“เสพงานศิลป์ กิ๋นข๋องลำ ยำผักไฮ่เชิญตะวัน” เป็นคำขวัญของร้านมาลองเต๊อะ จังหวัดเชียงราย ที่ดูจะอธิบายความตั้งใจของร้านนี้ได้ดี
ผมชอบเที่ยวเมืองรอง เพราะเมืองรองเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวน้อย วิถีชีวิตของผู้คนเรียบง่าย ไม่รีบร้อน ธรรมชาติยังคงสวยงาม อย่างจังหวัดเชียงรายก็เป็นหนึ่งในจังหวัดเมืองรองที่ผมติดใจ ครั้งนี้ได้มาเชียงรายและวางแผนไว้ว่าจะมาเสพงานศิลป์พร้อมกินของอร่อยเสียหน่อย ขอเกริ่นก่อนเลยว่า เชียงรายโดยเฉพาะในตัวเมืองมีร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ บรรยากาศดีๆ เยอะมาก จริงๆ แล้วเพื่อนแค่ลองเสิร์ชอากู๋ดูก็จะเจอลิสต์เป็นหางว่าว แต่ต่อให้ร้านเก๋แค่ไหน บรรยากาศดีเพียงใด ก็จะไม่กระทบใจผมเลยถ้าอาหารไม่อร่อย ไม่รู้สึกถึงความตั้งใจ ความพิถีพิถันของผู้ปรุง
ร้านมาลองเต๊อะ ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ติดคลองขัวแคร่ บรรยากาศร่มรื่น มีความอาร์ตสมกับตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงรายที่เต็มไปด้วยศิลปิน ที่นี่เสิร์ฟอาหารเมืองและอาหารเมืองประยุกต์ ความดีงามของร้านอยู่ที่ผักพื้นบ้าน ทางร้านเล่าว่าผักที่ร้านเป็นผักปลอดภัย ที่ได้จากการส่งเสริมเกษตกร ชาวนา และเพื่อนนักเรียนมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ ให้ทำเกษตรแบบยั่งยืน ซึ่งปลอดภัยต่อตัวเกษตกรและผู้บริโภค ผัก ข้าว และวัตถุดิบของที่นี่จึงสดใหม่ หลากหลาย เห็นได้จากผักเคียงที่จะมากับทุกจานเรียกว่ากินกันไม่หมด ที่ผมชอบเป็นพิเศษก็คือผักวอเตอร์เครสใบใหญ่ กรอบ หวาน ผักชีลาวรสชาติหอม ดอกขจร ดอกอัญชันสีขาว และกระดูกไก่ดำที่เป็นสมุนไพรบำรุงโลหิตที่ออกจะฉุนสักหน่อย
อาหารเมืองที่นี่ถือว่ารสชาติดี น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาลองรสชาติอาหารเมืองเชียงรายอย่างผม เมนูมีมากมายแต่เสียดายที่ท้องมีจำกัด จึงไม่สามารถสั่งมาลองให้สมความอยากได้ ที่อร่อยถูกใจก็คือ “จอผักกาด” แกงกับกระดูกหมู โรยหน้าด้วยพริกทอด น้ำแกงมีความนัวเข้มกลมกล่อม ถัดมาคือ “สลัดมาดาม” ที่มีดีทั้งผักสลัดและผักพื้นบ้านหลากหลาย รวมถึงธัญพืช เสิร์ฟกับไข่เป็ดต้มยางมะตูม สดใหม่ทุกสิ่งอย่างจริงๆ มาถึงเชียงรายจะให้กินข้าวสวยได้อย่างไร ใครอยากลองข้าวจี่หรือข้าวเหนียวชุบไข่ปิ้ง สามารถสั่งเมนูชื่อ “ซักคำเต๊อะ” ได้เลย ข้าวจี่เสียบไม้จะถูกเสิร์ฟมาสวยๆ กับหมูทอดและน้ำพริกตาแดง แกล้มด้วยผักสดนานา ถ้าหมูน้อยเกินไปก็สั่งหมูทอดมาเติมได้ตามสบาย แต่เมนูที่น่าผิดหวังสักหน่อยเห็นจะเป็น “จิ้นส้มหมก” ที่นี่เอาจิ้นหรือแหนมมาอบในใบตองกับไข่เยี่ยวม้าและไข่ไก่ แต่คงจะอบนานเกินไปจิ้นหมกเลยแห้งกระด้างไปหน่อย คอแหนมอย่างเราเลยจ๋อยไปตามๆ กัน
ความน่ารักอีกอย่างของที่นี่คือการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ย่างก้าวเข้ามาที่โต๊ะจะเห็นเครื่องดื่มโรยหน้าด้วยดอกอัญชันในขันสีเงินวางไว้ เป็นน้ำใบเตยอัญชันที่หอมสดชื่น ไม่ต้องพึ่งหลอดดูดเหมือนร้านอาหารทั่วๆ ไป ที่รองแก้วเป็นผ้าไม่ได้ใช้กระดาษรองแบบใช้แล้วทิ้ง
พื้นที่ข้างๆ ของร้านคือพื้นที่แสดงงานศิลปะ “ขัวศิลปะ” ที่เปิดให้เข้าชมฟรี ใครจะเสพศิลป์ก่อนหรือจะกินก่อนค่อยไปเสพศิลป์ก็ตามสะดวกได้เลย
นานๆ ทีผมจะเจอร้านที่ครบเครื่องอยากบอกต่อ นั่นก็คือ อาหารอร่อย บรรยากาศดี แนวคิดมีความสร้างสรรค์ ร้านมาลองเต๊อะถือเป็นร้านที่มีจุดยืนที่น่าชื่นชม เป็นจุดยืนเพื่อความปลอดภัยของเกษตกร ความปลอดภัยของผู้บริโภค และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม มากไปกว่านั้นอาหารยังอร่อยถูกปาก เหมาะกับคนอยู่เพื่อกินอย่างพวกเรา เพราะอาหารเป็นเรื่องใหญ่ | food is a big deal.
