ขึ้นชื่อว่าขนมหวาน ก็ต้องยกให้เขาเลย.. ประเทศฝรั่งเศส ประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีขนมหวานอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เคลมบรูเล่ (CrémeBrûlée) มาการอง (Macarons) มูสช็อกโกแลต (Mousse au chocolat) เครป (Crêpe) เลมอนทาร์ต (Lemon Tart) ซูเฟล่ (Soufflé) เมเดอลีน (Madeleines) มีลเฟย (Millefeuille) ชูครีม (Choux Cream) ปารีสเบรสต์ (Paris-Brest) ขนมหวานฝรั่งเศสยังไม่ได้สวยแค่หน้าตาอย่างเดียว แต่ทุกรายละเอียดที่บรรจงทำขึ้นมานั้นเรียกว่าใส่ใจทุกรายละเอียดทุกขั้นตอนก็ว่าได้
เราเลยขออาสาพาเพื่อนๆ ที่รักในการทำขนมมาลองทำขนม 3 ชนิดจากฝรั่งเศสกันดูดีกว่าว่า แต่ละเมนูนั้นมีความละเอียดอ่อนมากน้อยแค่ไหน โดยเริ่มจากขนมตัวแรกที่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะง่ายสุดแล้วอย่าง เมเดอลีน (Madeleines) ขนมรูปทรงคล้ายเปลือกหอย รสสัมผัสเหมือนขนมไข่บ้านเรา ผิวนอกกรอบ เนื้อในนุ่มละมุนลิ้น แต่ขนมชนิดนี้ถูกจัดให้อยู่ในประเภทคุกกี้นะ เพราะอะไรน่ะเหรอ อาจจะเป็นเพราะด้วยขั้นตอนการทำ เป็นการตีไข่กับน้ำตาลให้ฟูและสีอ่อนลงเล็กน้อย จากนั้นก็ใส่แป้งที่ร่อน ใส่ผงฟูเล็กน้อย ใส่เนยละลาย ใช้ตะกร้อคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วนำแป้งไปพักก่อนนำเข้าอบ คล้ายการทำคุกกี้เนย เพราะเหตุนี้จึงถูกจับให้เป็นขนมประเภทคุกกี้
เมเดอลีนเป็นขนมพื้นเมืองจากเมืองกอแมร์ซีและลีแวร์เดิงซึ่งอยู่ในแคว้นกร็องแต็สต์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส เป็นขนมที่ทำไม่ยาก อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ เพียงแค่พิมพ์สำหรับทำขนม ตะกร้อมือ อ่างผสม และเตาอบ แค่นี้ก็ทำได้แล้ว เอกลักษณ์ของเมเดอลีนคือหอมเนยและอาจจะเพิ่มผิวเลมอนและน้ำเลมอนลงไปเล็กน้อยในเนื้อเค้ก เพื่อให้ได้รสชาติที่มีมิติมากยิ่งขึ้น แนะนำทำเสร็จกินกับชาร้อนๆ จะเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรเมเดอลีน (Medeleines)
ขนมอย่างที่ 2 ขอเพิ่มความยากขึ้นมาหน่อยอย่าง ปารีสเบรสต์ (Paris-Brest) ขนมรูปวงล้อ ที่มีที่มาที่ไปจากการเป็นขนมที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงการแข่งขันจักรยานระหว่างเมืองปารีส – เมืองเบรสต์ รูปทรงขนมจึงเป็นเหมือนวงล้อและมีรูตรงกลางคล้ายล้อรถจักรยาน และยังได้ยินมาอีกว่าขนมชนิดนี้จะเสิร์ฟให้กับนักแข่งทุกคนที่เข้าเส้นชัย
ปารีสเบรสต์นั้นดั้งเดิมจะเป็นไส้อัลมอนด์พาลีน หรืออัลมอนด์คาราเมล แล้วนำไปปั่นให้เกิดเป็นเพลส จากนั้นก็นำไปผสมกับครีมคัสตาร์ด แล้วโรยด้วยอัลมอนด์เคลือบคาราเมลอีกรอบ แต่ในสูตรที่ให้นี้ไม่ต้องทำอัลมอนด์พาลีนให้ยุ่งยาก ทำครีมคัสตาร์ดช็อกโกแลตธรรมดา จากนั้นก็อบตัวแป้ง แปะทับด้านบนแป้งด้วยแครกเกอร์ลีน โรยอัลมอนด์ จากนั้นนำเข้าอบ พอแป้งอบสุกแล้วก็ผ่าครึ่งตามตามแนวขวางให้เป็นสองซีก บีบไส้ครีมช็อกโกแลตที่ทำไว้ลงไป เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย อ้อ ลืมบอกไปว่าแป้งที่ทำปารีสเบรสต์นั้นเป็นแป้งชนิดเดียวกับทำชูส์ ซึ่งถ้าใครพอทำชูส์เป็นอยู่แล้วก็สบายเลย
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรปารีสเบรสต์ (Paris-Brest)
ขนมอย่างสุดท้ายที่ต้องใช้ทั้งความพิถีพิถัน ความประณีตในการทำมากที่สุดก็คือ มีลเฟย (Millefeuille) ขนมที่แปลตรงตัวเลยก็คือขนมใบไม้พันใบ เป็นขนมที่ใช้แป้งพัฟฟ์เพสทรี มาอบให้แบนจากนั้นก็วางสลับชั้นกับครีมคัสตาร์ด ตกแต่งด้วยผลไม่ตระกูลเบอร์รีต่างๆ โรยด้วยไอซิ่งเล็กน้อยให้หน้าตาส่วยงาม
ความพิถีพิถันของขนมชนิดนี้เริ่มตั้งแต่การเตรียมแป้งพัฟฟ์ ต้องรีดแป้งพัฟฟ์ให้บางกำลังพอดี จากนั้นก็โรยน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อให้แป้งพัฟฟ์มีรสชาติ แล้วจึงนำไปอบโดยใช้ถาดที่มีน้ำหนักวางทับไปบนแป้งพัฟฟ์ อบให้ได้สีที่ส่วยงาม ก่อนจะนำมาตัดแป้งให้ได้ขนาดที่ต้องการ จากนั้นก็บีบครีมทีละชั้นวางทับกันขึ้นไปประมาณ 3 ชั้น ก่อนจะตกแต่งด้วยผลไม้ แล้วจึงเสิร์ฟ การจะเรียงชั้นแต่ละชั้นได้นั้นต้องใช้ความประณีตอย่างมาก เลยยกให้เป็นขนมที่ยากที่สุดจากทั้ง 3 เมนูนี้
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรมีลเฟย (Millefeuille)
ใครเป็นสายคาเฟ่ย์ชิคๆ ชอบถ่ายรูปลง IG และยังมีพื้นฐานชอบทำขนมแล้วละก็ ผู้เขียนอยากเชิญชวนให้ลองเอาทั้ง 3 เมนูนี้ไปทำดู แล้วทุกคนจะหลงรักขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศสเป็นแน่
บทความเพิ่มเติม
