RUA.CO แอบไปเที่ยวเพชรบุรี-ชะอำกับ ททท. มาค่ะ งานนี้บอกเลยว่าตะลุยกินกันอย่างหนำใจ กับสารพัดร้านสารพันสิ่งที่คัดสรรมาแล้ว รวบรวมมาได้ทั้งสิ้น 19 ร้านด้วยกัน มีทั้งอาหารคาวและของหวานให้เลือกสรรแบบครบจบในคอนเทนต์เดียว เรียกได้ว่ากดเซฟเอาไว้โลด อยากไปร้านไหนก็จิ้มได้เล้ยยยย
ร้านที่ 1 ผัดไทยท่ายาง
ผัดไทยเจ้าเก่าเจ้าดังของจังหวัดเพชรบุรี ใครมาเพชรฯ แล้วนึกไม่ออกว่าอยากกินอะไร ‘ผัดไทยท่ายาง’ ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ง่าย เร็ว และยังอร่อยมาก ด้วยความที่มี ‘น้ำตาลโตนด’ เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัด ซอสผัดไทยของที่นี่เลยใช้น้ำตาลโตนดอย่างดี ในอัตราส่วนพี่พอเหมาะ รสชาติผัดไทยกลมกล่อมทั้งหวานเค็ม บีบมะนาวเพิ่มก็จะได้รสเปรี้ยวที่สดชื่นขึ้น และที่ทำให้ผัดไทยที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นคือ ‘กะหล่ำปลีซอย’ ที่ซอยมาบางกำลังดีแล้วยังสดกรอบ กินกับผัดไทยเข้ากันมากก กลับกรุงเทพฯ ต้องไปหากะหล่ำปลีมาใส่ผัดไทยบ้างแล้ว
เปิด-ปิด 9.00 น.-16.00 น (ปิดวันพุธ)
ร้านที่ 2 ร้านรัญจวนใจ Local Cuisine
ร้านอาหารโลคอลที่เด็ดแค่ไหน ไปดู 7 เมนูที่เราการันตีกันเลย
เมนูที่ 1 แกงหลอกเนื้อเปรี้ยว แกงกะทิใส่หน่อไม้ รสชาติแกงหวานมัน ไม่เผ็ดมาก เข้ากันได้ดีกับหน่อไม้ดองที่มีไม่เปรี้ยวมาก (ไม่เหม็นด้วย)
เมนูที่ 2 ยำชะครามกุ้งย่าง ใบชะครามนำไปทอดจนกรอบ (โคตรกรอบ) มีรสชาติเค็มตามธรรมชาติของใบชะคราม พอเอาไปกินกับน้ำยำที่มีรสหวาน เปรี้ยว ทำให้ยำครบรสพอดี และกุ้งย่างในน้ำยำคือพอดีมากกกก แบบย่างมาดีมากๆ
เมนูที่ 3 ไก่โค๊ะหวาน ไก่บ้านทอดมาแห้งๆ เคลือบด้วยซอสหวานๆ เค็มๆ เป็นเมนูที่เอามากินแก้เผ็ด หรือกินกับข้าวสวยเฉยๆ ก็อร่อยเลย รสชาติไก่และซอสค่อนข้างเข้มข้น
เมนูที่ 4 ปลาทูเตี้ยทอดกระเทียม เมนูนี้บอกเลยว่ากินได้ทั้งตัวเพราะมันกรอบม้ากกกก ทอดจนปลากรอบ กระเทียมที่ใส่มาก็กรอบอร่อย
เมนูที่ 5 ซี่โครงหมูตุ๋นลำใยเห็ดหอม เมนูซดคล่องคอที่ดีอีกเมนูนึง น้ำซุปหอมๆ มีความหวานที่ได้จากลำไย ส่วนซี่โครงหมูก็คือเปื่อยดีมาก เปื่อยยันกระดูก
เมนูที่ 6 แกงพริกขี้หนูเนื้อกรอบ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่เผ็ดที่สุดในมื้อนี้ แต่บอกเลยว่าโคตรอร่อย เนื้อดี ไม่เหนียว ความเผ็ดที่ได้มาจากทั้งเครื่องแกงและพริกขี้หนู (รสชาติเครื่องแกงเหมือนแกงเขียวหวาน) รสชาติของแกงหวาน เค็ม อร่อย (ไม่หวานมาก)
เมนูที่ 7 ยำปลาหมึกหวาน เป็นการเอาปลาหมึกมาเคี่ยวกับน้ำตาลโตนด ปรุงรสแค่ดอกเกลือ เสิร์ฟมากับหอมแดงซอย พริกขี้หนูซอย และผักชี ก่อนกินก็บีบมะนาวเพิ่มรสเปรี้ยว
เปิด-ปิด 12.00 น.-16.30 น. (ปิดวันจันทร์)
ร้านนี้ต้องจองเท่านั้นนะคะ เพราะเชฟมีคนเดียว
สามารถทักไปจองโต๊ะ สั่งเมนูล่วงหน้าได้ที่ รัญจวนใจ Local Cuisine
https://www.facebook.com/runjuanlocalcuisine
ร้านที่ 3 พรชัยไอติมกะทิสด
ร้านไอศกรีมกะทิสดที่เปิดมานาน ซึ่งไม่ได้มีแค่ไอศกรีมกะทิอย่างเดียว ยังมีไอศกรีมน้ำตาลสดและนมสดอีกด้วย แต่วันนี้เราตั้งใจจะมากินไอศกรีมกะทิที่เขาว่าอร่อยเด็ด ใช่ค่ะ เด็ดจริ๊งงง เนื้อไอศกรีมไม่ได้เนียนมาก มีความเป็นเกล็ดนิดๆ รสชาติหวานกำลังดี มีเครื่องให้เลือกเยอะ ที่สำคัญให้เยอะ และราคาถูก อากาศร้อนๆ ได้ไอศกรีมกะทิหวานๆ แบบนี้นี่ ชื่นใจจริงๆ
เปิด-ปิด 9.00 น.-16.30 น. (ทุกวัน)
ร้านที่ 4 ร้านนุช ขนมจีนทอดมัน
ใครมาเพชรบุรีจะต้องมากินขนมจีนร้านนี้ เพราะเป็นร้านที่ขายมานานถึง 75 ปี และเป็นร้านขนมจีนที่ไม่มีน้ำยาขนมจีน มีแต่ทอดมันที่ทางร้านทำเองแบบสดใหม่ทุกวัน วันละประมาณ 30-50 โลกันเลยทีเดียว ความพิเศษของทอดมันนี้คือ ไม่ใส่ถั่วฝักยาว ใส่แค่ใบกะเพราเท่านั้น! เพราะเป็นสูตรที่ส่งต่อกันมา (ใครไม่ชอบกินถั่วฝักยาวถูกใจสิ่งนี้) และกินกับน้ำจิ้มรสหวาน เปรี้ยว เผ็ด
ที่ร้านจะขายเป็นขนมจีน+ทอดมัน จานละ 60-80 บาท หรือจะสั่งทอดมันแยก จานละ 100 บาท ขนมจีนละ 15 บาท
เปิด-ปิด 10.00 น.-15.00 น. (เปิดเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์)
ร้านที่ 5 ร้านพวงเพชร
ร้านอาหารที่ยังไงก็ต้องห้ามพลาด ถ้ามาเพชรบุรี เมนูเด็ดของที่นี้คือ ‘ปลาดุกทะเลผัดฉ่า’ ซึ่งวันที่ไป ไม่มีค่าาาา ฮือๆๆๆ เศร้า เลยได้กินปลากะพงแทน ผัดฉ่ามีความเผ็ดร้อน และหอมเครื่องผัดฉ่ามากๆ ส่วนเมนูอื่นๆ ที่แนะนำให้สั่งคือ
ปลาหมึกสามรส เมนูต้ม ที่มีรสชาติคล้ายยำ เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด แต่มีน้ำให้ซดคล่องคอ (หมูที่ยัดไส้ปลาหมึกมาอร่อยเลย)
ผัดโป๊ยเซียน ผัดวุ้นเส้นใส่กุ้ง เห็ดหูหนูและผักต่างๆ รสชาติไม่จัดมาก กินเฉยๆ หรือกินเป็นกับข้าวก็อร่อย หอยเสียบผัดโหระพา รสชาติผัดหอยทั่วไปที่ไม่หวานมาก เค็มกำลังดี ส่วนหอยเสียบก็อร่อย มีความกรุบๆ กินเพลินๆ แบบกินได้จนหมดจาน
เปิด-ปิด 10.00 น.-20.00 น.(ทุกวัน)
ร้านที่ 6 ขนมหวาน นกน้อย
กินคาวเสร็จก็ต้องกินหวานกันต่อ ร้านขนมนกน้อยเป็นร้านที่เรียกได้ว่าแทบจะมีขนมไทยทุกชนิดมารวมกันไว้ที่นี่แล้วจ้า นกน้อยรับจบ! เรื่องขนมหวานต้องร้านขนมหวานนกน้อย
เมนูแนะนำ กล้วยบวดชี ขนมโค ทุเรียนเชื่อม เปียกข้าวฟ่าง และอินทนิล ส่วนตัวชอบขนมร้านนี้เพราะกะทิราดจะออกติดเค็มนิดๆ ตัวขนมแต่ละอย่างจะออกหวาน เลยทำให้กินได้เรื่อยๆ รู้สึกไม่หวานจนเกินไป
เปิด-ปิด 18.00 น.-22.30 น.(ทุกวัน)
ร้านที่ 7 ข้าวแช่ป้าเอื้อน
มาเพชรบุรีจะไม่กินข้าวแช่ก็เหมือนมาไม่ถึงใช่ไหมล่ะคะ แนะนำข้าวแช่ป้าเอื้อน เปิดมา 60 กว่าปีแล้ว ทั้งเก่าแก่และโคตรเก๋า อีกทั้งราคาก็ถูกมาก ชุดละ 25 บาทเท่านั้น! ซึ่งเป็นราคามาตรฐานของที่นี่ เครื่องเคียงจะมีลูกกะปิ ปลาหวาน และไชโป๊ว กินกับข้าวแช่เย็นๆ หอมๆ โดยเครื่องเคียงก็ทำออกมาไม่หวานจนเกินไป กินกับข้าวแช่รสชาติพอดีเลย ส่วนตัวเป็นครั้งแรกของการกินข้าวแช่เหมือนกัน และเป็นร้านที่ทำให้เราเปิดใจให้กับเมนูข้าวแช่เลย ฮือ กลับมากรุงเทพฯ แล้วต้องนึกอยากกินอีกแน่ๆ เลย
เปิด-ปิด 8.30 น.-16.00 น. (ทุกวัน)
ร้านที่ 8 ขนมจีนซาวน้ำแม่อ้อย
ร้านนี้อยู่ข้างๆ กับร้านข้าวแช่ป้าเอื้อนเลย และใช่ค่ะ เป็นขนมจีนที่ราคาน่ารักกับเราอีกแล้ว 25-30 บาท แนะนำเมนูขนมจีนซาวน้ำ กะทิหวานมัน อร่อย! แต่ไม่เลี่ยนเลย เพราะมีสับปะรดและพริกซอยใส่มาช่วยตัดเลี่ยนได้ดีมากๆ
เปิด-ปิด 7.30 น.-16.00 น. (ทุกวัน)
ร้านที่ 9 ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊กอ้า
ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นที่มีกลิ่นเครื่องยาจีนชัดเจน น้ำซุปออกเค็มอ่อนๆ เนื้อตุ๋นไม่เหนียวแต่ก็ไม่ได้นุ่มเละ มีเนื้อสัมผัสให้ได้เคี้ยวอยู่ มีทั้งเนื้อสดและเนื้อตุ๋น เครื่องในก็มี เรียกได้ว่าครบส่วนสุดๆ ใครสายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านนี้เป็นหนึ่งในลิสต์ในการมาเพชรบุรีเลยค่ะ
เปิด-ปิด 9.00 น.-16.00 น. (ทุกวัน)
ร้านที่ 10 ลอดช่องน้ำตาลข้น โพธิ์การ้อง
ร้องว่าหว้านหวาน น้ำตาลข้น! ข้นมาก ข้นจริ๊ง เป็นขนมหวาน เย็นๆ ชื่นใจ ใครรู้สึกว่าร่างกายต้องการของหวาน ลอดช่องน้ำตาลข้นคือคำตอบค่ะ ซึ่งที่ร้านก็มีให้เลือกท็อปปิ้งเยอะแยะมากมาย แล้วแต่ว่าเราอยากจะใส่อะไร พอเลือกท็อปปิ้งเรียบร้อย ที่ร้านก็จะอัดน้ำแข็งเกล็ดลงไป ราดด้วยน้ำตาลโตนดที่เคี่ยวจนข้น และราดทับด้วยนมข้นหวาน มาถึงตรงนี้พอจะนึกรสชาติออกกันไหมคะ มันหวานจริงๆ ค่ะ สำหรับคนไม่ชอบหวาน อาจจะบอกว่าร้านนี้ไม่อร่อยก็ได้ ส่วนตัวกินได้ แต่ 2 คนช่วยกันกินดีกว่าค่ะ กินคนเดียวน่าจะไม่ไหว
เปิด-ปิด 9.00 น.-17.00 น. (ทุกวัน)
ร้านลอดช่องน้ำตาลข้นโพธิ์การ้อง
ร้านที่ 11 ร้านก๋วยจั๊บหน้าวัดมหาธาตุฯ
เป็นร้านที่บังเอิญเจอ เพราะผ่านหน้าร้านเท่านั้นแหละ หอมม้ากกก รับรู้ถึงกลิ่นความอร่อยของน้ำซุป แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ นั่นแหละ น้ำซุปหอมอร่อย เครื่องก๋วยจั๊บจัดเต็มทั้งหมูกรอบ เครื่องใน ส่วนไข่ต้มก็มีรสเค็มอ่อนๆ คล้ายไข่ต้มในราเมนเลย เลิฟไข่ต้มร้านนี้มากๆ ราคาก็แสนจะถูก ธรรมดา 35 พิเศษ 45 (เพิ่มไข่ 1 ฟอง 10 บาท) คราวหน้าไปอีกจะสั่งเพิ่มไข่ต้มไปเลยจุกๆ และร้านนี้เขามีก๋วยจั๊บ 2 แบบนะคะ แบบน้ำข้นกับน้ำใส ส่วนตัวที่ได้ชิมคือรสชาติไม่ต่างกัน ความต่างจริงๆ คือความข้นของน้ำซุป ที่’น้ำข้น’ จะใส่แป้งเพื่อให้ข้นเท่านั้น ตัวน้ำซุปเป็นเบสน้ำซุปตัวเดียวกัน
เปิด-ปิด 10.30 น.-16.00 น. (ปิดวันพุธ)
ก๋วยจั๊บหน้าวัดมหาธาตุเพชรบุรี
ร้านที่ 12 ร้านระเบียงริมน้ำ
ใครจะไปคิดว่าบ้านไม้เก่าริมน้ำ จะกลายมาเป็นร้านอาหารไทยโบราณที่แสนอร่อยอย่าง ‘ระเบียงริมน้ำ’ ที่เมื่อเดินเข้ามาในซอยเล็กๆ ก็ได้กลิ่นอาหารที่กำลังทำอยู่ในครัวแล้ว เมนูที่เราสั่งมาในวันนี้ก็จัดเต็มอีกตามเคย
เมนูที่ 1 แกงหัวตาลกุ้ง แกงกะทิที่เผ็ดน้อย หวานน้อย ส่วนตัวหัวตาลมีเนื้อสัมผัสคล้ายหน่อไม้แต่อ่อนกว่า
เมนูที่ 2 ยำหมูมะเขืออ่อน หมูนุ่มๆ มะเขืออ่อนฝานมาบางๆ คลุกน้ำยำเปรี้ยวๆ หวานๆ เผ็ดกำลังดี หอมตะไคร้ซอย กินเพลินๆ ก็คือหมดจาน
เมนูที่ 3 ผัดพริกขิงปลาดุกฟู รสชาติจัดจ้านถึงใจต้องกินกับข้าวสวยร้อนๆ เท่านั้น! และที่สำคัญปลาดุกกรอบม้ากกก
เมนูที่ 4 ไข่เจียวเพชร ไข่เจียวใส่พริกและหอมแดงซอยธรรมดาๆ แต่ที่ร้านระเบียงน้ำทอดออกมาได้กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน เพอร์เฟ็คไข่เจียวที่แท้ทรู
เปิด-ปิด 9.30 น.- เที่ยงคืน (ปิดวันจันทร์)
Rabieng Rimnam
ร้านที่ 13 Miffy’s Voyage Cafe
กินหนักเยอะแล้ว มาพักจิบชาที่ Miffy’s Voyage Cafe กันค่ะ ภายในร้านตกแต่งด้วยน้องกระต่ายมิฟฟี่น่ารักๆ ในทุกๆ มุมของร้าน รวมถึงเมนูในร้านก็จัดจานให้ออกมาเป็นรูปกระต่า ยให้เราได้ถ่ายภาพลงอินสตราแกรมเก๋ๆ อีกด้วย วันนี้ขอเพิ่มพลังด้วยชาร้อนที่มีกลิ่นมินต์หอมๆ เพิ่มความสดชื่น และช่วยรีเฟรช เพื่อเตรียมตัวไปกินมื้อต่อๆไป
เปิด-ปิด 10.00 น.-18.00 น. (ปิดวันพุธ)
Miffy’s Voyage Café Camel Republic
ร้านที่ 14 เจ๊แดงบางควาย
ร้านอาหารทะเลสดๆ ที่ผสมอาหารป่ามาด้วย มีเมนูแปลกอย่าง ‘กะเพราตับปลาทู’ ที่มีความมันของตับ แต่ยังคงรสชาติกะเพราถูกต้องไว้อยู่ ‘แกงป่าเนื้อ’ เมนูเรียกเหงื่อ เผ็ดจนคันหัว เป็นแกงป่าที่ถึงเครื่องสุดๆ แนะนำให้กินกับข้าวสวยเยอะๆ หรือจะแก้เผ็ดด้วย ‘หมูนายก’ เป็นหมูทอดมาแห้งๆ เค็มๆ แต่ที่อร่อยก็คือน้ำจิ้มที่รสชาติเปรี้ยวๆ คล้ายจิ๊กโฉ่วเสิร์ฟมาพร้อมกับหมู อร่อยไปอีกแบบ เมนูแนะนำอื่นๆ ก็จะมีหอยเชลล์ผัดฉ่าและกั้งทอดกระเทียม
เปิด-ปิด 9.00 น.-22.00 น. (ทุกวัน)
Jae Daeng
ร้านที่ 15 นำจิตต์ ก๋วยเตี๋ยวหมูหน่อไม้ฝรั่ง
ร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่ของชะอำ ความพิเศษคือผักที่ใส่ในก๋วยเตี๋ยวคือ ‘หน่อไม้ฝรั่ง’ โดยริเริ่มมาจากเมื่อประมาณ 40 กว่าปีก่อน โครงการหลวงหุบกะพงได้ส่งเสริมให้มีการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ทำให้มีหน่อไม้ฝรั่งเยอะ เลยได้นำมาใส่ในก๋วยเตี๋ยวจนถึงทุกวันนี้
ต้องบอกว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวที่แทบไม่ต้องปรุงอะไรเลยก็อร่อยแล้ว เราสั่ง ’เส้นเล็กแห้งต้มยำ’ ก็คืออร่อยเลย เผ็ดเปรี้ยวเค็มกำลังดี เครื่องเยอะ ตัวหน่อไม้ฝรั่งลวกมาสุกกรอบพอดี ร้านไม่มีน้ำซุปมาให้นะคะ ต้องสั่งแยก อีกถ้วยเป็น ’บะหมี่น้ำ’ น้ำซุปรสชาติคลีนๆ แต่ไม่จืดนะ เพียงแต่รสชาติมันไม่ได้จัดไปทางหวานหรือเค็มจนเกินไป ปล.กากหมูที่โรยมา กรอบม้ากกก อร่อยมาก
อีกไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ ‘เต้าหู้ทอด เกี๊ยวทอด มะเขือยาวทอด’ เด็กอ้วนอย่างเราถูกใจสิ่งนี้ เขาทอดกันใหม่ๆ สดๆ เต้าหู้กับมะเขือ เป็นการเอามาชุบแป้งแล้วค่อยลงทอด ซึ่งแป้งกรอบมาก เต้าหู้อร่อยเลย ส่วนเกี๊ยวทอดมาแบบแป้งเกี๊ยวกรอบ ฟูๆ เบาๆ จิ้มน้ำจิ้มรสหวานๆ เปรี้ยวๆ มีถั่วป่นคือถูกต้อง!
เปิด-ปิด 7.00 น.-15.30 น. (ทุกวัน)
Nam-Jit pork with asparagus
ร้านที่ 16 หมูหันนายก
ร้านนี้เปิดมาประมาณ 20 ปีแล้ว โดยหมูหันที่นี้จะใช้หมูอายุ 3 เดือน เพราะถ้าอายุมากกว่านี้จะมีมันเยอะ หรืออายุน้อยกว่ารสชาติก็จะไม่อร่อย ความพิเศษของร้านนี้คือ เจ้าของร้านไปเลือกหมูจากฟาร์มเองเพื่อให้ได้หมูที่ดีที่สุด แกยังบอกอีกว่าหมูที่แกเลือก จะมีกลิ่นหมูเฉพาะ เอามาหมักเครื่องสมุนไพรในตอนกลางคืน เช้ามาก็ค่อยเอามาหัน เป็นการย่างหมูช้าๆ เพื่อรีดน้ำมันออกจากตัวหมู ให้ได้หนังที่กรอบ แต่เนื้อด้านในยังนุ่ม (หมูหันที่นี่กินได้ทั้งเนื้อและหนังเลย) รสชาติออกเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นเตาถ่าน กินกับน้ำจิ้มซีอิ๊วหวานและน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเปรี้ยว ใครที่กำลังมุ่งหน้าไปหาดชะดำก็อย่าลืม ซื้อหมูหันนายก ติดไม้ติดมือไปกินริมทะเลกันด้วยนะคะ รับประกันความอร่อย
เปิดทุกวัน 7.00น.-20.00น.
Moo Han Na Yok – BBQ Pork & Chicken
ร้านที่ 17 ร้านครัวเจ๊นงค์
ร้านอาหารซีฟู้ดริมทะเล บรรยากาศดี ลมทะเลตีหน้า ใครไม่มาถือว่าพลาด เพราะของทะเลสดมากก รสชาติอาหารดี เมนูมีให้เลือกเยอะ แต่ละจานก็คือมาไซส์งานวัด
เมนูแนะนำ
เนื้อปูก้อนผัดพริกสด ปูสด เนื้อแน่นๆ หวานๆ ผัดมากับพริกขี้หนูเผ็ดๆ ปรุงรสมาเค็มอ่อนๆ
หอยเชลล์ผัดเนยกระเทียม หอยเนื้อเด้ง หวานอร่อย หอมกระเทียม
ปลาเต๋าเต้ยนึ่งบ๊วย ปลาสด เนื้อหวาน
กุ้งทอดกระเทียม กุ้งเนื้อแน่น หวาน กระเทียมทอดมากรอบมาก ไม่ติดขมเลย
เปิด-ปิด 11.00 น.-15.30 น. และ 17.30 น.-21.00 น. (ทุกวัน)
Krua Jeanong Seafood
ร้านที่ 18 ร้านขนมปังฝรั่งเศส (The Baguette)
ร้านขนมปังฝรั่งเศสที่เปิดมานานมาก ใครไปเที่ยวชะอำ ขากลับยังไงก็ต้องแวะ เราไม่ได้ชิมอะไรเยอะ แต่เลือกซื้อขนมปังกลับมา 2 ตัว นั่นก็คือ Baguette และ Italian Baguette เอากลับมาฝากทีมครัวให้ลองชิมกัน พอดีที่ออฟฟิศมีสเปรตพอดี เลยเอามาปาดกินซะเลย
เปิด-ปิด 7.30 น.-18.30 น. (ทุกวัน)
The Baguette Cha-am 2016
ร้านที่ 19 ร้าน Coco&Coff
ใครสายคาเฟ่ต้องไม่พลาดที่นี่ คาเฟ่กลางสวนมะพร้าว บรรยากาศดี มุมถ่ายรูปเยอะ แถมยังมีเมนูที่ทำจากน้ำมะพร้าวหลายอย่างให้ชิมพร้อมกับชมธรรมชาติอีกด้วย เมนูแนะนำ อเมริกาโนมะพร้าว มัทฉะนมมะพร้าวและพายมะพร้าว
เปิด-ปิด 9.30 น.-17.30 น. (ปิดวันอังคาร)
Coco&coff
ขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
