ทำไมอาหารในการ์ตูนญี่ปุ่นจึงชวนน้ำลายสอ?

7,188 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
เคยกลืนน้ำลายเอื๊อกให้กับการ์ตูนในอาหารบ้างไหม ชวนมาไขข้อสงสัยทำไมอาหารในการ์ตูนญี่ปุ่นจึงชวนหิวนัก ทั้งที่ไม่มีกลิ่นและรส

ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น ก็ต้องยอมให้เรื่องความจริงจังในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กระทั่งกับเรื่องเด็กๆ อย่างการ์ตูน เมื่อรวมกับความจริงจังของชนชาตินี้แล้ว ก็กลายเป็นสินค้าและวัฒนธรรมส่งออกที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นมังงะ (Manga – การ์ตูนเล่ม) และอนิเมะ (Anime – การ์ตูนแอนิเมชัน) ส่งผลให้ความเป็นญี่ปุ่นครองใจคนทั่วโลกได้ในแทบทุกเรื่อง และแน่นอนว่ารวมถึงเรื่องอาหารด้วย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าอาหารเมนู 2D และ 3D จากการ์ตูนญี่ปุ่นทั้งหลาย สามารถส่งผลต่อต่อมน้ำลายได้มหาศาล โดยเฉพาะภาพอาหารปรุงเสร็จใหม่ควันฉุย เบเกอรีจากเตาอบส่งออร่าสีทองพร้อมประกายวิ้งๆ จนเราแทบจะต้องหยีตามอง จากความหิวจึงกลายเป็นคำถามว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้อาหารจากโลกจินตนาการในหน้ากระดาษและหน้าจอดูน่ากินได้ขนาดนี้ หลังจากที่ดูไปอ่านไปกลืนน้ำลายไปเราจึงได้ข้อสรุปส่วนหนึ่งดังนี้

กรรมวิธีและวัตถุดิบ

ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารในการ์ตูนก็ย่อมจะไม่ธรรมดาอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับการ์ตูนญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ตำนาน การต่อสู้สู่ความเป็นแชมป์ ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นความพิถีพิถันของการเลือกวัตถุดิบ ทั้งวัตถุดิบพื้นๆ จากแหล่งที่มาเฉพาะ อย่างน้ำแร่จากเทือกเข้านั้น ผลไม้สดจากหมู่บ้านนี้ ไปจนถึงวัตถุดิบสุดแฟนซีเหนือจินตนาการ โดยมังงะและอนิเมะส่วนมากจะบอกกรรมวิธีและวัตถุดิบอย่างละเอียด แบบที่สามารถนำไปทำตามได้เลยอีกต่างหาก (แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) การที่เราค่อยๆ เห็นการเตรียมวัตถุดิบ ไปจนถึงวิธีการทำแต่ละขั้นตอนมาเรื่อยๆ กว่าอาหารแต่ละจานจะเผยโฉมได้ในตอนหนึ่งแบบนี้เอง คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราปักใจเชื่อว่าอาหารเหล่านี้ต้องอร่อยแน่ๆ ถึงจะยังไม่ได้ชิมแม้แต่คำเดียว

ความเพอร์เฟกต์

เมนูอาหารจากการ์ตูนนั้นเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ ยิ่งเมื่อเสริมด้วยเสียงและภาพเคลื่อนไหว ชิ้งง วิ้งงง ฉับ! พร้อมเสียงน้ำเดือดปุดๆ หรือเสียงโยนของทอดลงกระทะดังฉ่าาา ไปจนถึงรูปทรง สี การจัดวาง แสงเงาต่างๆ ก็ช่างดูเพอร์เฟกต์เสียนี่กระไร เพราะถูกสร้างมาจากการวาดทำให้อาหารในการ์ตูนก้าวข้ามเงื่อนไขเรื่องหน้าตา เป็นต่อเหนืออาหารจริงๆ ไปอย่างขาดลอย แน่นอนว่าความสมบูรณ์แบบเหล่านี้ยังไม่ใช่ที่สุดของคนญี่ปุ่น เพราะเหล่าแม่ครัวพ่อครัวสายมังงะยังต่อยอดความเพอร์เฟกต์ด้วยการทำอาหาร (จริงๆ) เลียนแบบอาหารในการ์ตูนเข้าไปอีกต่อหนึ่ง โอ้… มันน่ากินสุดๆ!

ช่องว่างของประสาทสัมผัส

น่าเสียดายที่ตอนนี้เรายังไม่มีหนังสือหรือจอที่สามารถส่งกลิ่นอาหารมากับเนื้อเรื่องด้วยได้ แต่หลายคนกลับบอกเราว่า นั่นแหละคือจุดแข็งของอาหาร 2D และ 3D เพราะการถูกกระตุ้นประสาทสัมผัสด้วยภาพและเสียง แต่เว้นว่างมิติของกลิ่น รส และสัมผัสไว้ให้จินตนาการของผู้ชมได้ทำงานตามแต่ความชอบของใครของมัน จึงสร้างเมนูที่ถูกใจเราสุดๆ (ใช่ – ถูกใจแบบคิดไปเอง) การได้แต่งเติมกลิ่น รส และสัมผัสในความคิดของตัวเองก็ทำให้ต้องกลืนน้ำลายเอื๊อกทุกครั้งไป

รีแอ็คชั่น

รีแอ็คชั่นจากตัวละครก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เมนูการ์ตูนน่ากินขึ้นไปอีกหลายเลเวล เหมือนเป็นเครื่องยืนยัน สนับสนุนความคิดของคนอ่านว่าเมนูที่เห็นอยู่ตอนนี้มันอร่อยจริงๆ นะ ไม่ว่าจะเป็นรีแอ็คชั่นพื้นๆ อย่าง ‘กินแล้วนะครับบบ’ หรือเสียงกินซู้ดซ้าด ท่าทางที่ใช้ตะเกียบจ้วงเอาๆ เคี้ยวแก้มตุ้ย ไปจนถึงรีแอ็คชั่นแบบเหนือระดับ ตั้งแต่กินแล้วอร่อยจนต้องร้องโหยหวน กินแล้วลอยได้ กินแล้วเปลี่ยนร่าง กระทั่งกินแล้วเดินทางได้ข้ามภพข้ามชาติ หรือบางเมนูอร่อยจนกินแล้วตายไปเลยก็มี! รีแอ็คชั่นเหล่านี้แหละที่ชวนหิวสุดๆ จนอยากมุดเข้าหน้ากระดาษไปขอชิมด้วยสักคำ

ใครยังไม่เชื่อว่าอาหารจากการ์ตูนจะกระตุ้นต่อมหิวได้จริงๆ เราขอชวนไปพิสูจน์กับ 4 มังงะและอนิเมะอาหารที่รับรองว่าใครดูเป็นต้องท้องร้องจ๊อกๆ ทุกรายไป

แชมเปี้ยนขนมปัง สูตรดังเขย่าโลก (Yakitate Japan)

เรื่องราวของเด็กหนุ่ม อาสุมะ คาสุมะ ผู้มีความฝันจะสร้างขนมปังญี่ปุ่นให้โด่งดังไปทั่วโลก อาสุมะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแข่งขันศึกหน้าใหม่ของบริษัทขนมปังแพนตาเซีย และยังเข้าไปพัวพันกับการแข่งขันเพื่อกอบกู้และทวงคืนร้านสาขามินามิโตเกียวจากทั้งแพนตาเซียและคู่แข่งอย่างแซงปิแอร์อีกด้วย ความพิเศษของแชมเปี้ยนเจปังที่เราไม่พูดถึงไม่ได้คือบรรดารีแอ็คชั่นสุดสร้างสรรค์จากกรรมการทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเดินท่าปู ปล่อยนกยูงตัวเป็นๆ ออกมา หรือรีแอ็คชั่นแบบฝรั่งเศสพร้อมคอสตูมจัดเต็ม เด็ดสุดคือเจปังหมายเลข 44 ที่ใครกินแล้วเป็นต้องฟินจนขึ้นสวรรค์!

ยอดนักปรุงโซมะ (Shokugeki no Soma)

เดิมพันของ ยูคิฮิระ โซมะ นักเรียนชายของโรงเรียนทำอาหารโทสึกิคัลลีนารีอคาเดมี ที่ต้องต่อสู้ให้ชนะในสุดยอดสงครามการทำอาหารเท่านั้น เพื่อรักษาชื่อเสียงของโจอิริโร่ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นอดีตอันดับ 2 ในการแข่งขัน และเพื่อให้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทำอาหารสุดหินแห่งนี้ ที่เราชอบที่สุดของยอดนักปรุงโซมะก็คือ ท่ามกลางการแข่งขันและการเอาชนะ สิ่งสำคัญที่โซมะต้องทำความเข้าใจให้ได้กลับเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างการเรียนรู้ที่จะปรุงอาหารเพื่อใครสักคนเท่านั้นเอง

ยอดกุ๊กแดนมังกร (Chuuka Ichiban!)

หลิวเหมาซิง กุ๊กเด็กอัจฉริยะอายุเพียง 13 ปี ที่นอกจากจะร้องเรียนรู้เพื่อเป็นสุดยอดนักทำอาหารของประเทศจีนแล้ว ยังต้องต่อสู้ไปกับภารกิจตามหาเครื่องครัวในตำนาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มองค์กรอาหารใต้ดินนำไปใช้ในทางที่ผิดอีกด้วย แม้จะเต็มไปด้วยความดุเดือดแต่ยอดกุ๊กแดนมังกรสำหรับหลายๆ คนกลับเป็นการ์ตูนสุดอบอุ่น เพราะเต็มไปด้วยความน่ารักกุ๊กกิ๊กระหว่างหลิวเหมาซิงกับโจวเหม่ยลี่ เพื่อนสาวคนสำคัญ และยังมีบรรยากาศความคิดถึงที่มีต่อคุณแม่ยอดฝีมือที่ล่วงลับไปก่อนวัยอันควร ทำให้ยอดกุ๊กแดนมังกรเป็นการ์ตูนรสกลมกล่อมที่เราอยากแนะนำอีกเรื่องหนึ่ง

เส้นทางฝันของสาวน้อยขนมหวาน (Yumeiro Patishiēru)

เอาใจสายหวานกับการ์ตูนตาหวานเรื่องราวของ อามาโนะ อิจิโกะ สาวน้อยจอมเปิ่นผู้มีพรสวรรค์ด้านการลิ้มรสขนมหวาน ที่จับพลัดจับผลูเข้าไปเรียนที่เซนต์มารีย์ โรงเรียนที่บ่มเพาะสุดยอดปาติซิเยร์และปาติซิแอร์มากมาย แม้จะไม่เคยทำขนมมาก่อน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าภูติขนมหวานและเจ้าชายขนมหวานสุดหล่อทั้งสาม อิจิโกะก็พัฒนาฝีมือการทำขนมได้อย่างเหลือเชื่อ จนเธอเข้าสู่การแข่งขันระดับโลกได้ในที่สุด นอกจากภาพจะน่ารักตามแบบการ์ตูนสาวน้อยแล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องหวานๆ ของอิจิโกะกับมาโคโตะ-เจ้าชายมาดเข้มแต่แอบหวานเหมือนช็อกโกแล็ต ที่รับรองว่าจะละลายหัวใจสาวๆ ไปตามกัน

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS