INGREDIENTS
METHOD
1. หมักเนื้อไก่โดยหั่นน่องติดสะโพกออกเป็นสองส่วนคือส่วนน่องกับส่วนสะโพก ล้างน้ำให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง พักไว้ในอ่างผสม โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยให้เข้ากันดี ตักลงในอ่างผสมตามด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทราย และน้ำมันพืช นวดคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 10 นาที ระหว่างนั้นอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส พักไว้
2. ทำน้ำยำโดยผสมน้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำพริกเผาในอ่างผสม คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลละลาย ใส่พริกจินดา คนให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน พักไว้
3. นำเนื้อไก่ที่หมักได้ที่แล้ววางบนตะแกรง นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าเนื้อไก่จะสุก และมีสีเหลืองสวย (โดยระหว่างย่างทาเนื้อไก่ด้วยน้ำซอสที่เหลือเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เนื้อไก่แห้งและทำให้สีสวย) นำเนื้อไก่ที่ย่างสุกแล้วออกจากเตา หั่นส่วนสะโพกเป็นชิ้นพอคำ ใส่จาน พักไว้
4. เตรียมสะเดาโดยจุดเตาถ่านรอให้ไฟพออุ่นๆ นำสะเดาลงย่างบนตะแกรงโดยพลิกไปมา จนสะเดาสะดุ้งและสีสดขึ้น ย่างประมาณ 10 นาที (ระหว่างย่างหมันพลิกสะเดาไปมาเผื่อไม่ให้สะเดาไหม้ด้านด้านหนึ่ง) พอครบกำหนดนำสะเดาขึ้น ใส่จานพักไว้ แล้วรูดเอาแต่ดอกกับยอดออกจากก้าน
5. ใส่สะเดาที่รูดแล้วลงในอ่างผสมตามด้วยหอมเจียว มะพร้าวคั่ว และถั่วลิสง เคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำยำลงในอ่างผสม เคล้าให้น้ำยำเคลือบเครื่องยำจนทั่ว
6. จัดไก่ย่างลงในจาน ตามด้วยยำสะเดาน้ำพริกเผาและไข่นกกระทาต้ม ราดด้วยหัวกะทิ เสิร์ฟ
หมายเหตุ
การย่างสะเดานั้นเป็นวิธีสมัยก่อน โดยบางบ้านจะนิยมนำสะเดามาย่างหรือฟาดบนเตาถ่าน เพื่อให้สะเดาสะดุ้งไฟ การทำเช่นนี้จะช่วยดึงรสชาติของสะเดาให้เด่นชัดยิ่งขึ้น และช่วยลดความขมของสะเดาลงไปได้เช่นเดียวกับการนำสะเดาไปลวก
อ่านบทความเพิ่มเติม