ไหนใครไม่กินผักบ้าง ยกมือขึ้น!! หนึ่งในนั้นก็มีผู้เขียนด้วยเหมือนกัน แฮะๆ ในภาพจำของเราก็คงมีแค่รสขมๆ จากผัก แต่วันนี้เราเปลี่ยนความคิดแล้วนะ เมื่อได้มาลองชิมน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ 5 สีนี้ คือแบบเปลี่ยนโลกไปเลย เพราะอร่อยจริงๆ ดื่มได้แบบง่ายๆ แถมยังมีไฟเบอร์จากผักผลไม้ต่างๆ และที่สำคัญยังได้รับสารพฤษเคมีอีกด้วย แต่เอ๊ะ! สารพฤกษเคมีนั้นคืออะไรกันนะ เรามาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
สารพฤษเคมี เป็นสารที่เราจะพบได้ในผัก ผลไม้ และจะแบ่งเป็น 5 สี คือ ส้ม แดง เขียว ม่วง และขาว คุณสมบัติหลักๆ จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกัน บำบัดโรค และส่งเสริมให้สุขภาพแข็งแรงดียิ่งขึ้น ซึ่งในแต่ละสีก็จะให้ประโยชน์ที่แตกต่างไป
สีส้ม/เหลือง – มีสารเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) สูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ช่วยต้านการอักเสบ ส่งเสริมสุขภาพดวงตา ป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน มักพบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีส้มและสีเหลือง เช่น แครอท ส้ม มะละกอสุก ข้าวโพด ฟักทอง สับปะรด เป็นต้น
สีแดง/ชมพู – มีสารไลโคปีน (Lycopene) และบีทาเลน (Betalain) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต และทำให้หัวใจแข็งแรง มักพบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีแดง เช่น บีทรูท มะเขือเทศ ทับทิม แตงโม เป็นต้น
สีเขียว – มีสารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) และสารลูทีน (Lutin) ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ลดไขมันสะสมในร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันและลดการเสื่อมของจอประสาทตา มักพบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีเขียว เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ผักบุ้ง บรอคโคลี อะโวคาโด องุ่นเขียว เป็นต้น
สีม่วง/น้ำเงิน – มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็งและไขมันอุดตันในหลอดเลือดชะลอความเสื่อมของเซลล์ บำรุงสายตาผิวพรรณ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด มักพบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีม่วงและสีน้ำเงิน เช่น มะเขือม่วง กะหล่ำม่วง องุ่น ลูกพรุน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เป็นต้น
สีขาว – มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) หลายชนิดต้านอนุมูลอิสระ ลดการแบ่งตัวเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบ ลดการปวดข้อเข่า มักพบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีขาว เช่น ฝรั่ง แอปเปิล แก้วมังกร กล้วย พุทรา เห็ดชนิดต่างๆ เป็นต้น
เห็นไหมล่ะคะ ว่าการที่เรากินผักผลไม้ต่างสีเราก็จะได้รับประโยชน์ที่ต่างกัน ทีนี้มาดูสูตรน้ำปั่นกันดีกว่า ว่าแต่ละสีมีอะไรบ้าง เตรียมของไว้ครั้งเดียวกินได้ยาวๆ หลายวันเลย
ยังไม่จบเพียงแค่นี้นะคะ เราจะมาบอกวิธีการเตรียมของไว้ทำน้ำปั่นแบบยาวๆ กันด้วยค่ะ เตรียมไว้ครั้งเดียว กินได้นานเลย โดยเมื่อได้วัตถุดิบต่างๆ ครบแล้วก็จะเก็บโดยการใส่ถุงซิปล็อคหรือถุงเย็น หรือจะเป็นกล่องเก็บอาหารก็ได้ แล้วนำไปแช่แข็งเก็บไว้เป็นชุดๆ
การเตรียมวัตถุดิบที่ไม่ต้องผ่านความร้อน
แอปเปิล – ล้างให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเต๋าเล็กๆ จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเกลือ โดยใช้เกลือ ½ ช้อนชา ต่อน้ำ 1 ถ้วย แช่นาน 3-5 นาที จากนั้นก็เอาขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วเก็บเข้าถุง เกลือจะช่วยให้แอปเปิลไม่ดำ เมื่อปั่นน้ำออกมาแล้ว จะได้สีที่สวยงาม
สับปะรด – นำไปล้างฝุ่นออกให้หมด จากนั้นปอกเปลือกออก นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเก็บเข้าถุง
เซเลอรี – นำไปล้างให้สะอาด จากนั้นลอกเปลือกออก หั่นเป็นท่อน ขนาด 1 นิ้ว แล้วเก็บเข้าถุง
ส้ม – นำไปล้างให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเก็บเข้าถุง
การเตรียมวัตถุดิบที่ต้องผ่านความร้อน
บีทรูท – ในส่วนของบีทรูทให้นำไปล้างจนหมดคราบดินและนำไปต้มทั้งเปลือกให้สุก ทดสอบความสุกโดยใช้ไม้แหลมหรือส้อมจิ้ม ถ้าจิ้มเข้าไปได้แบบง่ายๆ แสดงว่าสุกแล้ว นำขึ้นมาน็อคน้ำเย็นจัด แล้วปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเก็บเข้าถุง *เมื่อต้มบีทรูทสุกแล้วเปลือกจะร่อน ทำให้ปอกเปลือกได้ง่ายขึ้น
แครอท – นำแครอทไปล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นแว่น นำไปนึ่งให้สุก การนึ่งจะคงช่วยให้วิตามินสูญเสียออกไปน้อยกว่าการต้ม เมื่อสุกแล้วน็อคด้วยน้ำเย็นจัด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วเก็บเข้าถุง *เราสามารถนำบีทรูทมานึ่งได้เหมือนกันนะคะ โดยปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำไปนึ่งให้สุกค่ะ
ผักกาดขาว/กะหล่ำปลี/กะหล่ำปลีม่วง – นำไปล้างให้สะอาด หั่นแบ่งครึ่งเป็นเสี้ยวเล็กๆ เป็นจากนั้นก็นำไปนึ่งให้สุก น็อคด้วยน้ำเย็นจัด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วเก็บเข้าถุง
เมื่อเตรียมผัก ผลไม้ทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็นำมาชั่งตวงตามสูตรใส่ถุงซิปล็อคหรือกล่องเก็บอาหารเข้าช่องแช่แข็ง พอเวลาจะดื่ม สามารถนำออกมาปั่นได้เลย ประหยัดเวลาไปเยอะเลยใช่ไหมล่ะคะ