ใครๆ ก็รู้ว่าพาหุรัดคือทางลัดสู่ดินแดนภารตะ…
ย่านใหญ่ใจกลางเมืองแห่งนี้อบอวลด้วยกลิ่นอายสไตล์อินเดียมานานเกือบร้อยปี และร้านรวงเก่าแก่มากมายก็ค้าขายกันมานานเท่าอายุของย่าน หนึ่งในนั้นคือ Royal India Restaurant ร้านอาหารอินเดียที่นับเป็น ‘เจ้าแรก’ ของพาหุรัด จุดเตาบอกเล่าความอร่อยกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ รสชาติและคุณภาพของทุกเมนูเป็นที่ยอมรับของนักชิม ทั้งคนอินเดียเองและคนไทยที่อินอาหารอินเดียต่างยกให้ร้านนี้เป็นชอยส์แรกๆ เมื่ออยากสัมผัสกับรสชาติอาหารภารตะแบบสายแข็ง
ไม่ใช่แค่อาหารที่ทำให้เราอยากแนะนำให้คุณลองร้านนี้ แต่รวมถึงเรื่องราวของร้านที่คู่ขนานมากับความคลาสสิกของย่านพาหุรัดนั่นด้วย เช่นว่า ร้านนี้เป็นแหล่งทำชีสอินเดีย (Paneer) จากนมวัวสดใหม่ในทุกๆ เช้าเพื่อส่งให้ห้องอาหารอินเดียใหญ่ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ยังไม่รวมโยเกิร์ตหมักเองที่กลายมาเป็นอาหารทั้งคาวหวานแสนอร่อยที่เราติดอกติดใจ
ถ้าใครยังนึกภาพความอร่อยที่เรียงร้อยอยู่ในร้านนี้ไม่ออก เรามีตัวอย่างรสชาติน่าสนใจที่เราไปลองแล้วคิดว่า นี่แหละใช่! มาแนะนำให้ดังต่อไปนี้
1.Vegetarian Thali Set / เซ็ตอาหารสไตล์อินเดียแท้
ใครมาคนเดียวแล้วลายตาไม่รู้จะสั่งอะไร (หรือสั่งมากไปก็กลัวกินไม่หมด) ชุดอาหารนี้คือชอยส์ที่ใช่อย่างแน่นอน ในชุดสำรับประกอบด้วยเมนูพื้นฐานแบบอินเดียแท้ ทั้งแกงถั่วเหลืองสุดเข้มข้น แกงถั่วลันเตาใส่ชีสรสชาติน่าตื่นเต้น โยเกิร์ตหมักเองผสมกับแตงกวาสดและเครื่องเทศกลิ่นหอมแรง (คนอินเดียนิยมกินโยเกิร์ตคู่กับอาหารคาวกันมากๆ) ไก่ย่างทันดูรีเนื้อหนึบ ข้าวบริญานีสีเหลืองทอง และที่ดีมากจนเราอยากแนะนำคือ ‘ปาปาดัม’ ข้าวเกรียบหอมๆ กรอบๆ ที่กินกับเครื่องเคียงแสนจัดจ้านในสำรับแล้วลงตัวสุดๆ!
2.Roghan Jorh / แกงเนื้อแพะข้น
แกงเนื้อแพะสุดเข้มข้น พิเศษตรงพ่อครัวนำเนื้อแพะมาเคี่ยวกับเครื่องเทศมาซาล่านานถึง7-8 ชั่วโมง จนได้เนื้อแพะเปื่อยนุ่มไร้กลิ่นสาบ โดยเครื่องเทศพื้นฐานในแกงอินเดียหรือ ‘มาซาล่า’ นั้นมักมีส่วนผสมแตกต่างกันตามแต่ละร้าน ส่วนของ Royal india เครื่องเทศจะไม่เผ็ดจัดแต่หอมเครื่องเทศสุดๆ ยิ่งกินกับแป้งนานนุ่มหนึบแล้วเข้ากันอย่าบอกใคร
3.Garlic Nan / แป้งนานอบกระเทียม
อาหารจำพวกแป้งในอินเดียเรียกรวมๆ ว่า ‘โรตี’ แป้งนานก็เป็นโรตีแบบนึง ทำจากแป้งสาลีนวดเป็นแผ่นบาง แล้วย่างในเตาทันดูร์ (โอ่งดินที่คนอินเดียนำมาใช้อบหรือย่างอาหาร) ความดีงามของเมนูนี้อยู่ตรงที่พ่อครัวนำแป้งนานมาย่างกับกระเทียมอีกรอบจนได้แป้งหอมๆ ที่ซับน้ำแกงชุ่มๆ แล้วอร่อยสุดๆ
4.Chicken Tikka masala / แกงไก่ทันดูรีข้น
ไก่ แพะ ปลา คือเนื้อสัตว์ที่คนอินเดียนิยมกินกันทุกบ้านทุกครัว สำหรับจานนี้พ่อครัวนำเนื้อไก่มาหมักกับโยเกิร์ตและเครื่องเทศจนนุ่ม จากนั้นนำไปย่างให้สุกกำลังดี ถึงนำมาเคี่ยวกับเครื่องเทศรสร้อนแรงอีกครั้งแล้วเติมหัวหอม มะเขือเทศ ขิง และกระเทียม จนได้แกงไก่สไตล์อินเดียรสกลมกล่อมจนเราติดใจ
5.Paneer Tikka / ชีสอินเดียย่าง
ใครมา Royal India ห้ามพลาดเมนูชีสเป็นอันขาด เพราะร้านนี้โด่งดังเรื่องชีสถึงขนาดห้องครัวสายแขกใหญ่ๆ ทั่วกรุงเทพฯขอซื้อไปใช้ปรุงสำรับกันเลยทีเดียว เป็นชีสทำจากนมวัวสดใหม่ในทุกเช้า ยิ่งนำมาย่างกับเครื่องเทศกลิ่นหอมแรง กินคู่กับซอสมินทร์รสเค็มๆ มันๆ ตัดเลี่ยน ก็ยิ่งอร่อยแบบกินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ
6.Rasmalai / ชีสแช่นมสด
สายหวานห้ามพลาดจานนี้! พูดถึงขนมอินเดีย หลายคนอาจคิดว่าหวานบาดคอไปซะหมด แต่ราสมาลัยต่างออกไป เพราะของหวานจานนี้ทำจากนมสด ที่นำมาแยกชั้นไขมันด้วยน้ำส้ม จากนั้นปั้นเป็นก้อนแล้วแช่ในน้ำเชื่อม ให้รสหวานค่อยๆ ซึมเข้าไปในเนื้อนม เวลาเสิร์ฟก็เทนมสดราดลงบนก้อนนม โรยถั่วพิทาชิโอพอกรุบกรับ อร่อยล้ำแบบได้รสนมเต็มๆ คำ
7.Lassi Mango / โยเกิร์ตอินเดียปั่นกับมะม่วงสุก
โยเกิร์ตกับอาหารอินเดียเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะคาวจะหวานเรามักเห็นโยเกิร์ตเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่เสมอ เพราะคนอินเดียนิยมเลี้ยงวัว อาหารจำพวกนมที่เก็บได้นานๆ จึงไม่พ้นโยเกิร์ต อย่างลาซซี่แก้วนี้ก็ทำจากโยเกิร์ตรสเปรี้ยวบางๆ แช่จนเย็นเฉียบแล้วนำมาปั่นกับมะม่วงสุก เสิร์ฟกับน้ำแข็ง กินตอนบ่ายวันร้อนๆ นี่ชื่นใจแบบเอาแก้วไหนมาแลกก็ไม่ยอม!