาในขั้นตอนดริปเพียงแค่ 2 นาที อะ ผมรวมเวลาบดเมล็ดกาแฟและรวมเวลาดื่มด้วย อย่างมากก็ไม่เกิน 15 นาทีละมั้ง แล้วเราไปทำอะไรกันตั้ง 90 นาที คำตอบคือ ไปท่องโลกของกาแฟยังไงล่ะ เพื่อให้เรารู้จักและสนุกกับโลกของกาแฟมากขึ้น และสามารถตอบคำถามสุดท้ายได้ว่า ‘เราชอบกาแฟแบบไหนกัน’

โลกของกาแฟช่างใหญ่โตมโหฬารและมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จากที่ผมเคยรู้จักโลกของกาแฟเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนี้มันไปไกลและล้ำกว่าเดิมมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก คัดสายพันธุ์ การบ่ม การคั่ว ตลอดจนการชง กาแฟไม่ใช่เครื่องดื่มสีดำขมๆ อีกต่อไป มันมีสเปคตรัมที่กว้างขวางน่าสนใจ สีสัน และรสชาติที่หลากหลายลุ่มลึก จนผมกล้าพูดได้ว่า 

“ทุกคนน่าจะมีเมล็ดกาแฟที่ชื่นชอบได้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ดื่มกาแฟก็ตาม”

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

คำศัพท์ขั้นพื้นฐานสำหรับมือใหม่อย่างผม

Coffee Bean คือเมล็ดกาแฟ สายพันธุ์หลักสำหรับกาแฟดริปก็คืออาราบิกา (Arabica)

Process คือกระบวนบ่มหรือจัดการเมล็ดกาแฟ หลักๆ ที่ผู้บริโภคอย่างเราควรจะรู้ก็คือ Natural และ Washed กระบวนเนเชอร์รัล คือการตากแห้งเมล็ดกาแฟ ส่งผลให้เมล็ดกาแฟมีความโดดเด่นในเรื่องความหนักแน่นและเข้มข้นของรสชาติ ส่วนกระบวนการวอช คือการนำไปล้างก่อน ซึ่งจะช่วยให้เกิดความรู้สึกอ่อนโยนและสะอาดมากขึ้น จริงๆ แล้วกระบวนการก็มีมากกว่านี้อีกนะครับ เช่น เพิ่มการบ่มในถังเหล้ารัมบ้าง เอาจุลินทรีย์จำพวกยีสต์หรือโกจิเข้าไปบ่มเพิ่มบ้าง เพื่อสร้างสีสันและรสชาติใหม่ๆ ให้เมล็ดกาแฟ วิธีการโพสเซสกาแฟจึงมีความสำคัญต่อรสชาติของเมล็ดกาแฟเป็นอย่างมาก

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

Origin & Taste Note ผมรวมสองคำไว้เป็นหัวข้อเดียวกันเลย เนื่องจากแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟมีความสำคัญมากต่อกลิ่นและรสชาติ ออริจินคือแหล่งปลูกเมล็ดกาแฟ แหล่งปลูกที่ดีในโลกนี้มีหลายที่ด้วยกัน แต่ที่เรารู้จักนิยมกันในเมืองไทยก็คือ Ethiopia, Brazil, Columbia, Costa Rica, Guatemala เมล็ดกาแฟจากดอยไทยเองก็คุณภาพดีเช่นกัน ติดตรงที่พื้นที่ปลูกมีความสูงชันแบบยอดเขาสูง ทำให้ต้นทุนในการดูแลสูงตามไปด้วย ผลผลิตที่ได้จึงมีปริมาณน้อย ถ้าอยากชิมคงต้องหาโรงคั่วดีๆ ที่รับเมล็ดกาแฟโดยตรงจากดอยต่างๆ (ติดตามป้ายยาโรงคั่วได้ที่ท้ายบทความ)

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

ส่วนเทสโน้ตก็คือรสชาติที่เมล็ดกาแฟแต่ละชนิดจะให้ได้ เพื่อเป็นภาษากลางที่เราจะเข้าใจตรงกัน ยกตัวอย่างเช่น เมล็ดกาแฟจากบราซิลจะให้เทสโน้ตออก Nutty, Chocolate เมล็ดกาแฟเอทิโอเปียจะให้เทสโน้ตออก Floral, Fruity, Lemony เราสามารถเลือกทดลองเมล็ดกาแฟที่เราชอบผ่านข้อมูลในเรื่องProcessing, Origin, และ Taste Note เหล่านี้ได้

จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการดริปกาแฟ บอกทุกคนอย่างนี้ครับ การได้มาดริปกาแฟกับคุณต้น ทำให้ผมเข้าใจหลักการดริปในลักษณะการอธิบายแบบวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุเป็นผลกันขึ้นเยอะเลย ผมขอเอาเกร็ดที่ผมชอบมาเล่าสู่กันฟังเป็นบางอย่างละกันนะครับ ส่วนใครอยากเรียนรู้กระบวนดริปกาแฟทั้งหมดคงต้องไปลองเรียนกับคุณต้นเอง

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

สัดส่วนเมล็ดกาแฟต่อน้ำในการดริปแต่ละครั้งให้ตั้งต้นที่ เมล็ดกาแฟ 1 ส่วน ต่อน้ำ 15 ส่วน ยกตัวอย่างเช่น เมล็ดกาแฟ 16 กรัม ต่อน้ำ 240 กรัม จากนั้นถ้าใครอยากได้กาแฟที่เข้มขึ้นก็สามารถปรับน้ำลงได้ถึง 10 กรัมเป็นต้น ใครรู้สึกเข้มเกินไปก็เพิ่มน้ำทีละน้อยได้เช่นกัน 

บดเมล็ดกาแฟเมื่อจะทำการดริปเพื่อให้คงกลิ่น aroma ให้มากที่สุด ความละเอียดควรจะประมาณเกล็ดน้ำตาลทราย หรือดูจากเวลาในการดริปกาแฟ 1 แก้วที่ใช้น้ำ 240 กรัม ควรจะใช้เวลาประมาณ 2 นาทีเมล็ดกาแฟที่ละเอียดมากจะอุ้มน้ำและใช้เวลานานขึ้นในการดริป ส่วนเมล็ดกาแฟที่หยาบไปจะใช้เวลาน้อย

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

อุณหภูมิของน้ำที่จะดริปเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ประมาณ 89 ถึง 92 องศาเซลเซียสซึ่งมีความละเอียดของอุณหภูมิมากๆ คุณต้นเล่าว่า ถ้าได้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีมากๆ เขาจะเลือกใช้อุณหภูมิที่สูงหน่อยเพื่อจะได้สกัดกลิ่นและรสของกาแฟออกมาอย่างเต็มที่ ส่วนกาแฟที่คุณภาพรองลงมาก็จะใช้อุณหภูมิต่ำลง รสชาติและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จะได้ออกมาน้อยหน่อย

สัดส่วนในการแบ่งดริปน้ำมีความเป็นศิลปะ น้ำแรกประมาณ 60 กรัมมีไว้เพื่ออุ่นเมล็ดกาแฟและไล่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่คงเหลือในเมล็ดออกไป ช่วงน้ำที่สอง 60 กรัมจะสกัดรสชาติ acidity หรือความเป็นกรดของกาแฟออกมา

ระหว่างเทน้ำไม่ควรปล่อยให้กาแฟแห้ง เมื่อเห็นว่าน้ำกำลังงวดลงแล้วควรเทน้ำต่อทันที *เรื่องนี้คุณต้นเน้นย้ำเป็นอย่างมาก

สิ่งเหล่านี้ที่เชฟน่านสาธยายมาเป็นเพียงส่วนน้อยนิด ที่คุณต้นได้ไปพาท่องเที่ยวในโลกกาแฟระหว่างทำ Coffee Dripping Workshop การได้พูดคุยซักถามกับสายเนิร์ดกาแฟระดับนี้สนุกและได้ความรู้มาก ได้เห็นถึงความตั้งใจ พิถีพิถัน ของทุกคนในกระบวนการทำกาแฟ ตั้งแต่เกษตกร คนคั่ว จนมาถึงคนชง เรียกได้ว่ามีความตั้งใจสูงมากที่อยากทำให้กาแฟที่ผ่านมือตัวเองสมบูรณ์แบบที่สุด 

การดริปกาแฟเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะพาเราท่องเที่ยวไปในโลกของกาแฟ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากสัมผัสประสบการณ์ดริปกาแฟแบบผมบ้างสามารถสอบถามไปที่ GUIDA Drip Bar หวังว่าจะได้เจอเมล็ดกาแฟในดวงใจนะครับ สำหรับผม ขอเป็น Ethiopia & Nicaragua Blend, Natural process จากโรงคั่ว Lot61 ถูกใจใช่เลย

ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar
ดริปกาแฟ, กาแฟ, Workshop Coffee Drip, Workshop ดริปกาแฟ, หัดดริปกาแฟ, how to ดริปกาแฟ , เปิดโลกแห่งกาแฟดริป ดินแดนที่ทุกคนจะมีมุมกาแฟเป็นของตัวเอง กับ GUIDA Drip Bar

GUIDA Drip Bar 

ลงมือดริปและชิมกาแฟในบาร์บรรยากาศเป็นส่วนตัว ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็มาได้ ทางบาร์เตรียมอุปกรณ์ เมล็ดกาแฟ และ instructor ไว้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เปิดเฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์ 
Session ละ 60-80 นาที
นัดเวลาล่วงหน้าที่

Line: @guidacoffee FB: fb.com/guidadripbar

บาร์อยู่ที่โครงการ The Racquet Club สุขุมวิท 49 ตึกหนึ่ง ชั้นสอง ห้อง RQ1201

ป้ายยาโรงคั่วเมล็ดกาแฟ

  • Halo เหม่งจ๋าย
  • Fat Belly เหม่งจ๋าย
  • Wela Coffee Room (รามคำแหง)
  • Nana Coffee Roasters (เลยโรงเหล้าแสงจันทร์)
  • Tanakhem Coffee Roaster(ออนไลน์)
  • Roots Coffee (หลายโลเคชันในกรุงเทพ)
  • Gem Forest Coffee (น่าน)
  • Factory Coffee (พญาไท)
  • Lica Coffee Estate
  • Preda Roasting House (ลำปาง)
  • Nine-One Coffee (เชียงใหม่)
  • Akha Ama Coffee (เชียงใหม่)
RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS