ข้าวโพดไทย

4,279 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
ความหลากหลายของข้าวโพดในไทย และสูตรอร่อยจากข้าวโพด

ย้อนไปในอดีตสัก 60 ปีมาแล้วในเมืองไทย เท่าที่ผู้เขียนจำความได้ ก็พบเจอแต่ข้าวโพดข้าวเหนียว กับข้าวโพดเทียน จำได้ว่าเมื่อเป็นเด็กวิ่งเล่นได้แล้ว แทะข้าวโพดก็ได้ด้วย เริ่มมีข้าวโพดหวานเข้ามา ตอนนั้นก็พากันตื่นเต้นได้กินข้าวโพดที่มีรสหวานจะจะ ข้าวโพดหวานยุคบุกเบิกนั้น เปลือกเมล็ดข้าวโพดหนา ตัวข้าวโพดแข็งเหนียว กินยาก เคี้ยวยาก แต่เพราะมีรสหวานที่โดดเด่นไปจากข้าวโพดข้าวเหนียว ก็ทำให้ข้าวโพดหวานกลายเป็นของพิเศษที่ใครได้กินละก็ดีใจ ยินดีทีเดียว

ผู้เขียนเป็นคนชอบกินข้าวโพดมากๆ น่าแปลกที่วันเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ ข้าวโพดข้าวเหนียวถูกกดจมลง กลายเป็นแค่ข้าวโพดท้องถิ่นที่หากินยาก ไม่มีราคา ไม่ค่อยมีที่ได้คุณภาพเช่นโบราณ ที่เมล็ดข้าวโพดสีขาวนวลนั้น นุ่มนิ่มเหนียว ตุ้ยเวลาเคี้ยว ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งหวาน ยิ่งกินก็ยิ่งอร่อย คนมีอายุทั้งหลาย ณ บัดนี้ ก็จะถวิลหาแต่ข้าวโพดข้าวเหนียว ข้าวโพดเทียนฝักเล็ก เมล็ดสีเหลืองนวล ที่ทั้งนิ่มแบบนิ่มนวล เหนียวแต่พอดีนั้น

แม่ผู้เขียนอายุกว่า 80 ปีแล้ว จะสั่งไว้ตลอดเวลา ถ้าไปต่างจังหวัดอย่าลืมหาข้าวโพดข้าวเหนียวที่ได้คุณภาพแบบโบราณมาฝากหน่อย ผู้เขียนเองก็พยายามเสาะหา บางทีก็กลั้นใจซื้อมาฝากแม่ แม้จะไม่ได้คุณภาพเท่าที่ต้องการ ซึ่งแม่ก็จะบอกว่า “เดี๋ยวนี้ข้าวโพดไม่อร่อยเหมือนแต่ก่อนเลย” มีครั้งหนึ่งหอบซื้อข้าวโพดต้มของชาวบ้าน ที่เป็นข้าวโพดข้าวเหนียว จากท้ายตลาดวโรรส จังหวัดเชียงใหม่ ข้าวโพดอร่อยมาก เหนียวนุ่มกำลังดี แม่บอกว่า “นี่แหละ ใช่เลย ข้าวโพดข้าวเหนียวแบบโบราณ” แต่นั้นมา ไม่ว่าตัวเองจะเดินทางไปเชียงใหม่ หรือแม้แต่คนอื่นที่สนิทชิดเชื้อเดินทางไปเชียงใหม่ ก็จะฝากซื้อข้าวโพดข้าวเหนียวต้มของชาวบ้านตลาดวโรรสตลอดมา เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว แต่…เชื่อหรือไม่ว่า หลังจากนั้นแล้วก็ไม่เจอข้าวโพดข้าวเหนียวที่แสนอร่อยอีกเลย ดังนั้น ข้าวโพดข้าวเหนียวต้มที่ “เทียวไล้เทียวขื่อ” ซื้อมา จึงกลายเป็นอาหารของสมาชิกอื่นๆในบ้านที่ไม่ใช่แม่ และไม่ใช่ผู้เขียน

อีกครั้งเมื่อ 4-5 ปีมาแล้ว ผู้เขียนเดินทางไปเที่ยวที่ราบสูงรัฐฉาน ไปชื่นชมดูวิถีชีวิตของชาวไทใหญ่ ไทลื้อ บนที่ราบสูง และทะเลสาบอินเลขนาดใหญ่มหึมาระหว่างขุนเขา ดูชาวบ้านจับปลาด้วยการยืนที่หัวเรือ ใช้ขาข้างหนึ่งพายเรือ มือถือฉมวก คอยพุ่งฉมวกเสียบปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำใสแจ๋วราวกับตาตั๊กแตน

วันเดินทางกลับ เรามาขึ้นเครื่องบินลำเล็กๆ บนลานบินบนที่ราบสูง ชาวบ้านเอาข้าวโพดข้าวเหนียวแบบข้าวก่ำ คือ เมล็ดข้าวโพดสีดำสนิทเรียงเป็นแถวเป็นแนวแน่นฝัก มีทั้งแบบสีผิวกระดำกระด่าง มันทำให้ผู้เขียนนึกถึงข้าวโพดข้าวเหนียวข้าวก่ำ ที่ไม่ได้พบเจอะเจอกันมานานเหลือเกิน ผู้เขียนจึงซื้อมาหนึ่งหอบใหญ่ ประมาณกว่า 10 ฝัก ถือเข้ามาในสนามบินเล็กๆ ที่มีผู้คนกระหย่อมเดียว ไม่มีโทรโข่งประกาศ มีแต่ป้ายที่เจ้าหน้าที่คอยชูบอกว่า ถึงเวลาขึ้นเครื่อง หรือทางออกไปขึ้นเครื่องอยู่ตรงไหน อะไรทำนองนี้ ซึ่งผู้เขียนว่าน่ารักดีออก ไม่ต้องไปพึ่งหรืองอนง้อเทคโนโลยีให้มากนัก

ผู้เขียนเอาข้าวโพดแจกบรรดาผู้ที่ไปเที่ยวด้วยกัน รวมทั้งลูกสาวด้วย หลังจากปอกเปลือกข้าวโพดและแทะกินเท่านั้น “โอ้โฮ…ใช่เลย นี่คือข้าวโพดข้าวเหนียวแท้จริงแต่โบราณ ช่างนุ่มเหนียว ยิ่งเคี้ยวยิ่งหวานอร่อยอะไรเช่นนั้น”

เจ้าหน้าที่ยกป้ายประกาศว่า เครื่องบินของเรามาช้าและออกช้า 1 ชั่วโมง “สวรรค์โปรด…ดีใจมากที่เครื่องบินดีเลย์ (delay) เป็นความดีใจครั้งแรกในชีวิตกับการมาช้าของเครื่องบิน” อย่ากระนั้นเลย ผู้เขียนขอออกจากสนามบิน ซึ่งก็ออกเข้ากันง่าย เดินแกมวิ่งออกไปยังแม่ค้า ฉุดเอาลูกสาวมาด้วย คราวนี้ก็กว้านซื้อข้าวโพดเสียหมดทุกเจ้า เรายิ้มแย้มดีใจที่ได้กินข้าวโพดแสนอร่อยที่ถวิลหามานมนาน แม่ค้ายิ้มแป้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เชื่อหรือไม่ว่า ซื้อคราวนี้กว่า 10 ถุง ถุงละ 10 ฝัก เอามากินกันในกลุ่มอย่างเอร็ดอร่อย ฝรั่งที่รอขึ้นเครื่องบินดูพวกเราแบบประหลาดใจ เราก็แจกออกไปให้กินด้วย

อาหารมื้อนั้นฉันกินข้าวโพดต้มอย่างเดียวหมดเกือบ 10 ฝัก ลูกสาวกินไม่หยุด 3-4 ฝัก คนอื่นก็เช่นกัน ไม่ช้าข้าวโพดกว่า 100 ฝัก ก็แทบหมดไปเลย เสียดายจัง ลูกสาวเองยังฝังใจความอร่อยของข้าวโพดข้าวเหนียวจนทุกวันนี้ อยากไปเที่ยวทะเลสาบอินเลอีก เพราะอยากกินข้าวโพดข้าวเหนียวแบบข้าวก่ำอันแสนอร่อยนั่นเอง

ข้าวโพดแปดแถว อยู่ที่แปดริ้ว (ฉะเชิงเทรา)  เมืองหลวงพ่อโสธรที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าไปไหน ถ้าผู้เขียนเห็นข้าวโพดทั้งสุกและดิบวางขาย เป็นอันเร่เข้าไปหาทันที คราวนี้มากราบหลวงพ่อโสธร กินขนมลูกจากลอยแก้ว ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อโบราณ ขนมกุยช่ายเจ้าอร่อย แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ บนเส้นทางขากลับ เห็นแผงขายข้าวโพดเรียงเป็นแถวเป็นแนวยาวเหยียด แวะซื้อได้ความว่า เป็นข้าวโพดแปดแถว ของดีของจังหวัดฉะเชิงเทรา

อืม น่าสนใจดี เปิดเปลือกออกแล้ว น่าแปลก ไม่ว่าฝักเล็กฝักใหญ่ขนาดไหน ก็จะมีเมล็ดข้าวโพดสีขาวนวลเรียงกันเพียง 8 แถวเท่านั้น แถวห่างๆ มองเห็นแกนข้าวโพดได้

พอลองกินดู เนื้อนิ่ม กินง่าย เคี้ยวง่าย แต่ไม่เหนียวตุ้ยเหมือนข้าวโพดข้าวเหนียว กินไปกินมาก็อร่อยดี ซื้อมาพอหอมปากหอมคอ ไม่ถึงกับซื้อถล่มทลายเหมือนที่รัฐฉาน

ข้าวโพดหวาน ไร่สุวรรณ มีการพัฒนาสายพันธุ์จากวันวานถึงวันนี้เป็นอย่างมาก จากเมล็ดข้าวโพดเปลือกหุ้มหนา ก็ค่อยๆ บางลง เนื้ออ่อนนุ่มขึ้น แต่ไม่มีผิวสัมผัสที่นุ่มเหนียว หวานเพิ่มมากขึ้น แดนข้าวโพดหวานที่ผู้เขียนเป็นแฟนประจำก็นี่เลย สองข้างทางบนภูสูง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ผู้เขียนเป็นคนชอบอุดหนุนชาวบ้าน แวะซื้อจากชาวบ้าน ซึ่งก็ได้ข้าวโพดหวานที่อร่อยบ้าง แห้งแข็งบ้าง ต้มนานเกินไปบ้าง คุณภาพและเนื้อสัมผัสไม่สม่ำเสมอ จนกระทั่งมาเจอแผงข้าวโพดหน้าไร่สุวรรณ

ข้าวโพดหวานไร่สุวรรณ ฝักเล็กกว่าของชาวบ้าน เมล็ดข้าวโพดก็เล็กกว่า แต่พอกัดกินต้องร้อง “โอ้โฮ หวานสนิท นุ่มนวลถนัด กินเพลิน เคี้ยวเพลินทีเดียว” แต่นั้นมา ไม่ว่าใครไปใครมาบนเส้นทางนี้ ผู้เขียนก็จะขอเลยทีเดียวว่า ต้องซื้อข้าวโพดต้มบนแผงข้างทางของไร่สุวรรณมาฝากนะ

ความอร่อยนี่เป็นสุดยอดของการตลาดทีเดียว ปรากฏว่า ถ้ามาถึงช้าข้าวโพดก็ขายหมด เผอิญผู้ที่จะผ่านทางนี้ก็จะผ่านช่วงเย็นมากเสียด้วย ก็เลยชวดฉลูอยู่บ่อยๆ

บัดนี้น่ายินดีที่แผงแบบเพิงขายข้าวโพดของไร่สุวรรณ ได้ขยายการค้าการขาย จนกลายเป็นอาคารขนาดใหญ่มีที่จอดรถมากมาย ขายข้าวโพดต้ม ข้าวโพดดิบ น้ำข้าวโพด และผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ มากมาย คนขายคนต้มข้าวโพด ทำงานมือเป็นระวิงทีเดียว ซื้อกินทีไรก็ไม่ผิดหวัง

กินข้าวโพดหวานดิบจากฝักสด ครั้งเดินทางไปเมืองน่านช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เพื่อไปชื่นชมดอก “ชมพูภูคา” ซึ่งก็ได้เห็นอยู่ต้นเดียวในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่กำลังมีช่อดอกตูมเต่งอยู่ เตรียมบานในอีกสิบวันข้างหน้า แต่ที่ได้ชมอย่างฉ่ำใจก็คือ ดอกข้าวโพดที่ชูช่อรายเรียงเสมอกันสุดขอบฟ้า

เห็นดอกข้าวโพดอย่างนั้น ผู้เขียนก็ตั้งจิตเลยว่า ต้องกินข้าวโพดเมืองนี้ให้ได้ สมใจอยาก เจอชาวไร่ตัดเอาฝักข้าวโพดสดๆ มากองขายอยู่ข้างถนนใกล้ตลาดแลง (ตลาดเย็น) ขั้วเขียวรอยตัดใหม่ เปลือกเขียวสดใส ไหมข้าวโพดอ่อนนุ่มเป็นเส้นสลวย ข้าวโพดยิ่งสดยิ่งหวาน เนื้อจะนุ่มมาก เห็นถุงใหญ่ใส่ข้าวโพดเรียงเต็มถุง ได้ความว่าถุงละ 10 กิโลกรัม ราคาเพียง 80 บาทเท่านั้น…อยากซื้อ

บอดี้การ์ด คุณสามีห้ามตัวโก่งทีเดียวว่า “ซื้อได้อย่างไร จะขนขึ้นเครื่องบินลำก็เล็กนิดเดียวได้อย่างไร ใครจะเป็นคนหิ้วของหนักตั้ง 10 กิโลกรัมได้ ฉันยิ่งมีปัญหาที่หลังอยู่ด้วย” คราวนี้ผู้เขียนก็ตาละห้อย ไปนั่งกับแม่ค้า รำพึงรำพันว่าอยากซื้อแต่ซื้อไม่ได้ แม่ค้าเลยหยิบข้าวโพดที่ปอกเปลือกแล้ว เอามาให้ 2 ฝัก บอกว่า “ให้ไม่ต้องซื้อ”  ผู้เขียนอยากจะรักษาน้ำใจอันแสนดีของแม่ค้าชาวไร่ จึงหยิบน้ำมันเขียวฤทธิ์เย็นขวดเล็กของหมอเขียวให้แม่ค้าบ้าง เป็นอันต่างตอบแทนด้วยไมตรีจิต

“แม่ค้ารู้ไหมว่าฉันชอบกินข้าวโพดสดแบบดิบๆ นี้มาก” แม่ค้าก็เลยเล่าให้ฟังว่า ฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองน่านจะซื้อข้าวโพดจากแกไป แล้วปอกกินสดๆ เลย แกบอกว่า “แม่ค้าเองก็ชอบกินสดๆ ดิบๆ หักจากต้นใหม่ๆ มันหวานเนอะ ลำแต้ๆ แต่บ่มีผู้ใด๋ฮู้จัก”

และค่ำวันนั้นฉันก็ได้แทะข้าวโพดสดแบบดิบๆ ที่แม่ค้าให้มาในขณะรอขึ้นเครื่อง ข้าวโพดสดหักจากต้นใหม่ๆ เมล็ดข้าวโพดมันเรียบ เนื้อสัมผัสหนึบ เมื่อกินเมล็ดข้าวโพดชุ่มน้ำ เนื้อฉ่ำ รสหวานอร่อยเหลือหลาย กินหมดทั้งสองฝักโดยไม่แบ่งให้บอดี้การ์ดเลย แต่บอดี้การ์ดก็แทะข้าวโพดเหมือนกัน แต่เป็นอย่างต้มที่ซื้อจากตลาดแลง (ตลาดเย็น)

ข้าวโพดสองสี วิวัฒนาการพันธุ์ใหม่ล่าสุด มาแรงเมื่อประมาณ 10 ปีมานี้เอง ข้าวโพดสองสีอยู่ในกลุ่มข้าวโพดหวาน เมล็ดข้าวโพดมีทั้งสีเหลืองสลับกับสีขาวเห็นเด่นชัด จึงได้ชื่อว่าข้าวโพดสองสี ตามลักษณะสีของเมล็ดข้าวโพด

ข้าวโพดสองสีรสหวาน เปลือกเมล็ดบางกว่าข้าวโพดหวานธรรมดา เนื้อนุ่มเนียนกว่าเยอะ ขณะเดียวกันก็ “แพงกว่ากันเยอะเลย” กลายมาเป็นข้าวโพดประจำบ้านของผู้เขียนนับแต่วินาทีแรกที่อวดตัวสู่ท้องตลาด ก็เพราะผู้เขียนชอบกินข้าวโพดนั่นเอง ชอบมันทุกชนิด แต่ข้าวโพดสองสีกลายมาเป็นเครื่องปรุงอาหารที่ลูกๆ กินกันอย่างเอร็ดอร่อยทีละมากๆ เป็นอาหารจานเลี้ยงแขกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของลูกๆ หรือแขกของพ่อแม่ ด้วยจานอาหารที่ธรรมดาว่า “ไข่ข้าวโพด” ไม่มีใครรู้จักอาหารจานประจำบ้านนี้เลย แต่ทุกคนที่ได้ลิ้มชิมแล้ว ต่างบอกว่าอร่อยจริงๆ

ข้าวโพดสองสีต้ม ผู้เขียนซื้อกินทุกครั้งที่ไป “Supermarket Golden Place” อยู่ข้างศูนย์แพทย์พระราม 9 แม้ว่าจะแสนแพง แต่ก็อร่อยทุกครั้งที่กิน ไม่ผิดหวัง ขายดิบขายดี บัดนี้ข้าวโพดสองสีมีขายทั่วไป แม้แต่แผงลอยในตลาดนัดบางแห่ง

ข้าวโพดสีม่วง ออกมาอวดโฉมแปลกๆ ในท้องตลาด ก่อนต้ม เมล็ดข้าวโพดสีม่วงเข้มสวย เปลือกเขียว แต่พอต้มไปแล้วสีตกออกมา เปลือกกลายเป็นสีม่วง เนื้อสัมผัสไม่ใช่ข้าวโพดข้าวเหนียวข้าวก่ำแต่โบราณ แต่เป็นข้าวโพดตัวใหม่ที่ผู้เขียนไม่รู้จัก เนื้อแข็งเป็นข้าวโพดแห้ง เนื้อเหนียวน้อย รสหวานมีน้อย ไม่ค่อยอร่อยนัก แต่บางฝักก็เหนียวนุ่มอร่อยเหมือนข้าวโพดข้าวเหนียวแต่โบราณ ก็แปลกดี ดูจากสีน่าจะมีคุณค่าอาหารประเภทเบต้าแคโรทีนเยอะ

หวังว่าข้าวโพดสีม่วงต่อไปจะอร่อยทุกๆ ฝักเหมือนเขาอื่น

เมนูอร่อยจากข้าวโพด

โครเกตต์ข้าวโพด

ผัดกะเพราข้าวโพด

ผัดข้าวโพดทอดกรอบซอสไข่เค็ม

คอร์น ฟิตเตอร์

ผัดข้าวโพดกับไพน์นัท

ข้าวโพดย่างสไตล์เม็กซิกัน

น้ำนมข้าวโพด

สลัดข้าวโพดกับอะโวคาโด

เรื่อง ยอดแต้ว อักษรา

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS