ขึ้นชื่อลือชาเรื่องสตรีทฟู้ดว่ามีแต่ร้านเด็ดๆ บ่ายของวันอากาศร้อน (มาก) วันหนึ่งเราจึงลงเรือข้ามฟากมาเยือนท่าดินแดง จะได้เดินกินของอร่อยให้ฉ่ำใจประชดอุณหภูมิเฉียด 40 องศาไปเลย โดยวางแผนไว้ว่าเส้นทางกินของเราจะเริ่มด้วยการเดินจากท่าเรือท่าดินแดง ผ่านตลาดท่าดินแดง เข้าสู่ช่วงที่ฟุตบาธเรียงรายไปด้วยรถเข็นของกินอร่อยๆ ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องวางแผนหรอก เพราะถนนมีอยู่เส้นเดียว เดินตรงไปเรื่อยๆ จากท่าเรือก็จะต้องพบเจอเหล่าของอร่อยนี้แน่นอน ใครจะมาตามรอยก็มาได้เลยง่ายๆ ไม่ต้องกลัวหลง
แต่ๆๆๆๆๆ ขึ้นชื่อว่าสตรีทฟู้ด ปัญหาคือเวลาตั้งร้านตั้งรถมักจะไม่แน่นอน รวมถึงวันหยุดด้วย พูดแล้วก็ช้ำใจเพราะหนึ่งในร้านที่ตั้งใจมากินอย่างโบ๊กเกี้ย ท่าดินแดงนั้น เดินมาถึงหน้าร้าน เห็นประตูปิดก็คิด (ไปเอง) ว่าคงยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน จึงเดินเลยไปเก็บของดีเด็ดร้านอื่นก่อนค่อยวนกลับมา พบว่ายังปิดสนิทเหมือนเดิม เดินใกล้เข้าไปอีกหน่อยถึงเห็นป้าย ‘หยุด’ แปะอยู่บนประตู โหวววววว จากทาวน์อินทาวน์มาก็ไม่ใช่ใกล้ๆ ทำไมเจ้ทำกับเราอย่างนี้ ว่าแล้วก็ฮึบแล้วไปเดินหาของกินอย่างอื่นต่อ (ก็ได้ฟะ)
โหงวเฮ้งหมูสะเต๊ะ
เดินจากท่าเรือท่าดินแดงไปเรื่อยๆ ตามถนน ผ่านตลาดไปสักพักก็จะเจอร้านหมูสะเต๊ะที่ยืนปิ้งหมูกันริมถนน กลิ่นหอมฉุยพร้อมเสียงร้องเชิญชวนจากเหล่าแม่ค้าน้องๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม อ่ะ ว่าแล้วก็สั่งมาลองหนึ่งที่เป็นชุดเล็ก 15 ไม้ราคา 135 บาท ค้นพบว่าหมูแผ่นใหญ่เนื้อนู้มมมแบบนุ่ม และไม่ค่อยมีมัน เพราะเขาจัดมาแต่เนื้อ สายชอบกินมันอาจจะไม่ค่อยถูกใจ แต่สายกินแต่เนื้อแบบเราชอบมาก กินคู่กับน้ำจิ้มถั่วเนื้อข้นหอมกลิ่นถั่ว รสออกติดหวานไปสักนิด ซึ่งตัดเลี่ยนความหวานได้ด้วยอาจาดรสเปรี้ยวสดชื่น ที่ร้านนี้เขาไม่ซอยแตงกวานะจ๊ะ หั่นมาชิ้นใหญ่ๆ หนาๆ ให้เคี้ยวกันกร้วมๆ ตับสะเต๊ะเขาก็มี น้องที่ชิมบอกว่านุ่มละมุนลิ้นเช่นกัน
เปิด-ปิด 08.30 – 21.00 น. (หยุดทุกวันอังคารสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน)
ข้าวขาหมู IMF
เดินไปจนสุดถนนก็พบกับรถเข็นข้าวขาหมูชื่อดัง ตั้งอยู่ปากซอยเลยทีเดียว เห็นหม้อที่มีขาหมูกองใหญ่ก็ใช่แล้วละ เลยขอลองข้าวขาหมูเนื้อ-หนังมาสักจาน ซึ่งใครคิดว่าจะมาแบบขาหมูโปะบนข้าวขอบอกว่าคุณคิดผิด เพราะร้านนี้เขาเสิร์ฟข้าวเปล่าแยกกับขาหมู สนนราคาแค่ 50 บาทเท่านั้น แต่ได้ทั้งเนื้อและหนังมาแบบเต็มจาน ความดีเด็ดคือเนื้อหมูเปื่อยยุ่ยแทบจะไม่ต้องเคี้ยว รสชาติเราว่าอ่อนไปนิด แต่กินกับน้ำจิ้มพริกสีส้มเปรี้ยวนำเผ็ดน้อยก็ถือว่าอร่อยใช้ได้ ส่วนตัวชอบข้าวที่เขาใช้ข้าวค่อนข้างแข็งร่วนเป็นเม็ด ตักน้ำขาหมูราดก็ไม่เหนียวไม่เกาะตัวกัน แต่น้องที่ไปด้วยบอกว่าข้าวแข็งไปหน่อย อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของใครของมัน
เปิด-ปิด 15:30 – 21:30 (อังคาร) / 14:30 – 21:30 (พุธ) / 15:30 – 21:30 (พฤหัสบดี – อาทิตย์)
ร้านน้ำสมุนไพร
ระหว่างเดินกลับท่าน้ำจากหัวถนน ด้วยความร้อนระดับเหงื่อออกเหมือนอาบน้ำ สายตาเหลือบไปเห็นรถเข็นคุณลุงที่ขายน้ำสมุนไพรหลากหลายชนิด พร้อมจำได้แวบๆ ว่าถือเป็นของดีอีกหนึ่งอย่างของท่าดินแดง ว่าแล้วก็แวะไปสั่งน้ำรากบัวของดีประจำร้าน ร้อนจัดก็สั่งแก้วใหญ่ไปเลย ราคาแค่ 20 บาท แต่แก้วใหญ่มากจนน่าจะเรียกว่าถังมากกว่าแก้ว กับน้ำจับเลี้ยงแก้วเล็ก (10 บาท) นอกจากคุณลุงจะน่ารักอัธยาศัยดียิ้มแย้มแจ่มใส่ พูดเพราะ น้ำสมุนไพรของลุงก็รสชาติน่ารักเหมือนเจ้าของ ใครเคยเข็ดขยาดกับน้ำสมุนไพรที่ทั้งกลิ่นทั้งรสเข้มข้นตีเข้าหน้า มาค่ะ มาลองร้านนี้ เพราะกลิ่นมาแค่อ่อนๆ แถมรสชาติก็ละมุนตุ้นนุ่มนวล ไม่ขมและไม่หวานเลยแม้แต่น้อย ดื่มดับร้อนได้เพลินๆ
เปิด-ปิด 13.00 น. – 21.00 น. (หยุดวันจันทร์)
นมสด ท่าดินแดง
ด้วยความเศร้าที่เดินมาถึงร้านที่ตั้งใจมาลองอย่าง โบ๊กเกี้ย ท่าดินแดง แล้วเจอป้ายเขียนว่า ‘หยุด’ เลยเดินอย่างละเหี่ยเพลียทั้งจิตใจและร่างกายที่มันช่างร้อนเหลือเกินคุณเอ๋ย (ก็เล่นมาตั้งแต่บ่ายสอง) จนไม่ไหวละ ขอแวะเข้าร้านติดแอร์สักหน่อย ก็เลยได้เข้ามาเจอขุมทรัพย์ขนมปัง ที่บอกเลยว่าแม้ร้านนี้จะดูไม่ค่อยเข้าพวกกับร้านแวดล้อม แต่อย่าได้พลาด เพราะขนมปังเขานุ่มมากกกกก นุ่มแบบนู้มมมมม นุ่มนิ่มนุบนิบ ขนมปังนึ่งสังขยา (70 บาท) เสิร์ฟมากับสังขยาสีเขียวและสีส้มรสหวานน้อยกำลังดีให้เลือกตามชอบ ตัวขนมปังที่นึ่งมาร้อนๆ นุ่มแบบเข้าปากแล้วเหมือนละลายได้เลยไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งแน่นอนว่าทางร้านทำเอง (พร้อมเรื่องราวกว่าจะมาเป็นขนมปังแสนนุ่มในเมนูที่วาดเป็นการ์ตูนได้อย่างน่ารัก) ปังปิ้งแยมส้ม (25 บาท) ก็เลิศ ขนมปังกรอบนอกนุ่มในราดด้วยแยมส้มพร้อมเนื้อส้มที่ทางร้านทำเองหอมหวานเปรี้ยวลงตัวสุดๆ
เปิด-ปิด 10.30 – 20.00 น.
ขนมเบื้องเจ๊หน่อย ท่าดินแดง
กินกันมาขนาดนี้คิดว่ากินอะไรไม่น่าลงอีกแล้วใช่ไหมคะ เราก็คิดอย่างนั้นแหละ จนได้กลิ่นหอมฉุยโชยมาจากรถเข็น หันไปเจอคุณป้ากำลังขะมักเขม้นละเลงขนมเบื้อง ต้นเหตุของกลิ่นหอมๆ ที่ลอยลมมา โอเค คนเรามันมีกระเพาะของหวานแยกกับของคาวแหละ ตามกลิ่นไปยืนดูคุณป้าละเลงขนมเบื้องอยู่หลายสิบนาทีเพราะลูกค้าแวะเวียนมาสั่งแบบต้องใช้คำว่าไม่ขาดสาย ชนิดป้าบอกว่าสั่งได้ถ้ารอได้ 555 ยืนดูคุณป้าละเลงแป้งเป็นทรงกลม ปาดครีม ขูดมะพร้าวเป็นเส้นแล้วโรย ปิดท้ายด้วยใส่หน้าทั้งเค็มหวานพลางกลืนน้ำลายไปด้วย (ทำเหมือนก่อนหน้านี้ยังไม่ได้กินอะไร) สักพักขนมเบื้องของเราก็มา สั่งมา 8 ชิ้น 20 บาท (ถูกมากกกกก) ปรากฏว่าหายลงท้องไปแบบรวดเร็ว เพราะขนมเบื้องป้าแป้งบางกรอบกำลังดี ครีมมาแบบล้นทะลัก มะพร้าวขูดเส้นทั้งหอมทั้งเคี้ยวเพลินได้เท็กเจอร์ ไส้หวานหวานจนปวดฟัน (แต่อร่อย) ไส้เค็มก็หอมๆ เค็มๆ กำลังดี สรุปคำเดียวว่าอร่อย!
เปิด-ปิด 15.00 – 20.00 น.