ย่างเข้าเดือนที่สองของการเก็บตัวอยู่บ้านช่วยชาติ หลายคนเริ่มเบื่อกับ wfh แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อยู่บ้านจริงๆ โดยไม่ต้องเวิร์ก เพราะหลายองค์กรต้องหยุดงานไว้ก่อน เอาละสิ รายได้หลักหยุดแต่รายจ่ายกับหนี้สินยังคงวิ่งอยู่ คนที่มีเงินเก็บก็อาจจะพออยู่ได้ แต่ใครที่ใช้เงินเดือนชนเดือน หรือไม่อยากให้เงินเก็บร่อยหรอ ก็ต้องหารายได้เสริมโดยด่วนและแน่นอนว่าอาชีพเสริมช่วงคนไม่ออกจากบ้าน ร้านอาหารก็นั่งกินแบบไม่ค่อยสะดวก คือการทำขนมขาย เพราะทำแล้วเก็บไว้ได้ระยะหนึ่ง ไม่เสียเร็วเหมือนอาหารคาว แถมหลายสูตรยังทำง่ายมากอย่างไม่น่าเชื่อ ใครขยันหน่อยก็ทำเองส่งเองบริเวณใกล้เคียงได้ ถ้าไม่สะดวกส่ง ก็ใช้บริการพี่ๆ ในแอปพลิเคชั่นที่ช่วยส่งพัสดุและเอกสารได้ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่า KRUA.CO มีเมนูไหนน่าสนใจมาฝากบ้าง
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรโรลสับปะรด
เค้กโรล เป็นเค้กทำง่าย เร็ว แต่จะให้นุ่มอร่อยอย่างไรนั้นก็แล้วแต่เทคนิคคนทำ โรลสูตรนี้ทำสไตล์ซูเฟล มีจุดเด่นที่ไม่ใส่ผงฟู แต่ใช้วิธีแยกไข่ขาวออกมาตีเป็นเมอแรงก์เพื่อให้เนื้อเค้กฟูเบายิ่งขึ้น รสสัมผัสจะเนียนนุ่ม ส่วนไข่แดงนำมาผสมกับแป้งที่ผัดกับเนยแล้ว (หากใครเคยทำเอแคลร์บ่อยๆ คงพอนึกภาพออกตอนค่อยๆ ผสมไข่ลงในแป้งช้าๆ) หลังจากนั้นก็ผสมไข่สองส่วนนี้เข้าด้วยกันอย่างเบามือ เทใส่ถาดปาดให้เรียบ ใช้เวลาอบไม่กี่อึดใจก็จะได้เค้กเนื้อนุ่มๆ อร่อยๆ ไว้กิน ไส้ด้านในนอกจากจะเป็นสับปะรดที่ใส่คู่กับเหล้ามาลิบูซึ่งเป็นเหล้ากลิ่นมะพร้าวแล้ว ยังเปลี่ยนเป็นผลไม้หรือครีมชนิดอื่นๆ ได้ตามชอบ
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรคุกกี้เนยช็อกโกแลต
คุกกี้เนยช็อกโกแลตหรือ Spritzgeback เป็นบิสกิตสัญชาติเยอรมันที่ทำกินกันในช่วงคริสต์มาส คำว่า Spritzen ในภาษาเยอรมันมาจากคำว่า Squirt ที่แปลว่าบีบหรือฉีด ดังนั้นคุกกี้ชนิดนี้จึงเป็นคุกกี้แบบบีบด้วยหัวบีบหรือกระบอกกดคุกกี้ กล่าวกันว่าแม่บ้านชาวเยอรมันมักใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในช่วงคริสต์มาสเพื่อทำเบเกอรี รวมถึงคุกกี้ชนิดนี้ร่วมกับเด็กๆ และยังเป็นการสืบทอดขนมสูตรดั้งเดิมของครอบครัวอีกด้วย
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรบราวนีชีสเค้ก
บราวนีชีสเค้กเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นทำชีสเค้กเพราะทำง่ายแถมยังใช้เวลาอบไม่นาน นิยมรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟ ชีสเค้กชนิดนี้บางคนเรียกว่ามาร์เบิลชีสเค้ก (Marble Cheesecake) เนื่องจากลักษณะลายชีสเค้กเหมือนหินอ่อน บางครั้งก็ใช้เนื้อบราวนีช็อกโกแลตเป็นฐานแล้วเทเนื้อชีสเค้กตามลงไปแบบเรียบๆ ก็ได้ ทำใส่ได้ทั้งพิมพ์เข็มขัดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยม แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรเครปเค้กกับซอสสตรอว์เบอร์รี
เครปเค้กเป็นขนมหวานที่นำแผ่นเครปบางๆ มาปาดด้วยครีมจนเป็นก้อนซึ่งมีลักษณะเหมือนเค้ก ที่มาของชื่อ Mille Crêpe หรือเครปพันชั้น มาจากคำว่า Mille ที่แปลว่าหนึ่งพัน ผู้คิดค้นขนมชนิดนี้จึงตั้งชื่อให้ดูยิ่งใหญ่ น่าสนใจ โดยรับประทานคู่กับซอสสตรอว์เบอร์รีที่ทำเองจากสตรอว์เบอร์รีแช่แข็งหรือหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป รสเปรี้ยวหวานเข้ากันดีกับแป้งเครปเค้กนุ่มๆ และวิปครีมที่ทั้งหอมมันและนุ่มฟู
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรทาร์ตผลไม้
ทาร์ตคือขนมที่ประกอบด้วย 2 ถึง 3 ส่วนด้วยกัน คือฐานแป้ง (base) ฟิลลิ่งหรือไส้ (filling) และท็อปปิ้ง ฐานเป็นแป้งแบบ sweet pastry dough อบฐานแป้งให้เรียบร้อย จากนั้นจะใส่ฟิลลิ่งเป็นอะไรก็ตามใจชอบ ถ้าเป็นของหวาน ฟิลลิ่งมักเป็นคัสตาร์ดอย่างในสูตรนี้ หรือช็อกโกแลตกานาช หรืออัลมอนด์ฟิลลิ่ง โดยมีความแตกต่างของไส้เล็กน้อย คือไส้ที่ทำสุกไว้แล้วเช่นคัสตาร์ดตักไส้ใส่ฐานแป้งก็กินได้เลย หรือที่เป็นไส้ดิบโดยมากมักมีส่วนผสมของไข่และแป้ง ซึ่งต้องนำไปอบพร้อมฐานแป้งที่อบมาแล้วเสียก่อน ไส้จึงจะสุกและอยู่ตัว จากนั้นจะมีท็อปปิ้งหรือไม่ก็ตามแต่ใจ สำหรับทาร์ตผลไม้ประกอบด้วยฐานแป้ง ไส้คัสตาร์ด และผลไม้สดรสเปรี้ยวอมหวาน เมื่อกัดกินส่วนประกอบทั้งสามโดยพร้อมเพรียงกันจะรับรู้ถึงรสชาติและสัมผัสที่ลงตัว
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรคัพเค้กสตรอว์เบอร์รี
คัพเค้กสตรอว์เบอร์รีเป็นเค้กเนื้อวานิลลาที่มีลูกเล่นพิเศษตรงที่ข้างในมีเนื้อสตรอว์เบอร์รีสดบวกกับความหวานมันของครีมสดที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด เคล็ดลับการทำคัพเค้กให้อร่อย ควรเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือใจ ใส่ใจลงไปขณะทำ จะทำให้คัพเค้กมีความหมาย หน้าตาน่ารัก แถมอร่อยอีกต่างหาก
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรแยมส้มเสาวรส
ทั้งส้มและเสาวรสเป็นผลไม้เมืองร้อนที่บ้านเรามีแทบจะทั้งปี และเหมาะกับการนำทำแยมมากๆ เพราะนอกจากจะมีรสชาติเปรี้ยวนำแล้วยังมีรสหวานและกลิ่นหอมสดชื่น กลิ่นที่ได้จากผิวส้มวาเลนเซีย ผสมกับเสาวรส เคี่ยวพร้อมเพกติก น้ำตาล ปรุงรสเล็กน้อย เทใส่ภาชนะขวดแก้วที่ต้มในน้ำร้อน เพื่อฆ่าเชื้อ และพักให้เย็นสนิท เพื่อให้แยมอยู่ได้นาน ปราศจากเชื้อโรคและที่สำคัญยังใส่ขวดแช่ตู้เย็นกินได้นานเป็นเดือน เหมาะมากสำหรับการทำขายเพราะเก็บไว้ได้นานและยังสามารถทำแพ็คเกจน่ารักๆ ได้อีกด้วย
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรเค้กชาเย็น
ชิฟฟอนเค้กเนื้อเบานุ่มเข้มข้นหวานมันรสชาเย็นแบบไทย สอดไส้และราดหน้าด้วยครีมชาเย็นเนื้อคล้ายคัสตาร์ดหรือครีมสังขยา ได้กลิ่นหอมจากชา เนื้อสัมผัสของชิฟฟอนเมื่อกินแล้วจะนุ่มลิ้น เคล็ดลับสำคัญในการทำชิฟฟอนเค้กคือ เค้กมีลักษณะเนื้อเค้กที่นุ่มเบา ใช้น้ำมันพืชเป็นส่วนผสมหลักแทนการใช้เนย แต่เคล็ดลับของเมนูเค้กชาเย็นคืออย่าตีไข่ขาวตั้งยอดแข็งมากจนเกินไป เวลาตะล่อมกับส่วนผสมอื่นๆ จะเข้ากันได้ยาก และทำให้เนื้อเค้กหยาบแข็งกระด้างไม่นุ่มนวลอีกด้วย
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรพายบานอฟฟี
พายบานอฟฟีถือเป็นขนมหวานยอดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย เป็นขนมสัญชาติอังกฤษ บานอฟฟีเป็นคำผสมระหว่าง banana และ toffee ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมหลัก มีต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษในปี ค.ศ.1972 โดย Lan Dowding และ Nigel Mackenzie แห่งร้าน The Hungry Monk Restaurant ในเมือง Jevington และ East Sussex ได้แรงบันดาลใจจากขนมสัญชาติอเมริกันอย่าง Blum ‘s Coffee Toffee Pie การทำบานอฟฟีสูตรดั้งเดิมนั้นจะต้องนำนมข้นหวานที่ยังไม่เปิดทั้งกระป๋องลงไปต้มในน้ำเดือดเป็นชั่วโมงๆ จนกว่านมข้นหวานจะข้นและเป็นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้เวลานาน และไม่ปลอดภัย สูตรนี้จึงปรับเป็นคาราเมล เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของคาราเมล แล้วจึงนำไปผสมกับนมข้นหวาน ข้อควรระวังในการทำคาราเมลคือไม่ควรใส่ของเหลวที่เย็นลงในคาราเมลร้อนๆ เพราะจะทำให้คาราเมลกระเด็นเป็นอันตรายได้ และควรเลือกกล้วยหอมสุกวางเป็นท็อปปิ้งเพราะรสชาติจะหอมหวานกว่ามากๆ
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรชีสเค้กสตรอว์เบอร์รี
ชีสเค้กแบบแช่เย็นเนื้อเบาเนียนเหมือนฟองน้ำจากส่วนผสมที่เป็นเมอแรงก์ แต่งหน้าเค้กด้วยผลสตรอว์เบอร์รีสดกรอบราดซอสราสป์เบอร์รีรสชาติเปรี้ยวอมหวานเพื่อเพิ่มความฉ่ำให้เนื้อขนม เนื้อเค้กทำเก็บไว้ล่วงหน้าได้ (ทำเสร็จพักให้หายร้อนนำเข้าตู้เย็นทันที) เมื่อจะรับประทานจึงวางผลสตรอว์เบอร์รีหรือผลไม้ตามชอบ เคล็บลับสำหรับเมนูนี้ ชีสเค้กเนื้อเมอแรงก์ไข่ขาวสูตรนี้ไม่ใส่วิปปิ้งครีม จึงทำให้เนื้อชีสเค้กเบาและรสไม่มันเลี่ยน หากต้องการเพิ่มรสเข้มมันให้ใส่ไข่แดง 3 ฟอง แทนไข่ขาว หรือเพิ่มวิปปิ้งครีมเล็กน้อยขณะตีผสมครีมชีส จะทำให้เนื้อเค้กมีความหอมมันมากยิ่งขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม