ตามรอย NETFLIX ที่ร้านป้าตลาดควังจังและหอยย่างแฮอุนแด

1,999 VIEWS
PIN

image alternate text
คัลกุกซูในรายการ Street Food Asia: Seoul และหอยย่างริมหาดในสารคดี Paik's Spirit อร่อยจริงไหม?

เกาหลีเปิดประเทศมาสักพัก เราก็เลยบินไปเที่ยว กิน ช้อปให้หายคิดถึง ทริปนี้มีเพื่อนๆ ร่วมขบวนไปด้วยกันหลายชีวิต เลยได้มีโอกาสเข้าร้านอาหารจริงจังสักที (ปกติไปคนเดียว ><) แล้วยังตะลอนกันไปหลายเมือง ซึ่งสองในหลายๆ หมุดหมายที่แก๊งเราปักกันไว้ตั้งแต่ก่อนบินแบบว่า ‘ต้องไป’ ก็คือร้านป้าโชยุนซอน ณ ตลาดควังจังที่เห็นในสารคดี Street Food: Asia ตอน Seoul ของ NETFLIX และร้านหอยย่างริมหาดแฮอุนแดแห่งปูซาน ที่เห็นในรายการ Paik’s Spirit (อ่านบทความ Paik’s Spirit เหล้าจะชุบชูยามสุข เยียวยาเมื่อเศร้า) ทาง NETFLIX อีกเช่นกัน

ว่าแล้วก็ออกเดินทางค่ะ ไหน! ขอพิสูจน์สักหน่อยซิว่าจะอร่อยเลิศล้ำเหมือนที่น้ำลายไหลตอนดูในจอหรือเปล่า!

ตามรอยnetflixเกาหลี

ร้านป้าโชยุนซอน ตลาดควังจัง

ตลาดควังจังเป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี และเป็นแหล่งสตรีทฟู้ดที่มีอาหารเกาหลีดั้งเดิมให้เลือกกินมากมาย แค่เดินเข้าไปในตลาดก็จะพบสีสันหลากหลายทั้งผู้คน เสียงเรียก เสียงตะโกน กลิ่นอาหาร ควันคลุ้ง เหมือนภาพที่เห็นใน NF เปี๊ยบๆ แต่ไปถึงแล้วเจอร้านเลยไหม ไม่เจอค่ะ! ตลาดมันกว้างใหญ่มาก แล้วมีทางแยกไปตั้งหลายทิศ แต่ละทิศก็ดูคล้ายๆ กันไปหมด เอาละไง งานเข้า มองหน้ากันแล้วก็… ไปทางนี้ละกัน เดินๆ ไปสักพักจนเริ่มจะถอดใจ (หิวมาก ไม่ได้เผื่อเวลาไว้ว่าต้องมาเดินหา ฮืออออ) แต่เดี๋ยวก่อน นั่นไง ร้านนั้นมีคิวยาวเฟื้อยพันหลายตลบ คนเต็มไปหมด เราว่าใช่แล้วแหละ ปรากฏว่าใช่จริงๆ สรุปคือให้เดินมายืนตรงวงเวียนกลางตลาดแล้วใช้สายตายาวๆ มองไปไกลๆ ถ้าเจอฝูงชนหนาแน่นออกันอยู่ ให้ตรงไปโลด หาไม่เจอยังไงก็ต้องเจอ เพราะคนเยอะมากกกกกกอยู่ร้านเดียว

ไปถึงก็ต่อแถวรอคิว แถวอาจจะยาวนิด แต่รันคิวเร็วกว่าที่คิด เพราะร้านป้ามีเก้าอี้ยาวล้อมรอบสี่ด้านให้นั่ง เรียกว่าจุคนได้ประมาณหนึ่งเลยแหละ เรารออยู่สัก 15 นาทีก็ได้หย่อนก้นลงนั่งเบียดกับชาวเกาทั้งซ้ายขวา อันนี้ก็เป็นวัฒนธรรมการกินบ้านเขาอ่ะนะ คนแปลกหน้าสามารถนั่งกินแบบประชิดติดกันไม่ต้องเว้นระยะใดๆ แถมนั่งๆ กินไปอาจุมม่า (ป้า) ข้างๆ ก็หันมาสอนให้ใส่อันโน้นอันนี้ ให้กินแบบนี้ๆๆๆ น่ารักดี

เสียดายนิดหนึ่งตรงที่ตอนมากินนี้ เดอะแก๊งที่เหลือยังมาไม่ถึง ไปกันแค่สองคนเลยสั่งกันได้แค่คนละชาม เพราะอาหารบ้านเกาหลีเขาชามใหญ่มาก ชามเดียวกินได้สองคนสบายๆ อ่ะ เมื่อ NF บอกว่าคัลกุกซูหรือเส้นมีดตัดของป้า ‘อร่อยสุดในตลาด’ เราก็ต้องสั่งมาลอง มองๆ ในเมนูแล้วตกลงเลือก ชันชีกุกซู ที่หน้าตาเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กในน้ำซุปโรยด้วยสาหร่าย กับ ซูเจบี แป้งต๊อกนวดมือแผ่นบางในน้ำซุปเช่นกัน แล้วก็สั่ง มันดู หรือ เกี๊ยวนึ่ง ไส้กิมจิกับไส้หมูมาอีกอย่าง ผลคือเส้นแป้งของป้าดีเลิศมากจริง เส้นเล็กทั้งเหนียวทั้งนุ่ม ที่ว่าเยอะๆ ก็คือกินเพลินจนเกือบหมด แถมน้ำซุปก็รสชาติกลมกล่อม ไม่อ่อนไป ไม่เข้มไป กินแบบไม่ต้องเติมอะไร แค่มีกิมจิเคียงก็อร่อยแบบยกถ้วยซดกันไปเลย สมกับที่เป็นเมนูแนะนำ (ลูกชายป้าที่รับหน้าที่เป็นเด็กจัดคิวและรับออร์เดอร์เชียร์ให้สั่ง) ส่วนซูเจบี สองสาวไทยชินกับรสจัดคิดว่ารสชาติอ่อนไปนิด ต้องปรุงเพิ่มถึงจะพอไหว แต่เส้นก็คือดีย์ กินแป้งเป็นแผ่นๆ แต่ไม่เลี่ยนไม่ฟีลแป๊ง…แป้ง มันนุ่ม มันหนึบ มันเหนียวกำลังดี และเกี๊ยวไส้กิมจีดีมากกกก แป้งหนาแต่นุ่ม แน่น เหนียว ไส้กิมจิก็รสชาติถูกปาก ไม่อ่อนไม่จัดเกินไป ไส้หมูอันนี้เฉยๆ เพราะก็ไม่ได้แตกต่างจากมันดูไส้หมูที่อื่นๆ เท่าไหร่

นอกจากแป้งที่ดีจริงทุกเมนูแล้ว อีกอย่างที่อร่อยมากแบบมากกกก มากแบบอยากขอซื้อกลับบ้านคือกิมจิค่ะทุกคน ส่วนตัวยกให้เป็นกิมจิที่อร่อยที่สุดตั้งแต่กินมา ทั้งเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบ ความเย็นนิดๆ ความหวานของผักผสานเค็มเบาๆ และเผ็ดน้อยๆ เป็นกิมจิที่รสชาติเข้มข้นทุกมิติแต่นัวละมุนอ่ะ เข้าใจเราไหม อร่อยแบบขอให้ปาดมาร์กเกอร์สีชมพูเด่นๆ ไว้เลยว่าห้ามพลาด! แต่จริงๆ ถ้ามาถึงร้านป้าก็ต้องได้กินอยู่แล้วแหละ เพราะเป็นเครื่องเคียงฟรี สองคนนี่ก็ขอเติมกันจนเกรงใจอาตี๋ลูกชายป้า ><

สรุปว่าคนรักแป้งจะต้องเลิฟเส้นแป้งของป้า ดีจริงไม่จกตา และชันชีกุกซูเป็นเมนูที่แนะนำให้ลอง ซึ่งจริงๆ มีหลายเมนูหลายเส้นมาก และคิดว่าน่าจะดีทั้งหมด เพราะแป้งป้าดีจริงๆ

พิกัด: สถานี Jongno 5 (O) ga ทางออก 7 เดินๆ ไปเดี๋ยวก็หาเจอเองเพราะป้าดังมาก ขายดิบขายดีมาก ถ้าไม่มั่นใจก็มองหน้าป้าไว้ แต่ป้ามีกัน 3 คน ต้องมองดีๆ นะว่าคนไหนที่ได้ออก NF

ตามรอยnetflixเกาหลี

ร้านหอยย่างแฮอุนแดกูอี ปูซาน

บอกเลยว่าที่นั่ง KTX เอาฟีล Train to Busan มาเนี่ย เพื่อมากินหอย! อาฆาตไว้ตั้งแต่ดูรายการ Paik’s Spirit ของเชฟแบค (อ่านรีวิวรายการ Paik’s Sprit >> https://krua.co/food_story/paiks_spirit)  ซึ่งจริงๆ น่ากินทุกร้าน แต่อยากมานั่งชิลล์กินหอยย่างแกล้มโซจูท้องถิ่นสุดๆ ฉะนั้น จึงจัดไปเป็นมื้อค่ำของวันแรก ซึ่งกว่าจะออกเดินทางกันก็มืดค่ำแล้ว แถมฤดูสปริงที่ปูซานมาพร้อมฝน ลมแรงระดับฮาตาริเบอร์ 10 และอุณหภูมิ 5 องศา ระหว่างยืนรอรถเมล์เล็กที่ป้ายรถเมล์เล็กๆ มืดๆ ไม่มีผู้คนก็คือหนาวจนปากสั่นมือแข็ง ที่หลบลมหลบหนาวก็ไม่มี รถเมล์ก็ไม่มา แท็กซี่ใดๆ ไม่เห็นทั้งสิ้น ใกล้จะแข็งตาย เลยตัดสินใจเดินกลับไปที่สี่แยกใหญ่เพื่อหาแท็กซี่ ปรากฏว่าเดินอย่างอ่อนเปลี้ยไปได้สัก 100 เมตร เห็นรถเมล์เขียวสาย 2 ของเราติดไฟแดงอยู่ เอาละ หันหลังกลับ วิ่งสับขึ้นเนิน (ยังไง) ให้ทัน แต่คาดว่าความหิวบวกความหนาวกลายเป็นพลังให้วิ่งเร็วสุดในชีวิตไปถึงป้ายรถเมล์พร้อมรถมาถึงพอดี

และแล้วเราก็มาถึงร้านหอยย่างแฮอุนแดกูอีในที่สุด จริงๆ ที่หาดมีร้านหอยย่างแบบนี้เรียงติดกันหลายร้าน แต่เราเชื่อเชฟแบค ก็เลยมุ่งตรงมาที่ร้านนี้แบบไม่เหลียวแลร้านอื่น เข้าร้านไปชาวเกาที่นั่งกันเต็มร้านก็หันมองเป็นตาเดียว แต่สาวไทยไม่สนค่ะ สั่ง หอยเชลล์ มาหนึ่งชุด หอยเป๋าฮื้อ อีกชุด (เขามีให้สั่งเป็นชุดเล็ก กลาง ใหญ่ พวกเราไปกัน 5 คน แต่สั่งชุดเล็กมาก่อน เพราะกลัวความใหญ่และเยอะของชาวเกา) พออาจอชี (ลุง) ยกถาดหอยมาที่โต๊ะก็ฮือฮากันหนักมาก หอยเชลล์อ่ะไม่เท่าไหร่ แต่หอยเป๋าฮื้อตัวใหญ่ยักษ์สุด แถมทั้ง 6 ตัวยังเคลื่อนไหวดุกดิกอยู่ในถาด จับขึ้นย่างในเตาน้องก็ยิ่งยุกยิก สาวไทยใจบุญมองหน้ากัน คนหนึ่งบอกว่ามันสดมากแหละ อีกคนบอกมันยังไม่ตายป่ะ คำตอบคือข้อหลังจ้า อาจอชีเจ้าของร้านที่มายืนย่างให้ตัดให้ (หลังเห็นว่าพวกเราเอาเป๋าฮื้อย่างแล้วก็ตักทั้งตัวใส่จาน) เป็นผู้คอนเฟิร์มว่ามันยังไม่ตาย มาตายบนเตานี่แหละ เพราะสดสุดๆ จับมาจากทะเลข้างหน้านี้เลย (ฮือออออ) และการกินที่ถูกต้องก็คือต้องย่างเป๋าฮื้อให้ได้ที่ จากนั้นใช้กรรไกรตัดๆๆๆ น้องเป็นชิ้นๆ แล้วเอาลงไปคลุกชีสในชามฟอยล์ ไม่ใช่กินทั้งตัวเด้อสาว กินไม่เป็นไปอี๊กก

อาจอชีย่างไปตัดไปคลุกไป โดยมีพวกเราจ้องหน้าตาแป๋วรอสัญญาณว่ากินได้ พออาจอชีพยักหน้าและน้องเป๋าฮื้อเข้าปากเท่านั้นแหละ ใช่คำว่าอร่อยแสงออกปากยังน้อยไป อร่อยมาก อร่อยจริง อร่อยสุด อร่อยแบบอร้อยยยย ด้วยความหวานเพราะความสดของหอย ความเค็มและครีมมี่นิดๆ ของชีส แถมสัมผัสแบบเด้งดึ๋งเหนียวน้อยๆ พอให้บริหารฟัน มันผสมกลมกลืนกลายเป็นความลงตัวที่โคตรอร่อย 6 ตัวจึงอันตรธานไปไวเหมือนโกหก ว่าแล้วก็สั่งเพิ่มมาอีก 6 ซึ่งน้องทั้ง 12 พลีชีพอย่างคุ้มค่าที่สุดเพราะกินกันแบบถ้ากินเปลือกได้ก็กินแล้ว หอยเชลล์ก็เช่นกัน ย่างกับชีส จิ้มซอสโคชูจังก็คืออร่อย และทำให้เราเข้าใจว่าของที่มันอร่อยโดยธรรมชาติ โดยเนื้อแท้ โดยแทบไม่ได้ปรุงแต่งเลยคืออย่างนี้เอง แล้วราคาก็ถูกเหลือเชื่อ ค่าหอยบวกรามยอนบวกโซจู 3 ขวด เบียร์ 3 ขวด ห้าคนหารแล้วตกคนละ 700 กว่าบาทเท่านั้น แถมได้อาจอชีเจ้าของร้านมาบริการอยู่โต๊ะเดียวอีกด้วย น่าจะเพราะเห็นว่าเป็นต่างชาติ ทำอะไรไม่ค่อยถูก เลยจัดเซอร์วิสพิเศษ   

สรุปคือประทับใจร้านหอยย่างนี้มาก รักมาก อยากคารวะเชฟแบคผู้แนะนำสัก 10 จอก และอยากซื้อตั๋วเครื่องบินให้ทุกคนที่รู้จักบินมากินหอยที่ร้านนี้ ใครมีแพลนไปปูซาน จดลงลิสต์ไว้เลยค่ะ รับรองว่ากินแล้วจะต้องอุทานไม่หยุดว่า “อร่อยๆๆๆ”  

พิกัด: ร้านอยู่หน้าหาดแฮอุนแดฝั่งชองซาโพ ถ้ามาช่วงกลางวันหรือเย็น ให้นั่งสกายแคปซูลหรือบีชเทรนจากสถานีมิโปมาลงที่ชองซาโป เดินผ่านร้าน emart ที่หัวมุมไปนิดเดียวก็เจอ แนะนำให้มาแบบนี้ อย่าหาทำแบบพวกเรา ที่มาตอนดึกมากแล้ว แคปซูลเอย บีชเทรนเอย หยุดวิ่งหมดแล้ว ต้องมาแท็กซี่หรือรถเมล์เท่านั้น แล้วรถเมล์สีเขียวสาย 2 นี้เพิ่งมารู้ทีหลังว่าพอดึกแล้ววิ่งชั่วโมงละคัน โอ๊ย ก็ถึงว่า รอจนท้อ!

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS