มาค่ะ มาค่ะ คุณคุณทั้งหลาย เมนูนี้นะคะชื่อว่า แกงมัสมั่นฟองเต้าหู้สด เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพกินมังสวิรัติกันเลยที่เดียว
ต้มน้ำซุปผักในหม้อด้วยไฟอ่อนจากนั้นใส่ ใส่ผักกาดดอง มะเขือเทศ และฟองเต้าหู้ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำตาล เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ กับเมนู ต้มผักกาดดองฟองเต้าหู้สด! กันดีกว่าค่ะ
อาหารไทยๆ เอาใจคนทานมังสวิรัติ กับเมนู 'แกงส้มมะละกอฟองเต้าหู้สด' กันหน่อยดีกว่า กับการโขลกพริกแกงส้มและปรุงรสน้ำแกง ยังค่ะ ยังไม่พอค่ะ ต้องใส่มะละกอ และของเด็ดอีกอย่างคือ ฟองเต้าหู้สด เองจ้า! มาค่ะมาลองทำกันเลย
เมนูที่ทำง่ายๆ แต่อร่อยมาก! มาให้คุณได้ลองทำกันกับเมนู 'ฟองเต้าหู้สดนึ่งบ๊วย' ราดด้วยน้ำราดเห็ดหอม โรยหอมซอยนิดๆ ขึ้นฉ่ายหน่อยๆ แต่งด้วยพริกชี้ฟ้าซอย ทานคู่ข้าวสวยร้อนๆนะ Perfect!!
เทศกาลกินเจเวียนกลับมาทั้งที งานนี้เลยขอจัดเมนูพิเศษที่ทำงายเเถมอร่อยมากด้วย กับเต้าหู้โมเมนทอดกรอบๆคลุกซอสเทอริยากิโฮมเมดรสหวานหอมที่ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน เสิร์ฟพร้อมถั่วเเระญี่ปุ่นเเละเเครอทซอย เป็นเมนูเจที่จะไม่จำเจอีกไป
มาค่ะ เมนูอาวายสไตล์ญี่ปุ่น ผสมผสานความเป็นอีสานด้วย แซลมอน ต้นหอม ผักชีฝรั่ง แตงกวาญี่ปุ่น สับปะรด หอมแขก ผัดกาดฮีน เมล็ดกระถิน สำหรับโรย พร้อมน้ำราดเพิ่มความแซ่บของเมนูเพิ่มไปอีก!!
แกงโบราณหากินยากฉบับแม่ครัวหัวป่าก์ที่เปลี่ยนจากเนื้อตะพาบน้ำในสมัยก่อนมาเป็นขาหมูเนื้อนุ่มหนึบ โดยใช้หัวกะทิตุ๋นกับขาหมูให้เนื้อเปื่อยนุ่ม นำมาผัดกับพริกแกงให้หอมดีจึงนำขาหมูลงผัดให้เข้ากัน เติมหัวกะทิ ปรุงรส เพิ่มผลไม้อย่างมะอึกเเละสละให้ได้รสเปรี้ยวอมหวานเเบบธรรมชาติ ตุ๋นเคี่ยวจนแกงข้นเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม เป็นแกงคั่วส้มน้ำคลุกคลิกรสเข้มข้นที่อยากให้ได้ลิ้มลอง
ต้มโคล้งโบราณจากเล่มแม่ครัวหัวป่าก์อันเก่าแก่ มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกับในปัจจุบัน ใช้กะปิ หอมแดง เเละพริกไทยขาวโขลกเป็นเครื่องแกง ใส่เนื้อกุ้ง เนื้อหมูสามชั้นเเละปลาสลิด เติมความหวานจากน้ำสต๊อกเเละหอมแดง ความเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก รสกลมกล่อมเปรี้ยวเผ็ดร้อนที่ไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี
ส้มตำสูตรนี้เป็นการนำเอาแอนโชวี ที่มีความคล้ายคลึงกันอยู่ ซึ่งมันก็ได้เหมือนกัน อาจจะหอมไม่เท่า นัวไม่เท่า แต่รับปะกันได้ว่าแซ่บได้เหมือนกัน และก็ใช้เส้นอย่างซูคินี แตงกวาญี่ปุ่น และแครอท แทนเส้นมะละกอ แต่จริงๆแล้วจะใช้ผักอะไรก็ได้ที่มีความกรอบ และสามารถขูดเป็นเส้นได้ เท่านี้ก็สามารถทำส้มตำปลาร้ากินได้แล้วเช่นกัน
ข้าวมันไก่ก็ต้องกินกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสชาติจัดจ้าน แต่ในเมื่อหาเต้าเจี้ยวไม่ได้เราก็นำเอามิโสะมาทดแทนเต้าเจี้ยว ปรุงรสให้ได้รสชาติที่คล้ายคลึงกัน กินกับข้าวมันหอมๆและไก่ย่างรสเด็ด
แกงเขียวหวานรสชาติกลมกล่อม ใส่มะเขือม่วงและถั่วลันเตา แทนมะเขือพวงและมะเขือเปราะ เปลี่ยนจากเนื้อไก่หรือเนื้อวัว เป็นกุ้งแทนได้รสชาติที่ถูกปากและไม่แตกต่างจากแบบเดิม
นาทีนี้....ไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่า 'หมูย่างเกาหลี' อีกแล้ว หมูสามชั้นย่างบนกะทะร้อนๆกินคู่ใบงา มาพร้อมเครื่องเคียงหลากหลายทั้งกิมจิ ยำผักเกาหลีหรือแป้งโมจิย่างของยอดฮิต เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเกาหลีแสนอร่อย
เสาวรส เรียกในหลายชื่อทั้งเสาวรส กะทกรก หรือภาษาอังกฤษที่เรียกกันว่า แพสชั่นฟรุต (Passion fruit) รสชาติเปรี้ยวหวาน นำมาทำเป็นเมนูเครื่องดื่มได้อย่างอร่อยเเละสดชื่น
ผลไม้อย่างเสาวรสหรือกะทกรกที่เรียกกัน ทุกคนคงรู้ประโยชน์ของเสาวรสกันมาบ้าง แต่ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวจัดบวกกับกลิ่นเฉพาะตัวของเสาวรส อาจจะทำให้บางคนไม่ชอบ แต่ถ้าลองนำมาทำเมนูเครื่องดื่มอย่าง น้ำเสาวรสโซดา รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เย็นชื่นใจ
ไข่เค็มแดงนำไปปั่นให้ละเอียดกับน้ำมัน ก่อนนำไปผัดให้หอมกับเครื่องเคล้าต่างๆ ให้หอม ก่อนใส่กุ้งลงผัดแค่พอสุก กินกับข้าวสวยร้อนๆ
ยำไข่ดาวธรรมดาก็จะดูธรรมดาไป ลองนำไข่เค็มที่ดองเองมาทอดให้ไข่ขาวกรอบไข่แดงยังหนึบๆอยู่ กินคู่กับน้ำยำรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เผ็ด เค็มกำลังพอดี
อันยองฮาเซโย...ต้อนรับอาหารเกาหลีฟีเวอร์ทำง่ายเเถมอร่อยฟินมากเวอร์กับเมนูยอดฮิตติดลมบนตลอดกาลอย่างปีกไก่ทอดกรอบๆคลุกซอสรสเผ็ดหวานจัดจ้านเข้มข้นสไตล์เกาหลี ที่จะปรับระดับความเผ็ดเพิ่มเท่าไหร่ก็ได้ตามชอบ รับรองว่ากรอบสะท้านเพดานปากเผ็ดเข้มข้นถึงใจเหมือนบินไปกินเกาหลียังไงยังงั้นเลย
อันยองฮาเซโย! เชิญพบกับ โคเรีย ฮอทด๊อก หรือ หรือ หรือ คอร์นด๊อกนั่นเอง ไส้กรอกชุบแป้งและมีชีส ยืด ยืดดดดด ที่เป็นของทานเเล่นในประเทศเกาหลีแต่เป็นอาหารยอดฮิตในไทย แถมวิธีทำก็แสนง๊ายง่าย มาลองกันเลยดีกว่า
ขนมปังธรรมดาๆ เราก็เบื่อ ขนมปังกรอบๆเราก็เบื่อ งั้นมาลองทำขนมปังที่แปลกใหม่แบบขนมปังเนยหนึบดีกว่า แต่ แต่ แต่ขอเพิ่มของยอดฮิตในช่วงนี้ลงไปคือ....ไข่แดงเค็ม นั่นเอง! ทั้งในตัวเนยหนึบและโรยหน้า โอ๊ย! อยากลองทำแล้ว งั้นไปลุยกันดีกว่า!!
อาหารแซ่บยามนี้ไม่มีใครเกินยำกุ้งสดปลาร้า กุ้งขาวเนื้อเด้งเพราะล้างสะอาดจนหมดมันกุ้ง และเอาไปแช่น้ำโซดาจนกรอบเด้ง เอามาทำยำคล้ายๆยำหรือตำมะม่วงแบบใส่น้ำปลาร้า รสเผ็ดนัว เปรี้ยวเข็ดฟันจากมะม่วง รับรองเรียกน้ำลายสายอีสานได้แน่
แกงระแวง นี้ ถือเป็นแกงโบราณอย่างหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีลักษณะคล้ายพะแนง แต่ใช้พริกแกงเขียวหวานที่เติมขมิ้น จึงมีสีสันออกสีเหลืองทอง ใกล้เคียงแกงเขียวหวานผสมแกงขมิ้นหรือแกงกะหรี่ แต่ในส่วนของรสชาตินั้น แกงระแวงจะมีความเข้มข้นกว่า เพราะมีน้ำแกงที่ขลุกขลิก เหมือนกึ่งแกงกึ่งผัด แต่ความข้นเหนียวจะไม่เท่ากับพะแนง พร้อมทั้งมีกลิ่นหอมและรสชาติของตะไคร้ ยี่หร่า ลูกผักชี และขมิ้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องแกงธีระแวง สำหรับการทำแกงระแวง ส่วนใหญ่จะใช้เนื้อวัวหั่นชิ้นพอคำ นำมาเคี่ยวกับหางกะทิไปเรื่อยๆ จนทำให้น้ำหางกะทิงวดลงจนขลุกขลิก การทำแกงระแวงเนื้อแบบโบราณนั้น ควรเริ่มต้นจากการคัดวัตถุดิบหลักคือ เนื้อวัว โดยเลือกใช้ส่วนที่อร่อยที่สุดอย่าง “แก้มวัว” ที่คนส่วนใหญ่อาจคิดว่ารับประทานไม่ได้ แต่ที่จริงแล้วเป็นส่วนของเนื้อที่มีรสสัมผัสเหนียวนุ่ม สามารถนำมาทำให้อร่อยได้ แถมแก้มวัวยังอุดมไปด้วยคอลลาเจนตามธรรมชาติ ที่เกิดจากการเคี้ยวบดหญ้าตลอดเวลาของวัว ทั้งยังถือเป็นการรักษาคุณค่าของอาหาร
แกงนางลอย กับข้าวชาววัง เป็นแกงประเภทแกงเผ็ดที่เข้ากะทิ ที่มีนางเอกก็คือพริกหยวก สีเขียวอ่อน รสชาติหวานกรอบ ก็นำมาผ่านำเมล็ดพริกและไส้พริกออก นำหมูบดที่ปรุงรสด้วยเกลือและสามเกลอ สอดไส้ใส่ลงไปให้ขนาดพอดีกับพริกหยวก จะใช้ไก่สับหรือหมูสับก็แล้วแต่สะดวก ผัดน้ำพริกแกงกับกะทิ ให้หอมและแตกมัน ปรุงรสด้วย น้ำตาลมะพร้าวและน้ำปลา ให้รสชาติหวาน เค็ม กลมกล่อม นำพริกหยวกที่ยัดไส้มาเคี่ยวกับน้ำแกงเผ็ด รอให้เดือดซักครู่ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ แกงนางลอย รสชาติ จะหวานนำเค็ม และมีรสกลมกล่อมที่ได้จากกะทิคั้นสด เป็นความอร่อยที่หารับประทานได้ยาก ในยุคปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังสามารถทำได้เอง วิธีการทำการแกงไทยโบราณตามตำรับดั้งเดิม ที่ยังคงมีมนต์เสน่ห์ในตัวเอง ให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้รู้จักกัน และช่วยกันสืบสาน เพื่อรักษาเอกลักษณ์มรดกทางวัฒนธรรมนี้เอาไว้ไม่ให้สูญหายไปไหน
