ใครเคยป่วยหรือมีคนรอบตัวป่วยน่าจะเข้าใจดีว่า หนึ่งในข้อจำกัดการใช้ชีวิตของคนป่วยก็คือเรื่องอาหารการกิน โดยเฉพาะถ้าเป็นโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งหรือโรคไต ที่กินอาหารได้อย่างจำกัดไม่พอ ยังต้องมีการเน้นโน่น ลดนี่ ห้ามนั่น ซึ่งส่วนใหญ่อาหารที่คุณหมอแนะนำ (แกมบังคับ) ให้คนป่วยโรคร้ายกินก็คือโปรตีน ต้องกินให้เยอะ กินให้ถึง หลายคนต้องกินไข่ถึงวันละ10-20 ฟองก็มี
ด้วยความที่ได้คลุกคลีกับคนป่วยในขณะศึกษาปริญญาเอก เพราะเรียนในคณะที่ทำงานใกล้ชิดกับโรงพยาบาล อีกทั้งยังมีพื้นฐาน food science ได้พบว่าคนเหล่านี้มีข้อจำกัดมากๆ ในเรื่องอาหารการกิน บวกกับต้องการให้คนป่วยมีความสุขทางใจบ้าง คุณ อุมาพร บูรณสุขสมบัติ (เกรท) จึงคิดค้นนำไข่ขาวมาทำเป็นเส้นซึ่งถือเป็น ‘นวัตกรรมครั้งแรกของโลก’ เพราะไม่เคยมีการนำเอาไข่ขาวมาทำเป็นเส้นมาก่อนในโลกนี้ และนี่เองคือการถือกำเนิดของเส้นไข่ขาวไร้แป้งไร้ไขมันในชื่อ เส้นไข่ขาวนิ่มนิ่ม
“คนป่วยกายอยู่แล้ว ถ้าป่วยใจอีกจะยิ่งไม่มีความสุข” คุณเกรทเล่า “เลยอยากพัฒนาเส้นที่ให้โปรตีนสูง เพราะคนป่วยบางกลุ่มอย่างมะเร็ง หรือคนที่ต้องฟอกไต ต้องผ่าตัด บางทีคุณหมอแนะนำให้กินไข่ขาววันละ 10-20 ฟอง ซึ่งมันเยอะมาก การกินเส้นไข่ขาวน่าจะช่วยให้การกินของเขาง่ายขึ้น มีความสุขขึ้น ไม่ต้องจำเจกินแต่ไข่ บวกกับคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานกันเยอะกินอาหารจำกัดคาร์บน่าจะดี เราเลยทำเส้นไข่ขาวโปรตีนสูง ไร้แป้ง ไร้ไขมัน ขึ้นมา”
จากงานวิจัยต่อยอดสู่ธุรกิจในชื่อบริษัท แข็งแรงทุกวัน จำกัด โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่สามคนคือคุณเกรทที่รับหน้าที่คิดค้นวิจัยพัฒนาโปรดักส์ คุณ ปณัสสา กาญจนวิเศษ (ฟิ้ง) ผู้ดูแลเรื่องการตลาดของแบรนด์ และคุณ ทิศพล มานะธัญญา (บอล) ฝ่ายโรงงานผลิต
นำงานวิจัยมาต่อยอดสู่ธุรกิจ
ช่วงคิดคอนเส็ปต์ มีการทดลองใช้โปรตีนหลายตัว ทั้งโปรตีนจากพืชหรือแม้แต่เวย์ โปรตีนสุดฮิต และผ่านการจับคู่ทดลองมาเยอะ ก่อนจะมาจบที่โปรตีนจากไข่ขาวเมื่อต้องพัฒนาเป็นโปรดักส์จริง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ทางธุรกิจและการตลาดมากที่สุด
“จบที่ไข่ขาวเพราะคุณหมอสั่งไข่ขาวให้คนป่วยกินเป็นหลัก นอกเหนือจากการเป็นโปรตีนที่ดี ก็ยังมากับราคาที่จับต้องได้ ตั้งแต่ช่วงที่คิดจนมาคุยกับโรงงานใช้เวลา 2 ปี และหลังเอางานในห้องแล็บมาคุยกับโรงงานก็ยังต้องพัฒนาต่อ เพราะสเกลแล็บกับสเกลงานจริงมันไม่เหมือนกัน สเกลใหญ่ขึ้น จากเดิมทดลองน้อยๆ ไม่เห็นปริมาณที่สูญเสีย ไม่ได้คิดเรื่องทักษะคนที่เสียไป แต่พอมาทำจริงมีคนเยอะมากที่เข้ามาเกี่ยวข้อง”
เช่นเดียวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากช่วงแรกที่ยังต้องเก็บเส้นไข่ขาวไว้ในตู้เย็นและเก็บได้เพียง 1 เดือน ปัจจุบันสามารถเก็บได้นานถึงหนึ่งปีครึ่งโดยไม่ต้องใส่ตู้เย็นและไม่ได้ใส่สารกันเสีย ตรงตามจุดยืนคือต้องไปให้สุด และปลอดภัยที่สุด
สามคนแบ่งความรับผิดชอบตามความถนัด
“รู้จักกันตั้งแต่อายุ 18 ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ไปฝึกดีเจฝึกพิธีกรที่สยามสแควร์ เจอกันที่นั่น จนเกรทไปเรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์อาหาร ซึ่งก่อนนั้นก็เป็นแอร์ฯ ด้วยกันอีกที่ JAL ก่อนเกรทจะออกไปเรียนที่ออสเตรเลีย แล้วกลับมาทำเรื่องสุขภาพ” คุณฟิ้งย้อนความหลัง ประกอบกับพ่อของเธอเป็นมะเร็งจึงปรึกษาเพื่อนคนนี้ตลอด เพราะศึกษาค้นคว้าเรื่องโปรตีนจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ กระทั่งวันหนึ่งที่คุณเกรทตัดสินใจจะทำโปรตีนในฟอร์มใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เธอก็สนับสนุนให้ทำเพราะจะสามารถช่วยคนป่วยได้เยอะมาก โดยตัวเธอเองก็เข้ามาร่วมทำงานด้วยในฐานะคนดูแลเรื่องการตลาด
ในขณะที่คุณบอลเป็นเจ้าของโรงงานข้าวหงษ์ไทย มีความคิดอยากทำอย่างอื่นนอกจากข้าวบ้าง โดยมีข้อแม้ว่าต้องเป็นโปรดักส์ที่เฮลธ์ตี้ และได้รู้จักเส้นไข่ขาวนิ่มนิ่มจากการแนะนำของพี่สะใภ้ผู้ดูแลร้านใบเมี่ยง-ร้านเพื่อสุขภาพในเครือข้าวหงษ์ทอง จึงได้ร่วมงานกันเมื่อกว่า 4 ปีในฐานะผู้ผลิต แต่มาร่วมหุ้นเป็นทีมเดียวกันเมื่อประมาณหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา
การตลาดแบบปากต่อปากสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง
เส้นไข่ขาวนิ่มนิ่มเปิดตัวในช่วงโควิดกำลังระบาดจึงทำการตลาดออฟไลน์ไม่ได้เลย เพราะห้างสรรพสินค้าปิด โรงพยาบาลปิด ทำได้เพียงออนไลน์
“ช่วงนั้นมหาวิทยาลัยมีกลุ่มช่วยขายของกัน ทั้งที่ช่องทางจำกัดแต่เรากลับได้ฟีดแบ็คดีมาก โดยเฉพาะจากกลุ่มที่เราตั้งใจทำมาให้คือคนที่มีข้อจำกัดเรื่องอาหาร เขาสนใจและไปบอกต่อกันแบบปากต่อปาก ทำให้แบรนด์เราติดตลาดแบบไม่ต้องเสียเงินไม่ต้องลงแรงเลย”
ลูกค้าไม่เพียงบอกต่อ ยังส่งทั้งรูปสวยๆ และคำชมกลับมาให้ ทำให้ได้รู้ว่านอกจากลูกค้ากลุ่มคนป่วย ยังมีกลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มคนลดน้ำหนัก ลดแป้ง ลดน้ำตาลก็มี จนเรียกได้ว่ากลุ่มหลังมีมากกว่ากลุ่มแรกไปแล้ว ซึ่งทางนิ่มนิ่มก็เก็บข้อมูลเหล่านี้แล้วนำมาพัฒนาต่อ
“จากคนที่เบื่ออาหารหรือป่วยกินอาหารได้น้อย สามารถกินได้ปกติมากขึ้น เราเห็นแล้วดีใจ เป็นความปลื้มใจของทีมงาน ยิ่งคนคิดคือหน้าบานมาก” คุณฟิ้งแซวเพื่อน “มันทำให้เรารู้สึกว่าควรเซิร์ฟตรงนี้ด้วย ไม่ใช่แค่ขายของ แต่เป็นที่ปรึกษาคุยเรื่องโภชนาการ เพราะเรามีเกรทและน้องๆ นักวิทยาศาสตร์อาหารในทีมที่ทำได้”
แอดมินของนิ่มนิ่มจึงได้รับการเทรนด้านข้อมูลและสามารถตอบคำถามได้ในระดับหนึ่ง แต่หากคำถามเริ่มลงลึก คุณเกรทกับทีมนักโภชนาการจะเป็นผู้มาตอบเอง
“เราอยากให้พ่อแม่หรือเพื่อนเราที่ป่วย ไม่สบาย มาปรึกษา เป็นคนที่สามารถมาปรึกษาได้ ให้ข้อมูลเชิงวิชาการได้”
ผลิตภัณฑ์ที่มีคำแปะหน้าว่า ‘นวัตกรรมครั้งแรกของโลก’
เราเองยังตื่นเต้นกับคำว่า ‘ครั้งแรกของโลก’ แล้วผู้คิดค้นเองจะภูมิใจสักแค่ไหน แต่คำตอบของคุณเกรทออกจะเกินคาดหมายเพราะเธอไม่ได้คิดถึงคำว่า ‘ครั้งแรก’ เลย เนื่องด้วยอาชีพที่เป็นนักวิจัยต้องทำของใหม่ๆ เสมออยู่แล้ว
“แต่ในเรื่องของธุรกิจ พอมีคำว่าเป็นครั้งแรกของโลก เราก็ขนลุกเหมือนกัน” เธอยิ้ม “มันเป็นอะไรที่ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ ก็เลยเริ่มเข้าประกวดเพราะเราเป็นสตาร์ทอัพเล็กๆ เงินทุนไม่เยอะ ไม่มีงบการตลาด เมื่อทำสินค้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือก็ต้องคิดว่าทำยังไงคนจึงจะเชื่อถือ เลยต้องก้าวออกไป ไปร่วมกับหน่วยงานสตาร์ทอัพต่างๆ แล้วก็ได้รางวัลแรกจาก AIA สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ซึ่งเป็นใบเบิกทางที่ดีมาก เรียกว่าเป็นพลังเป็นกำลังใจของทีม ดีใจที่สิ่งที่เราทำมีคนเห็นคุณค่า แล้วรางวัลก็ทำให้คนเห็นเรามากขึ้น พร้อมกับรับประกันว่ามันดีนะ เชื่อถือเชื่อใจได้”
จากนั้นเส้นไข่ขาวนิ่มนิ่มก็กลายเป็น ‘แบรนด์ล่ารางวัล’ โดยคว้ารางวัลสำคัญๆ มาได้ อาทิ Best of The Best Award 2021 จากโครงการ Genius Academy และล่าสุด รางวัลชนะเลิศสุดยอดนวัตกรรม 7 innovation awards 2023 ด้านเศรษฐกิจ รวมถึงรางวัล CTC CREATIVE BUSINESS AWARDS 2023 ในงาน CTC 2023 festival
จากเส้นไข่ขาวสู่การแตกไลน์โปรดักส์เพื่อแก้ pain point ตามที่ได้รับฟีดแบ็ค
การเก็บฟีดแบ็คแล้วนำมาพัฒนา ส่งผลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างเส้นหมี่ เส้นสปาเกตตี้ ข้าว ผงปรุงรส ไปจนถึงไข่มุก ที่ทำขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมความ ‘ดีต่อสุขภาพ’ แล้วยังตอบโจทย์จากเคสจริงที่ได้รับมา
“เราคิดผงปรุงรสขึ้นมาเพราะถึงเส้นจะดีต่อสุขภาพแค่ไหน แต่มันกินเปล่าๆ ไม่ได้ ต้องเอาไปปรุงหรือไปกินกับอย่างอื่น ไปเจอซอส เจอน้ำแกง เจอเครื่องปรุงที่โซเดียมสูง มันก็ไม่ดีกับสุขภาพอีก” คุณเกรทเล่าถึงการคิดค้นผงปรุงรสคลีนดี ที่เธอทำขึ้นจากการวิเคราะห์ค่าโซเดียม โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสามค่าที่ผู้ป่วยโรคไตต้องระวัง ให้เหมาะสม ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมความอร่อยที่เธอบอกว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่แบรนด์ตั้งใจ นั่นคือสุขภาพที่ดีต้องมาคู่กับความอร่อย และที่เหนือไปกว่าสองสิ่งนี้ก็คือความปลอดภัย จึงใช้การฆ่าเชื้อเกือบทั้งหมด
ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อีกตัวอย่างข้าวไข่ขาวก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะเกิดขึ้นจากการนำฟีดแบ็คมาพัฒนาอย่างแท้จริง
“ลูกค้าให้ทำข้าวเพราะอยากกิน” เธอว่า “เขาอยากกินข้าวจนเอาเส้นมาสับเป็นท่อนๆ ให้เหมือนข้าว แต่สัมผัสมันไม่เหมือนเพราะเส้นมีความลื่น ไม่เกาะกัน มันไม่ได้ฟีลเหนียวแบบกินข้าว เราเลยพัฒนาข้าวไข่ขาว ไร้แป้ง โปรตีนสูง ใยอาหารสูง แต่ตัวนี้ยังต้องแช่แข็งอยู่ เพราะลองเอามาฆ่าเชื้อแล้วความอร่อยมันหายไป การฆ่าเชื้อมันมีบางอย่างที่ต้องแลก ซึ่งเรายังไม่ยอมแลก (หัวเราะ) อยากให้มันอร่อย ตอนนี้เลยเลือกแช่แข็งที่จะเก็บได้นาน 1 ปี”
เน้นย้ำคำว่า ‘ตอนนี้’ เพราะนักวิทยาศาสตร์อาหารตัวจริงอย่างเธอยังคงไม่หยุดค้นคว้าและพัฒนาเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ครบทุกด้านตามที่ต้องการ
ฟีดแบ็คคือกำลังและพลังใจสำคัญ
เส้นไข่ขาวนิ่มนิ่มเกิดขึ้นด้วยความต้องการอยากช่วยเหลือคนป่วย เมื่อได้ยินว่าคนซื้อไปกินหรือซื้อไปให้คนอื่นแล้วรู้สึกดีขึ้น นั่นคือความดีใจของคนคิดค้น “ไม่ว่าจะเจออุปสรรคยังไง แต่เรามาถูกทางแล้ว เราช่วยให้คนสุขภาพดีขึ้น เขามาบอกขอบคุณนะที่ทำเส้นนี้ออกมา ทำให้เราแข็งแรง หายป่วย ยังคงเป็นคำที่ได้ยินแล้วดีใจมากจนวันนี้”
เช่นเดียวกับคุณฟิ้ง ในฐานะคนทำการตลาด เมื่อเห็นพฤติกรรมลูกค้าที่ไม่เพียงซื้อไปกินเอง แต่ยังซื้อให้พ่อแม่ ให้เพื่อน เรียกว่าเห็นคนที่อยากดูแลแล้วคิดถึงเส้นไข่ขาวนิ่มนิ่มเป็นอย่างแรกคือความสุขใจ “มันมีประโยชน์จริง คนป่วยกินได้จริง คนรักสุขภาพกินได้จริง คนที่ซื้อไปให้คนที่ตัวเองห่วงใยก็มั่นใจว่าเส้นของเราจะไม่ทำร้ายสุขภาพของคนที่รัก เราได้ช่วยคนซึ่งถือเป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกจริงๆ”
ในขณะที่คุณบอล-สายงานการผลิตก็เล่าอย่างประทับใจว่าได้คุยกับนักธุรกิจระดับมัลติมิลเลี่ยนแนร์บิสเนสคนหนึ่ง มีเบสอยู่ทั้งที่อินเดีย ยุโรป อเมริกา “พอมาเจอโปรดักส์เส้นไข่ขาวนิ่มนิ่ม เขาบอกว่า Keep doing this, this is multimillions business ในฐานะคนผลิต เราก็ดีใจที่เขาพูดขนาดนี้ เพราะแปลว่ามันมีอนาคต ไม่รวมว่าครอบครัวนิ่มนิ่มมีความคล้ายกับผม คิดเหมือนกันมาก เรามาถูกทางแล้วละ”
เป้าหมายต่อไปคือก้าวไกลในระดับอินเตอร์
กว่า 4 ปี เส้นไข่ขาวนิ่มนิ่มขยายช่องทางการจำหน่ายอย่างครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ก้าวต่อไปคือการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ
“เริ่มที่เอเชียก่อน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เพราะมีวัฒนธรรมการกินเส้นคล้ายๆ กัน ซึ่งไปได้ดีจนคิดว่าน่าจะต้องมีโปรดักส์ใหม่เพิ่ม” คุณฟิ้งเล่า “แล้วก็ขยายไปฟิจิ ยุโรป อเมริกา ที่เพิ่งเปิดตัวเส้นไข่ขาวไป ตลาดยังโตได้อีกเยอะ”
ความตื่นเต้นและประกายในตาของคนเล่าทำเอาฉันตื่นเต้นไปด้วย แต่การขยายตลาดสู่ต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกับแบรนด์เล็กๆ ที่อาจจะมีปัญหาเรื่องปริมาณ โวลุ่ม ความล่าช้า ค่าปรับต่างๆ
“แต่โรงงานมีโปรดักชั่นที่ช่วยได้ ตอนนี้ก็พยายามจัดระบบหลังบ้าน โรงงานก็ผลิตให้รองรับ เราพยายามไปให้สุด มันเป็นความภูมิใจของเกรท ของทีม ของคนไทยด้วยแหละ เพราะมันคือครั้งแรกของโลกโดยคนไทย คือนวัตกรรมใหม่ที่โลกไม่เคยมีเลยนะ ตอนนี้ก็เตรียมจดสิทธิบัตรทั้งในและต่างประเทศแล้ว”
“เราเป็นบริษัท sceince เรารู้ว่าในวัฎจักรสินค้ามันมีขึ้นมีลง เลยมีการพัฒนาโปรดักส์หลายตัวไว้รองรับ เพื่อให้เติบโตเรื่อยๆ” คุณเกรทเสริม “เรายังมีไอเดียอีกเยอะ และด้วยความที่ใช้วิทยาศาสตร์นำ สามารถคิดค้นนวัตกรรมได้เอง ทำให้ทำงานได้ไว เรียกว่าคิดเร็วทำเร็ว ตอนนี้ที่อยู่ในมือมีอีกหลายตัว ทั้งหมดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ประโยชน์ คนกินต้องสุขภาพดี”
“ในส่วนของผมก็คือทำราคาให้ถูกลง” คุณบอลปิดท้าย “อย่างไข่บางฤดูน้ำเยอะ บางฤดูน้ำน้อย คุมลำบาก แต่เราพยายามทำให้ง่ายขึ้น เช่น คอนโทรล 10-20 เปอร์เซนต์ได้มั้ย ได้ทั้งไพรซิ่งและควอลิตี้ แล้วก็ทำให้กว้างสุดให้ได้โวลุ่ม ความเล็กมันน่าสนใจตรงที่ชนักหลังน้อย มันคล่องตัว พร้อมไปไหนก็ได้…
“ในส่วนของการตลาด ผมคิดว่ามนุษย์เราไม่อยากเปลี่ยนแปลง ชอบแบบเดิม แต่อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ บ่อเกิดของปัญหาสุขภาพก็เพราะคนเรากินมากเกินไปและกินของตามใจปาก เราเลยต้องออกแบบสินค้าให้มีความบาลานซ์โดยที่ต้องฟิตกับไลฟ์สไตล์ด้วย ไม่ได้ทำสินค้าเอ็กซตรีมขนาดนั้น เรียกว่าเราออกแบบมาเพื่อคนคนในระดับหนึ่ง ยังกินได้แบบเดิมแต่แค่ดึงกลับมานิดหนึ่ง แนวคิดนี้ใช้ที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่แค่ที่นี่ เมื่อคอร์คอนเส็ปต์ดี มันก็ไปต่อได้ทุกที่”
สอบถามและสั่งซื้อเส้นไข่ขาวนิ่มนิ่มได้ที่ FB: Nimnim Noodle เส้นไข่ขาว นิ่มนิ่ม