บรรทัดทองเป็นอีกย่านตระเวนกินที่คึกคักตั้งแต่หัวค่ำ นักท่องเที่ยวสาย foodie ปักหมุดให้สามย่าน-บรรทัดทอง เป็นแลนด์มาร์คสตรีทฟู้ดแห่งหนึ่งที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าถนนเยาวราชเลยค่ะ มีร้านอาหารหลากหลายทั้งไทย-เทศ ร้านระดับตำนาน และร้านอินเทรนด์ให้ได้อัปเดทความอร่อยตลอด
‘ปภาภัทร ร้านไอติมโฮมเมดรถเข็น’ เป็นอีกหนึ่งร้านห้ามพลาดของย่านที่เราตั้งใจมารอเจอ เพราะคอนเสปต์ไอศกรีมโฮมเมดที่ไม่เหมือนใคร คัดสรรวัตถุดิบดีของไทย ใช้ผลไม้สด และผลไม้ตามฤดูกาลทำสดใหม่ หน้าร้านมาแบบเคลื่อนที่ได้ ขายในราคาย่อมเยาสกูปละ 25 บาท หรือจะเหมายกกล่อง กล่องละ 300 บาทกลับมากินที่บ้านก็ได้
เราเดินเล่นอยู่แถวบรรทัดทอง ราวทุ่มกว่าๆ เห็นชายหนุ่มกำยำเข็นรถไอศกรีมมาไวๆ แวะทักทายคนตามริมทาง ก่อนจะมาหยุดที่หน้าร้านข้าวมันไก่เจ๊โบ บรรทัดทอง เราเข้าจู่โจมทันที่ที่เห็นพี่เขาจอดรถ พร้อมๆ กับลูกค้าอีกหลายคน พี่แลก เจ้าของรถไอศกรีมคันนี้แนะนำไอศกรีมรสยอดนิยมพร้อมจับคู่ความอร่อยให้เราลองเป็นถ้วยแรกคือ ‘เจลลี่’ กับ ‘มะขาม’ และอีกหลายรสถัดมา (ถ้วยแรกอร่อย ก็อยากจะลองอีกหลายรส มันหยุดไม่ได้ค่ะ ฮ่าๆ)
เจลลี่ – มะขาม: เปิดฝากล่องไอติมมาก็ว้าวกับเม็ดเจลลี่แล้ว อัดมาให้แน่นๆ เบสไอติมเป็นรสนมหมีนวลๆ หวานหอมกำลังดีตัดกับเม็ดเจลลี่เปรี้ยวๆ ที่แทรกอยู่ทุกคำที่ตัก จ้วงกินได้เรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีจะหมดสกูป ต้องห้ามใจเหลือไว้กินผสมกับมะขาม ตัวไอติมมะขามรสเปรี้ยวหวานปลายหอมมะขาม สดชื่นมาก พี่แลกแนะนำให้ลองกินผสมกันจะได้รสใหม่ ทายสิคะได้รสอะไร – – – ‘ยาคูลท์’ เฮ้ย กินแล้วสนุกอะ
ซิกเนเจอร์อีกอย่างของที่ร้านคือรสมะขาม โรยเกลือชมพู ความเค็มตัดเปรี้ยวหวาน ช่วยดึงรสมะขามให้เด่นขึ้นเลย อร่อย เลิฟฮะ
เงาะ – กลิ่นและรสเหมือนกินเงาะกระป๋องแช่แข็ง แต่เนื้อไอติมนุ่ม ไม่ได้เป็นเกล็ดน้ำแข็งอย่างที่เราแช่กินเองที่บ้าน ฟินเลยถ้วยนี้ ใครชอบเงาะต้องสั่ง
ข้าวเหนียวดำ – กะทิ เป็นคอมบิเนชั่นที่เข้ากันมาก ตัวข้าวเหนียวดำมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ มีเม็ดข้าวเหนียวให้เคี้ยว กะทิหวานมันกำลังดี ไม่หนักปาก กินแล้วไม่เหนียวคอ
กล้วยหอม – รสนวล หอมกล้วยหวานกำลังดีเหมือนเดิม ความที่เขาใช้ผลไม้สด ไม่แต่งกลิ่น ความหอมและรสชาติที่ได้มาจากวัตถุดิบสด ทำให้กินแล้วรู้สึกเฟรช ไม่เลี่ยนเลยค่ะ
ไอติมโฮมเมดใช้วัตถุดิบดี สดใหม่
ไอศกรีมปภาภัทรมีอยู่ 16 รสชาติ คือ ข้าวเหนียวดำ มะม่วง กะทิสด รวมมิตร มะขาม เผือก ทุเรียน กล้วยหอม นมสด ชาไทย คุกกี้แอนครีม กาแฟ สตรอว์เบอรี ไมโล เจลลี่ และเงาะ ทั้งหมดเป็นไอติมโฮมเมดที่คิดค้นขึ้นโดยเจ้าของแบรน์ชื่อว่าคุณปภาภัทร มีพี่ๆ ทั้ง 6 คนทำหน้าที่เป็นทั้งคนผลิตและคนขาย
“เจ้าของเป็นคนชอบกินไอศกรีมมาก เจอไอศกรีมที่ไหนก็แวะกินแวะลองตลอด เลยมาทำไอศกรีม แล้วลิ้นเขาดี เขาสรรหาวัตถุดิบอย่างดีมาทำ ไอติมที่ร้านรสชาติดีก็เพราะใช้วัตถุดิบที่ดี ถ้าดูข้างรถเข็นปภาภัทรจะเขียนว่าเป็นไอศกรีมสด เพราะมันสดจริงๆ ใช้ผลไม้ วัตถุดิบสดใหม่ พวกพี่ก็ช่วยกันทำทั้ง 6 คน ปั่นไอติมกันสัปดาห์ละครั้ง ทำครั้งละมากๆ แล้วก็หมดสัปดาห์ต่อสัปดาห์ ไม่มีไอติมเหลือค้างนาน”
หัวใจความอร่อยของไอติมปภาภัทรจึงอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบดี กะทิเป็นไอติมตัวแรกๆ ที่เริ่มทำและเป็นเบสของไอติมอีกหลายรส ที่ร้านเลือกใช้กะทิอย่างดีสั่งตรงจากภาคใต้ ใช้เจ้าเดิมเจ้าเดียวตั้งแต่เริ่มทำไอติมเมื่อสิบกว่าปีก่อน เช่นเดียวกับรสทุเรียนที่ใช้ทุเรียนหมอนทองส่งตรงจากจันทบุรีเท่านั้น
“ถ้าไม่มีกะทิของเจ้านี้ เราก็จะไม่ทำไอติมกะทิเลย เป็นกะทิมาจากทางใต้ มัน หอม ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อให้คุณภาพดี เราไม่เคยเปลี่ยนวัตถุดิบเพื่อลดต้นทุน ต่อให้ขึ้นราคายังไงก็ใช้เหมือนเดิม รสทุเรียน ก็ใช้ทุเรียนหมอนทองจากจันทบุรี ทุเรียนเป็นรสที่พิเศษหน่อยเรามีทำขายทั้งปี เพราะเอามาแกะเม็ดออกแล้วแช่แข็งเนื้อไว้ได้ คุณภาพยังคงเดิม แต่ถ้าเป็นมะม่วงเก็บเนื้อไว้นานไม่ได้ ไอติมรสมะม่วงเลยจะมีแค่ฤดูกาลมะม่วงช่วงหน้าร้อนเท่านั้น”
ว่าแล้วพี่แลกก็ตักรสทุเรียนให้เราชิม กลิ่นทุเรียนหอมละมุน นวลกับเบสเนื้อกะทิ กลิ่นไม่แรงตีขึ้นจมูกเหมือนที่เรากินไอติมรสทุเรียนสังเคราะห์นะ คนละเรื่องเลย ใครชอบทุเรียนต้องสั่ง!
ก่อนหน้านี้ไอติมปภาภัทรเคยมีหน้าร้านอยู่แถวธรรมศาสตร์รังสิต แต่หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ก็ปรับกลยุทธ์มาเป็นรถเข็น มีรถเข็นอยู่ 6 คัน เข็นขายแถวเยาวราช ประตูน้ำ สะพานพุทธ วัดหัวลำโพง ก่อนที่ปัจจุบันจะมาปักหลักขายที่ย่านบรรทัดทอง เพราะเป็นย่านที่คนมาหาของกินเยอะในช่วงปีหลังๆ คอนเสปต์ไอศกรีมโฮมเมดรถเข็นเลยได้เปรียบเรื่องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ปรับเปลี่ยนทำเลที่ตั้งไปได้เรื่อยๆ ในอนาคตถ้าเกิดย่านใหม่ เป็นที่รวมพลของนักกินขึ้นเหมือนย่านบรรทัดทอง พี่แลกบอกว่าก็อาจจะเจอรถเข็นปภาภัทรอยู่ที่นั่นในอนาคตด้วยเหมือนกัน
ไอศกรีมประภาภัทรทั้ง 6 คันจะกระจายกันขายอยู่ที่บรรทัดทอง สำหรับคันของพี่แลกที่เราเจอจะขายตั้งแต่ช่วงเย็นราว 6 โมงไปจนถึงตี 2 เวลา 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม จะอยู่ตรงสเตเดียมวัน หรือหน้าร้านข้าวมันไก่เจ๊โบ และมาปักหลักอยู่หน้าร้านข้าวต้มสันติภาพไปจนถึงตี 2 ของทุกวัน ไม่มีวันหยุด
“มันเอนจอยกับการขายไปแล้วอะ การขายไม่ใช่งาน มันเป็นการพักผ่อนไปแล้ว พวกพี่เวลาเหนื่อยจากทำไอติม คิดบัญชี ก็จะมาพักกันตอนขายนี่ล่ะ ได้คุยกับลูกค้า ความสนุกของพวกพี่คือการขาย มีความสุข เลยไม่ค่อยโหยหาวันหยุดเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ หยุดแล้วก็คิดถึงลูกค้า มันเนือยๆ ยังไงไม่รู้ มาขายไอติมแล้วมีชีวิตชีวากว่า”
ใครมาแถวบรรทัดทองอย่าลืมแวะชิมนะคะ ไอศกรีมเขาอร่อย ราคาย่อมเยา ไม่ผิดหวังแน่นอน หรือใครอยากมาจอยๆ กินไอติมเม้ามอยกับพี่แลกแบบเราพี่เขาบอกแวะมาได้เลย พ่อค้าติดคุยฮะ 555