ใครว่าทำสเต๊กกินเองที่บ้านไม่ได้บ้างครับ เพื่อนๆ หลายคนคิดว่าการทำสเต๊กกินเองที่บ้านเป็นเรื่องหายนะ ต่อให้ได้เนื้อคุณภาพดีแค่ไหนก็ไม่สามารถทำออกมาได้ดีเลยสักครั้ง กลายเป็นเสียของเสียกำลังใจทุกครั้งไป ก็เลยไปกินสเต๊กนอกบ้านกันเสียดีกว่า
แต่เคยสงสัยไหมครับว่า อะไรที่ทำให้สเต๊กโฮมเมดของเรามันไม่ได้เรื่อง แห้งไปบ้าง สีไม่สวยบ้าง เหนียวไปบ้าง แล้วชาตินี้จะทำกินเองได้ที่บ้านหรือเปล่าเนี่ย ขอตอบเพื่อนๆ ดังๆ เลยนะครับว่า ชาตินี้ต้องทำสเต๊กอร่อยๆ กินเองที่บ้านได้อย่างแน่นอนครับ และมันง่ายกว่าที่คิดมากกกก… ไม่เชื่อลองอ่านบทความนี้ให้จบ แล้วไปเข้าครัวลองทำดู จะเข้าใจว่าทำสเต๊กกินเองที่บ้านมันเรื่องหมูๆ
ข้อที่ (1) ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจก่อนว่า สเต๊กที่อร่อยนั้นต้องเริ่มจากเนื้อวัวคุณภาพดี เราไม่สามารถย่างสเต๊กให้อร่อยได้เลย ถ้าเนื้อวัวของเราห่วย ใช่ครับ เชฟมือทองที่ไหนก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องเลือกเนื้อวัวเกรดดีเท่านั้น ส่วนของเนื้อวัวที่เหมาะสมจะนำมาทำสเต๊กก็คือ Tenderloin, Sirloin และ Ribeyes นะครับ ความนุ่มเหนียวก็ลดหลั่นลงไปตามลำดับ ส่วนราคาก็ตามที่เรารู้กัน ยิ่งนุ่มยิ่งแพง แนะนำเพื่อนๆ ว่าให้เลือกซื้อชิ้นเนื้อที่มีความหนาประมาณ 1.5 ถึง 2 เซนติเมตร ไม่หนาไม่บางกว่านี้ และเป็นเนื้อโคขุนที่มีสีเนื้อแดงเข้ม ไม่เอาสีชมพูอ่อนเหมือนเนื้อหมู เนื้อฝรั่งหรือญี่ปุ่นส่วนมากจะอร่อยกว่าเนื้อไทย เนื่องจากพันธุ์วัวอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น และอาหารที่เลี้ยง ทำให้วัวต่างประเทศเนื้อเยอะกว่า ไขมันมากกว่า และรสชาติดีกว่าเนื้อวัวบ้านเรา
ข้อที่ (2) ก่อนที่จะถึงเวลาย่างเนื้อสเต๊ก ต้องให้แน่ใจว่า เราเอาชิ้นเนื้อออกมาพักนอกตู้เย็นแล้วอย่างน้อย 20 นาที หรือจนได้เนื้อที่มีอุณหภูมิอยู่ที่อุณหภูมิห้องแล้วเท่านั้น เนื่องจากมีผลกับความร้อนในขณะย่าง ถ้าเนื้อยังเย็นอยู่ กว่าจะย่างสุกถึงเนื้อใน ต้องใช้เวลามาก ทำให้เนื้อส่วนนอกที่สัมผัสกับความร้อนมากกว่านั้นกระด้าง และสุกแข็งเกินไป สูญเสียความอร่อยไปหมด
ข้อที่ (3) ปรุงรสง่ายๆ ด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก ต้องการเพียงแค่นี้เท่านั้นนะครับ โรยเกลือและพริกไทยให้ทั่วชิ้นเนื้อทั้ง 2 ด้าน จากนั้นเคล้าด้วยน้ำมันมะกอกให้เต็มที่
ข้อที่ (4) ใช้กระทะก้นหนานิดหนึ่งเพื่อกักเก็บความร้อนได้เต็มที่ เปิดไฟให้แรงสุดๆ รอจนกระทะมีควันขึ้นเล็กๆ จึงนำเนื้อลงย่าง จังหวะที่เนื้อสัมผัสกระทะจะได้ยินเสียง zzzz ดังและกลิ่นหอมคละคลุ้งมาก ย่างเนื้อด้วยไฟแรงอย่างนี้ด้านละ 1 นาที (จับเวลาไปเลย) แล้วจึงกลับด้าน ย่างต่ออีก 1 นาที จากนั้นจึงใส่เนยสดชนิดจืด กระเทียมบุบ และสมุนไพรสดอะไรก็ได้ เช่น โรสแมรี ออริกาโน พาร์สเลย์ หรือรากผักชี เพื่อเพิ่มความหอมให้กับสเต๊กของเรา กลับด้านอีกครั้งแล้วย่างต่ออีก 1 นาที ระหว่างย่าง ใช้ช้อนตักเนยละลายในกระทะราดลงบนเนื้อเรื่อยๆ สุดท้ายกลับด้านอีกครั้งแล้วย่างต่ออีก 1 นาที สรุปใจความแล้วคือย่างด้านละ 1 นาที จำนวน 2 พลิก หรือด้านละ 2 ครั้ง เนื้อสเต๊กที่ได้จะสุกระดับ medium rare ถึง medium กำลังพอดี
ข้อที่ (5) เมื่อย่างเสร็จครบเวลา 4 นาทีแล้ว ให้เอาขึ้นจากกระทะย่างทันที วางพักบนจานอย่างน้อย 5 นาที ขั้นตอนนี้มีความจำเป็นมาก ฝรั่งเรียกว่า meat resting หรือการพักเนื้อ เพื่อให้เนื้อสเต๊กมีความชุ่มฉ่ำอย่างเต็มที่
ข้อที่ (6) เสิร์ฟทันที จะหั่นชิ้นเนื้อเพื่อโชว์ความสุกกำลังดีตามต้องการ หรือจะเสิร์ฟทั้งชิ้นก็สวยงามดี แล้วแต่ชอบเลยครับ สามารถตกแต่งชิ้นสเต๊กของเราได้ด้วยกระเทียม หรือสมุนไพรที่เราใส่ในกระทะย่าง ท็อปด้วยเนยสดอีกสักหน่อย ราดด้วยน้ำมันมะกอก extra virgin อีกสักนิด ก็จะได้สเต๊กคุณภาพเทียบเท่าร้านอาหารดีๆ ด้วยฝีมือเราเองแล้วครับ
ปัจจัยที่ควรระวังคือ ขนาดของชิ้นเนื้อที่แตกต่างกันก็ใช้เวลาทำให้สุกแตกต่างกันไป ระดับความสุกก็เช่นกัน ถ้าเพื่อนๆ ชอบกินสเต๊กสุกหน่อย คือ well done หรือ medium well ก็ให้เพิ่มเวลาย่างต่อไปจนกว่าเนื้อจะได้ความสุกที่ต้องการนะครับ
ฝากเคล็ดลับง่ายๆ ให้ลองไปทำสเต๊กที่บ้านกันดู เชฟน่านขอรับรองว่าทำกินเองที่บ้านมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว มีความสุขทุกครั้งที่เห็นครอบครัวกินสเต๊กที่เราทำอย่างเอร็ดอร่อย ที่สำคัญมันไม่ยากอย่างที่คิดเลย และเพื่อนๆ ทุกคนก็สามารถทำได้
