เราเข้าสู่ในยุคที่ไม่สามารถทำงานที่เดียวแล้วมีเงินเหลือเก็บได้แล้วนะ! ไหน สาวออฟฟิศคนไหนที่ยังไปเข้างาน 9 โมงเช้าเลิก 6 โมงเย็น เงินเดือนก็ต้องใช้ให้พอสิ้นเดือน ไหนจะค่าห้อง ค่ากิน ค่าช็อปปิ้งออนไลน์ มาค่ะสาวๆ วันนี้เจ๊ศรี หนึ่งในพนักงานออฟฟิศที่เงินเดือนแทบไม่เหลือเก็บ จะมาชวนเพื่อนๆ ไปหารายได้เสริมโดยการทำ ‘แซนด์วิชเกาหลี’ ไปขายที่ทำงานกันค่า
ข้อจำกัดแรกที่เรามีคือ หนึ่ง ‘ครัวคอนโด’ ที่มีพื้นอันน้อยนิดในการทำอาหาร เมนูแซนด์วิชถือเป็นเมนูที่ตอบโจทย์กับข้อจำกัดแรกเป็นที่สุด และ สอง ‘เวลาที่มีอยู่จำกัด’ อย่างที่บอกว่าสาวออฟฟิศที่ต้องเข้างาน 9 โมงเลิก 6 โมง มันจะมีเวลาไหนไปยืนขาย เราจะใช้วิธีการ ‘ฝากร้านน้ำชงใกล้ออฟฟิศ’ ที่เชื่อว่า ทุกๆ ออฟฟิศจะต้องมีซัก 1 ร้านแหละ และอีกวิธีหนึ่งก็คือ ในเมื่อเราไปออฟฟิศทุกวัน เราก็รับออเดอร์มันในออฟฟิศนี่แหละ
เมื่อเราได้เมนูตั้งต้นว่าเป็นแซนด์วิชแล้ว สิ่งที่ควรนึกถึงต่อไปเลยคือวัตถุดิบที่สามารถเก็บไว้ได้นาน และหาซื้อได้ง่าย อย่างแม็คโครที่เป็นแหล่งซื้อวัตถุดิบราคาถูก
วันนี้เลยจะทำเป็น ‘แซนด์วิชสลัดกะหล่ำปลี’ สิ่งที่เราต้องปรุงจริงๆ นั้นมีแค่ตัวสลัดกะหล่ำปลีเท่านั้น ส่วนประกอบอื่นๆ ในแซนด์วิชเราแทบจะแค่ล้างทำความสะอาด เก็บอย่างถูกวิธี ก็จะได้วัตถุดิบที่สดใหม่อยู่เสมอ
ในส่วนของ ‘สลัดกะหล่ำปลี’ ให้เริ่มจากกะหล่ำปลีเอามาซอยเป็นเส้นไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นำมาเคล้าเกลือเพื่อให้น้ำในกะหล่ำปลีออกมา จากนั้นใช้มือบีบน้ำออก (การทำแบบนี้จะช่วยให้เวลานำไปทำสลัด จะไม่มีน้ำจากกะหล่ำปลีออกมาทำให้สลัดแฉะ) เมื่อบีบน้ำออกจนหมด ให้นำมาใส่ในอ่างผสม ใส่ปูอัดฉีก แครอท หอมใหญ่ ตามด้วยมายองเนสที่ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ พริกไทยและเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แค่นี้ก็ได้ไส้สลัดกะหล่ำปลีแล้ว
วิธีการเตรียมส่วนประกอบอื่นๆ
- ผักกาดคอส ล้างทำความสะอาดเด็ดเป็นใบๆ สะบัดเอาน้ำออกและสะเด็ดน้ำมากที่สุด จากนั้นเรียงใส่กล่อง นำกระดาษทิชชู่มาลองด้านล่างและด้านบนของตัวผัก ค่อยปิดฝา ใส่ในตู้เย็น อยู่ได้ประมาณ 2-3 วัน หรือมากกว่านั้น
- มะเขือเทศเนื้อ ล้างทำความสะอาดเก็บไว้ในกล่อง เมื่อจะประกอบค่อยนำออกมาสไลด์เป็นแว่นๆ
- ไข่ดาว สามารถใช้กระทะเทฟลอนใบเล็กดาวทีละใบ หรือ ถ้าอยากให้ได้ทีละเยอะๆ สามารถหาถ้วยสแตนเลสขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7-8 เซนติเมตร ทาน้ำมันเล็กน้อย นำไปนึ่งในลังถึงโดยใช้ไฟกลาง ประมาณ 3-5 นาที (แล้วแต่ระดับความสุกที่อยากได้)
วิธีการประกอบ ก็นำกระดาษน่ารักๆ มาวาง และก็ใส่ตามลำดับด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เมื่อใส่ไส้เรียบร้อยให้ใช้มือกดเล็กน้อย พับกระดาษทั้งสองข้างเข้าหากัน ใช้เทปใสแปะ จากนั้นพับมุมทั้งสองข้างให้เป็นสามเหลี่ยม พับเก็บขึ้นมา แปะด้วยเทปใสอีกครั้ง ทำซ้ำกับอีกด้านนึง
ชิ้นแรกๆ อาจจะไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ไม่ต้องเสียใจไปนะคะถ้าห่อไปหลายๆ ชิ้น ก็จะชินมือไปเอง จากนั้นค่อยนำมาหั่นครึ่ง ให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ในสูตรนี้เราจะได้แซนด์วิช 6 คู่ หั่นครึ่งออกมาแล้วได้ทั้งหมด 12 ชิ้น ส่วนใหญ่นิยมขายทั้ง 2 แบบคือ แบบเป็นคู่ และ แบบเดี่ยว และจะมีกล่องที่สำหรับเอาไว้ใส่แซนด์วิชอีกที เพื่อง่ายต่อการวางขาย และสามารถเพิ่มมูลค่าได้ด้วย
- แบบคู่ มักจะใช้กล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 11x12x6.5 เซนติเมตร (กว้างxยาวxสูง) หรือ E72 สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์เบเกอรี หรือออนไลน์
- แบบชิ้นเดียว จะใช้กล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 6.5×10.5×5 เซนติเมตร (กว้างxยาวxสูง) หรือ F110 FP110 สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์เบเกอรี หรือออนไลน์
การคำนวนต้นทุน
Yield คือ ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่แท้จริง พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เราซื้อ แครอทมา 1 กิโลกรัม เมื่อปอกเปลือก หั่นตัดแต่ง นำไปใช้จริงได้แค่ 800 กรัม หรือ 80%ของน้ำหนักทั้งหมด (คิดจาก 800/1000×100 =80%) เพราะฉะนั้นต้นทุนของแครอทต่อกรัม = 20 / 800 = 0.025 บาท/กรัม แต่เราซื้อมา 1000 กรัม ราคาที่เราจ่ายไปจะเท่ากับ 0.025×1000 = 25 บาท
สูตรนี้จะทำแซนด์วิชได้ทั้งหมด 6 คู่ หรือ 12 ชิ้น ต้นทุนของแซนด์วิชสลัดกะหล่ำปลีอยู่ที่ 165.31 บาท เป็นต้นทุนที่ยังไม่รวมบรรจุภัณฑ์นะคะ อันนี้ถ้าเพื่อนๆ สะดวกที่จะใส่กล่องแบบไหนก็สามารถคิดได้เอง สมมุติว่า เราซื้อกล่องมา 100 บาท 1 แพ็ค ใน 1 แพ็คมี 50 ชิ้น เราจะเอา 100/50 = 2 แปลว่าตกกล่องละ 2 บาท เมื่อเราต้นทุนตัวนี้ก็สามารถเอาไปบวกกับต้นทุนวัตถุดิบต่อชิ้นได้เลย
ตารางคำนวณต้นทุนรวม
เมื่อเราได้ต้นทุนของวัตถุดิบมาแล้ว ไม่ใช่ว่าตัวเลขนั้นจะเป็นต้นทุนที่จะสามารถเอามาคำนวณกำไรได้เลย ยังมีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊สที่ต้องนำมาคิดอีกด้วย ในส่วนนี้เราคิดเป็น 10% ของต้นทุน และต้นทุนอีกอย่างที่แม่ค้ามือใหม่ชอบลืมคิดคือค่าแรงตัวเอง ในส่วนนี้เราใช้เวลาในการทำแซนด์วิช 1 ชั่วโมง รายได้ขั้นต่ำต่อวัน 350 บาท ต่อชั่วโมงจะเป็น 43.75 บาท เมื่อนำมาคิดรวมกันแล้วเราจะได้ต้นทุนที่นำไปคิดเป็นกำไรต่อได้เลย สามารถดูคำนวณการคิดกำไรต้นทุนอย่างละเอียดได้ที่ https://krua.co/cooking_post/calculate-cost
การคำนวณกำไร
เราสามารถขายแซนด์วิชสลัดกะหล่ำปลีได้ 2 แบบ นั่นคือ แพ็คขายเป็นคู่ หรือแพ็คเป็นชิ้น 1 ชิ้น อันนี้ก็แล้วแต่กลุ่มลูกค้าของเราว่าเป็นใคร ในช่วงแรกเราอาจจะลองตลาดด้วยการแพ็คทั้ง 2 แบบ ลองขายดูเพื่อดูว่าลูกค้าของเราชอบซื้อแบบไหนมากกว่ากัน แต่ถ้าจะให้แนะนำขายแยกเป็นชิ้นๆ จะขายง่ายกว่า เพราะราคาถูก และปริมาณพอดีสำหรับสาวออฟฟิศกับแซนด์วิชเบาๆ ยามเช้า
เพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหาอาชีพเสริม ลองหันมาทำแซนด์วิชขายก็เป็นอีกอย่างงที่น่าสนใจ สำหรับมือใหม่ที่ทำอาหารไม่ค่อยเป็น ก็สามารถทำเมนูนี้ได้ และไม่ต้องกลัวว่าจะต้องขายราคาเท่าไหร่ถึงจะกำไร เพื่อนๆ ที่ทำตามนี้และคำนวณต้นทุนเป็น ขายจนมีลูกค้าสั่งเป็นประจำ บอกปากต่อปาก รับรองว่าจากอาชีพเสริมก็อาจจะกลายเป็นอาชีพหลักเลยก็ได้น้า